TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

รีบเช็ก! ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทารกสูญเสียการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด!!

บทความ 3 นาที
รีบเช็ก! ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทารกสูญเสียการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด!!

ภาวะสูญเสียการได้ยินอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด ซึ่งก่อให้เกิดความบกพร่องในพัฒนาการด้านภาษาและการพูดจะล่าช้ากว่าเด็กปกติเป็นอย่างมาก

รายงานการเกิดภาวะ สูญเสียการได้ยิน ของทารกที่เกิดใหม่ต่อปีในประเทศไทย พบที่อัตรา 1.7 รายต่อ 1,000 ราย ซึ่งในเด็กที่มีประสาทหูพิการทั้งสองข้างระดับรุนแรงตั้งแต่แรกเกิด เมื่อโตขึ้นจะเป็นใบ้ ทำให้ด้อยโอกาสในส่วนต่าง ๆ ทั้งด้านการศึกษา สังคม และการประกอบอาชีพ กลายเป็นปัญหาครอบครัวที่ต้องร่วมช่วยกันดูแล

มีหลักฐานในต่างประเทศพบว่า หากสามารถวินิจฉัยภาวะสูญเสียการได้ยินในทารกแรกเกิดภายในระยะแรกก่อนอายุ 3 เดือน และทำการรักษาฟื้นฟูก่อนอายุ 6 เดือน ก็จะทำให้สมรรถภาพในด้านการฟังและการพูดมีการพัฒนาได้ใกล้เคียงเด็กปกติได้

สูญเสียการได้ยิน

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ทารก สูญเสียการได้ยิน ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ขวบ

  • พ่อแม่หรือคนในครอบครัวใกล้ชิด เป็นโรคประสาทหูพิการ เป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิดหรือในวัยเด็กเล็ก
  • ทารกติดเชื้อในครรภ์ หรือแม่มีภาวะติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
  • ในขณะตั้งครรภ์ได้รับยาหรือสารที่เป็นพิษต่อทารกในครรภ์ หรือขณะคลอด
  • ทารกมีความผิดปกติของรูปใบหน้า ศีรษะ รวมทั้งความผิดปกติของรูปร่างใบหู และช่องหู
  • ทารกมีการเจ็บป่วย หรือภาวะที่ต้องการให้ดูแลในหอบริบาลวิกฤตนาน 48 ชั่วโมงหรือมากกว่า
  • มีลักษณะเฉพาะหรืออาการที่แสดงเกี่ยวข้องกับกลุ่มโรคที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินแบบประสาทหูชั้นในเสีย หรือทางนำเสียงเสีย
  • ทารกมีอาการตัวเหลือง เนื่องจากสารบิลิรูบินในเลือดสูงจนต้องถ่ายเลือด
  • ตรวจพบการติดเชื้อของทารกหลังคลอด ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะสูญเสียการได้ยิน รวมทั้งโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • โรคหูน้ำหนวกชนิดน้ำใสที่เกิดซ้ำ หรือปล่อยให้เป็นเรื้อรังนานอย่างน้อย 3 เดือน

พัฒนาการทางด้านการได้ยิน ภาษา และการพูดของเด็กปกติ 2 ขวบแรกต้องเป็นแบบนี้ >>
เช็กพัฒนาการทางด้านการได้ยิน ภาษา และการพูดของเด็กปกติ 2 ขวบแรก

สูญเสียการได้ยิน

ระยะแรกเกิดถึง 3 เดือน

  • ทารกจะลืมตาตื่น กะพริบตา หรือสะดุ้งคล้ายตกใจ เมื่อได้ยินเสียงดัง เช่น เสียงแตรรถ หมาเห่า ฯลฯ
  • ทำท่าคล้ายหยุดฟัง เมื่อพ่อแม่อุ้มหรือก้มลงพูดคุยใกล้ ๆ

ระยะ 3-6 เดือน

  • ทารกจะสามารถหันศีรษะไปทางข้างที่มาของเสียง แม้จะเป็นเสียงค่อนข้างเบาได้ เช่น เสียงของเล่น
  • ลูกจะออกเสียงคล้ายพยัญชนะ และสระรวมกัน เช่น “กา-กา” “บา-บา” ซ้ำ ๆ

ระยะ 6-9 เดือน

  • ทารกจะหันศีรษะไปมาเพื่อหาเสียงเรียกชื่อ
  • จะออกเสียงติดต่อกันยาว ๆ ได้ 4-6 พยางค์ เช่น “ลา-ลา-ลา-ลา” “บาคาบาคา”
  • ลูกจะสนใจฟังและเลียนเสียงต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม เช่น เสียงหมาเห่า เสียงจิ้งจก ตุ๊กแก

ระยะ 9-12 เดือน

  • ทารกจะก้มศีรษะมองไปยังเสียงที่เกิดข้างตัว ที่อยู่ต่ำกว่าระดับหูได้อย่างรวดเร็ว
  • สามารถแสดงท่าทางทำตามคำสั่งได้ถูกต้อง เช่น บ๊ายบาย สวัสดี ขอ
  • เริ่มออกเสียงพูดเป็นคำ เช่น “แม่ หม่ำ ไป” เป็นต้น

