คนท้องเครียด ขี้บ่น โมโหร้าย รู้ไหมว่าส่งผลอย่างไรต่อลูกในท้อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เพราะอารมณ์ตลอดช่วงการตั้งครรภ์มีความแปรปรวนสูง ในขณะที่คุณกำลังมีความสุขและตื่นเต้นที่จะได้เป็นแม่คน คุณก็กลับมากังวลเรื่องพัฒนาการและอนาคตของลูก เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องปกติที่คุณจะกังวล แต่หากคุณกังวลเกินเหตุจนกลายเป็นความเครียดแล้วละก็ ลูกในท้องอาจได้รับผลกระทบจากความเครียดของคุณได้ คนท้องเครียด โมโหร้าย อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพลูกในครรภ์ เรามาดูกันว่าคนท้องเครียดเกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีรับมือกับความเครียดอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันค่ะ

 

คนท้องเครียด เกิดจากอะไร

ในช่วงตั้งครรภ์ แม่ท้องมักมีความกังวลหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย น้ำหนัก การปัสสาวะ อาเจียน คลื่นไส้ รวมถึงการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ลูกในครรภ์เกิดความผิดปกติ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้แม่ท้องมีอาการเครียดนั้น เกิดจาก 2 เหตุหลัก ได้แก่

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ ส่งผลให้แม่มีความเครียดและความอ่อนไหวทางอารมณ์มากขึ้น
  2. เกิดจากความกังวลของคุณแม่เองที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด

 

ผลกระทบจากความเครียดต่อแม่

สำหรับแม่ท้องที่มีความเครียดสะสมไว้นาน จนกลายเป็นความเครียดเรื้อรัง อาจส่งผลต่อร่างกายให้เกิดความเจ็บป่วย ปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และนอนไม่หลับ การใช้ชีวิตต่าง ๆ อาจเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเพราะรู้สึกเครียด อาจเกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว หลอดเลือดตีบลง ความดันโลหิตสูง เจ็บท้องก่อนกำหนด ซึ่งผลต่อร่างกายโดยตรงของคุณแม่

 

ผลกระทบจากความเครียดต่อเด็ก

ผลการวิจัยพบว่าลูกในครรภ์สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ต่าง ๆ ของแม่ได้จากสารเคมีที่หลั่งออกมาในกระแสเลือด หากแม่ท้องอารมณ์ดีร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความสุขหรือสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี แต่หากคุณแม่รู้สึกเครียด โกรธ โมโหร้าย ร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความเครียดหรืออะดรีนาลีนออกมา ส่งผ่านไปยังความรู้สึกลูก ทำให้ลูกรู้สึกเครียดไปด้วย

ความเครียดจากแม่เพิ่มความเสี่ยงให้ลูกน้ำหนักตัวน้อยเมื่อแรกเกิด อาจทำให้คลอดก่อนกำหนด มีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะมีความเครียดสูงกว่าเด็กทั่วไป อาจทำให้เป็นเด็กที่เลี้ยงยาก ขี้งอน โมโหง่าย ร้องไห้เก่ง และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หากแม่มีความเครียดเพียงเล็ก รู้จักอดทนต่อความเครียดในช่วงตั้งครรภ์ ก็ไม่ได้ส่งผลเสียแต่อย่างไร เพียงแต่ต้องระมัดระวังและรู้จักจัดการอารมณ์ตัวเองได้เท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : เสียลูกจากความเครียด เครียดตอนท้องอ่อน คนท้องเครียดมาก ต้องระวัง!

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อันตรายจากภาวะเครียดในคนท้อง

เมื่อคุณแม่มีความเครียดมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลร้ายต่อการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ด้วย ดังนั้น คุณแม่จึงควรรู้จักอันตรายจากภาวะเครียดเพื่อป้องกันอาการเครียดมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อร่างกายและลูกน้อย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. ร่างกายอ่อนแอ

คุณแม่ที่มีความเครียดระหว่างตั้งครรภ์มักนอนไม่หลับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายมาก ๆ เพราะหากคุณแม่นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นมาเครียดต่อ ก็อาจทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ภูมิคุ้มกันตก และเกิดอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เสี่ยงติดเชื้อ และทำให้ลูกในครรภ์ไม่แข็งแรง บางครั้งอาจถึงขั้นแท้งบุตรเลยก็ได้

 

2. รับประทานอาหารน้อยลง

แน่นอนว่าการรับประทานอาหารได้น้อยลงเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับคุณแม่ท้องแน่ ๆ เพราะในช่วงตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่แม่ต้องการสารอาหารมากกว่าเดิมไปหล่อเลี้ยงลูกในท้อง ดังนั้น หากคุณแม่ยิ่งเครียดมาก ไม่ยอมกินอาหารใด ก็จะทำให้ลูกได้รับสารอาหารน้อย เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ และยังเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้มากขึ้นด้วย

 

3. เกิดภาวะซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์

ภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 4 ของคุณแม่ตั้งครรภ์ และ 1 ใน 5 ของแม่หลังคลอด ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายและลูกในท้องมาก ๆ คุณแม่จึงต้องสังเกตตัวเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติใด ๆ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดและรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งอาการซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์ เช่น รู้สึกเบื่อทุกอย่าง รู้สึกไม่ได้รับความรักจากคนรอบข้าง อ่อนเพลีย นอนหลับยาก ทำอะไรช้าลง สมาธิสั้นลง เกิดความเครียดขึ้นรุนแรงจนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิจัยเผย สุขภาพจิตหญิงตั้งครรภ์ สำคัญ แม่ท้องซึมเศร้ามีผลต่อลูกน้อยในครรภ์!

 

 

วิธีรับมือเมื่อรู้สึกเครียดขณะตั้งครรภ์

ผลกระทบของความเครียดขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องซับซ้อน เราไม่สามารถระบุได้ว่าระดับความเครียดสูงเท่าไรถึงจะส่งผลกระทบต่อแต่ละคน เพียงแต่รู้ว่ามันส่งผลกระทบและเราสามารถสังเกตได้ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทุกชนิดที่สามารถสร้างความเครียดระหว่างท้องได้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบอย่างโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่อาจเกิดขึ้นตามมา 

คุณแม่จึงควรทำความเข้าใจ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายตัวเอง รวมถึงต้องหากิจกรรมคลายเครียดให้แก่ตัวเอง เพราะยิ่งคุณแม่คิดบวกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดีต่อลูกในครรภ์มากขึ้น ซึ่งวิธีรับมือกับความเครียดขณะตั้งครรภ์ มีดังนี้

  • ทำกิจกรรมคลายเครียด เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ วาดรูป จัดดอกไม้ งานศิลปะ โยคะ พิลาทิส เป็นต้น
  • พยายามคิดบวก คุณแม่ควรมองโลกในแง่บวกมากยิ่งขึ้นกับทุก ๆ ปัญหาที่เจอ ก็จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้มากขึ้น
  • พูดคุยกับคนอื่น การพูดคุยกับสามี คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เหมือนกัน จะช่วยให้คุณแม่ระบายสิ่งที่กังวลอยู่ และแลกเปลี่ยนความเห็นในการดูแลตัวเอง
  • สร้างความสุขให้แก่ตัวเอง นอกจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว การออกไปข้างนอก ก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี เช่น ออกไปช้อปปิ้ง นัดกินข้าวกับเพื่อน ไปเที่ยว เป็นต้น
  • นั่งสมาธิ การนั่งสมาธิเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวคุณแม่เองและลูกในครรภ์ เพราะระหว่างที่นั่งสมาธิ ลูกในครรภ์ก็จะได้รับความสงบ เงียบ ส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีทั้งในสมองและจิตใจ
  • นึกถึงลูกในท้อง เมื่อใดที่คุณแม่รู้สึกเครียด ก็ควรนึกถึงลูกในครรภ์เสมอ เพราะการนึกถึงลูกน้อยจะช่วยให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งถ้าได้ลูบสัมผัสท้องและพูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อย ๆ จะช่วยผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเครียดอันตราย เสี่ยงแท้งไหม? มาดูวิธีคลายเครียดของแม่ท้องกัน

 

 

วิจัยชี้ “ความเครียดตอนท้อง” ส่งผลร้ายต่อลูกน้อยมากกว่าที่คิด

ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ร่างกายเปลี่ยนแปลง จนทำให้คุณแม่หลายคนเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว แต่รู้ไหมคะว่า ความเครียดของคุณแม่ ไม่ได้อยู่แค่ที่ตัวเรา แต่ส่งตรงถึงลูกน้อยในครรภ์ได้โดยตรงเลยนะ!

ทาง theAsianparent ได้รวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือมาฝาก เพื่อให้คุณแม่ตระหนักและหันมาดูแลจิตใจตัวเองกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

1. เครียดมาก เสี่ยงลูกเป็นสมาธิสั้น (ADHD) ถึง 2 เท่า! 

มีข้อมูลยืนยันจากนักวิจัยมหาวิทยาลัย Ottawa นำโดย ดร. เอียน โคลแมน (Dr. Ian Colman) ที่พบว่า ความเครียดระดับสูงในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการสมองของทารกค่ะ

  • คุณแม่ที่เครียดจัด มีแนวโน้มที่ลูกจะเกิดมาพร้อมปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว มากกว่าปกติถึง 2 เท่า
  • เด็กที่ได้รับผลกระทบจากความเครียดตั้งแต่อยู่ในท้อง ประมาณ 10% อาจมีปัญหาในการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวเมื่อโตขึ้นได้ค่ะ

 

2. ระวังความเสี่ยงออทิสติก และโรคเรื้อรัง 

ความน่ากลัวคือ ฮอร์โมนความเครียดสามารถส่งผ่านรกไปยังลูกได้ค่ะ!

  • ปกติรกจะมีเอนไซม์คอยปกป้องลูกจากฮอร์โมนเครียด แต่ถ้าแม่เครียดมากเกินไป เอนไซม์นี้จะทำงานลดลง ทำให้ฮอร์โมนไม่ดีหลุดรอดไปกระทบการสร้างสมองของลูก ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะออทิสติก
  • นอกจากนี้ ยังเป็นการโปรแกรมให้ลูกมีความเสี่ยงต่อ โรคอ้วน และ โรคเบาหวาน ในอนาคตอีกด้วย

 

3. ภูมิคุ้มกันลูกอาจอ่อนแอตั้งแต่เกิด 

ความเครียดของคุณแม่ยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยด้วยนะคะ มีการศึกษาพบว่า:

  • ทารกที่เกิดจากคุณแม่ที่มีความเครียดสูง อาจมีการตอบสนองต่อวัคซีนต่ำกว่าเด็กทั่วไป
  • เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็น โรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองได้ง่ายขึ้น

อ่านแล้วคุณแม่อย่าเพิ่งตระหนกจนเครียดกว่าเดิมนะคะ งานวิจัยเหล่านี้บอกเราเพื่อให้เรารู้ทันและป้องกันค่ะ สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้คือ การรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง หากรู้สึกไม่ไหว อย่าเก็บไว้คนเดียว ให้ระบายกับคุณสามี เพื่อนสนิท หรือปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้ช่วงเวลา 9 เดือนนี้ เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้ที่สุดสำหรับคุณแม่และลูกน้อยนะคะ

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

11 กิจกรรมยามว่างของคนท้อง คนท้องเบื่ออยู่บ้าน ทำอะไรแก้เบื่อดี?

เลี้ยงลูกไม่เครียด แม่มือใหม่ เลี้ยงลูกอย่างไรให้ไม่ปวดหัว เป็นซึมเศร้า

คนท้องเครียดมาก ระวังผลเสียต่อลูก เพราะทุกครั้งที่แม่เครียดลูกจะเป็นแบบนี้ด้วย

ที่มา : Phyathai, bpk samutprakan, babyandmom, nannyproducts

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team