ระยะ 12-16 เดือน

  • ลูกจะหันหาเสียงได้ถูกต้องทุกทิศทาง มองหาสิ่งของ หรือคนที่คุ้นเคยได้ถูกต้อง
  • พูดเป็นคำ ๆ ได้อย่างน้อย 10-15 คำ เรียกชื่อสิ่งต่าง ๆ จากที่เห็น เช่น “หมา แมว” หรือ บอกความต้องการ เช่น “เอา ไป” ได้

ระยะ 18-24 เดือน

  • ลูกสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น ชี้อวัยวะได้อย่างน้อย 2 อย่าง ชี้สิ่งของที่คุ้นเคยได้ เมื่อพ่อแม่เรียกชื่อของสิ่งนั้น
  • พูดได้ประมาณ 40-100 คำ และเริ่มพูดเป็นวลีสั้น ๆ ได้แล้ว เช่น “เอามา”

สูญเสียการได้ยิน

คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ว่าลูกน้อยมีภาวะสูญเสียการได้ยิน ได้จากการพูดหรือมีพัฒนาการล่าช้าไม่เป็นไปตามวัย มีความผิดปกติด้านการได้ยิน เกิดความบกพร่องทางด้านภาษา หากสงสัยหรือพบความผิดปกติทางการได้ยินในทารกหรือเด็กเล็ก ควรรีบพามาพบแพทย์โดยเร็วเพื่อเริ่มต้นวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ


ที่มา : rama.mahidol.ac.th/ent/

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

แม่จ๋า! อย่าแคะหูลูก เพราะขี้หูมีประโยชน์มากกว่าที่คิด

เช็คด่วน! รูเล็กๆข้างหูของลูก สัญญาณร้ายที่ไม่ควรมองข้าม

บทความจากพันธมิตร
เคล็ดลับคุณแม่ อาหารเสริมเด็ก เลือกย่างไรให้ลูกเรียนรู้ดี มีพัฒนาการสมวัย
เคล็ดลับคุณแม่ อาหารเสริมเด็ก เลือกย่างไรให้ลูกเรียนรู้ดี มีพัฒนาการสมวัย
แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว! ตัวช่วยสุดปังที่แม่เลือก กันแดดเด็ก Godmami Kids ปกป้องผิวลูกน้อยจากแดดร้าย
แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว! ตัวช่วยสุดปังที่แม่เลือก กันแดดเด็ก Godmami Kids ปกป้องผิวลูกน้อยจากแดดร้าย
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
อยากให้ลูกเป็น เด็กฉลาด จิตใจดี เสริมพลังสมองและภูมิคุ้มกัน ด้วย 2 องค์ประกอบทางโภชนาการ DHA และ Probiotic LPR
เทียบชัดๆ นมสูตร 3 ที่มี PHP ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการภูมิแพ้ ยี่ห้อไหนถูกใจแม่ยุคใหม่ที่สุด
เทียบชัดๆ นมสูตร 3 ที่มี PHP ช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการภูมิแพ้ ยี่ห้อไหนถูกใจแม่ยุคใหม่ที่สุด

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • รีบเช็ก! ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทารกสูญเสียการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด!!
แชร์ :
  • เลี้ยงลูกสองภาษาไม่ยาก! แจกคัมภีร์ 100 ประโยคคุยกับลูก ภาษาอังกฤษ ใช้ได้ทุกวัน

    เลี้ยงลูกสองภาษาไม่ยาก! แจกคัมภีร์ 100 ประโยคคุยกับลูก ภาษาอังกฤษ ใช้ได้ทุกวัน

  • ทารกบิดตัวบ่อย ปกติไหม? 5 วิธีแก้อาการลูกบิดตัว ทำเองได้ที่บ้าน

    ทารกบิดตัวบ่อย ปกติไหม? 5 วิธีแก้อาการลูกบิดตัว ทำเองได้ที่บ้าน

  • ลูกโอ้เอ้ตื่นสาย น่ากังวลแค่ไหน? ผลกระทบที่ต้องรู้ และวิธีปรับพฤติกรรม

    ลูกโอ้เอ้ตื่นสาย น่ากังวลแค่ไหน? ผลกระทบที่ต้องรู้ และวิธีปรับพฤติกรรม

  • เลี้ยงลูกสองภาษาไม่ยาก! แจกคัมภีร์ 100 ประโยคคุยกับลูก ภาษาอังกฤษ ใช้ได้ทุกวัน

    เลี้ยงลูกสองภาษาไม่ยาก! แจกคัมภีร์ 100 ประโยคคุยกับลูก ภาษาอังกฤษ ใช้ได้ทุกวัน

  • ทารกบิดตัวบ่อย ปกติไหม? 5 วิธีแก้อาการลูกบิดตัว ทำเองได้ที่บ้าน

    ทารกบิดตัวบ่อย ปกติไหม? 5 วิธีแก้อาการลูกบิดตัว ทำเองได้ที่บ้าน

  • ลูกโอ้เอ้ตื่นสาย น่ากังวลแค่ไหน? ผลกระทบที่ต้องรู้ และวิธีปรับพฤติกรรม

    ลูกโอ้เอ้ตื่นสาย น่ากังวลแค่ไหน? ผลกระทบที่ต้องรู้ และวิธีปรับพฤติกรรม

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว