การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของคนท้องเกิดจากสิ่งใด
ในช่วงเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์ อารมณ์อาจจะแปรปรวนไม่คงที่ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ นั่นเป็นเพราะระดับฮอร์โมนเพศหญิง คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง เมื่อเปรียบเทียบระดับฮอร์โมนแล้วจะพบว่า ใน 1 วัน คนท้องจะมีอัตราการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเท่ากับปริมาณฮอร์โมนที่ร่างกายของคนปกติใช้ผลิตถึง 3 ปี!!! อย่างนี้นี่เอง อารมณ์ของคุณแม่ตั้งครรภ์จึงขึ้น ๆ ลง ๆ จนบางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้ นอกจากนี้ในแต่ละไตรมาสอารมณ์ของแม่ตั้งครรภ์จะเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไปอีกด้วย มาดูกันค่ะว่า การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของแม่ท้องทั้ง 3 ไตรมาส จะเป็นอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของคนท้องทั้ง 3 ไตรมาส
ไตรมาสที่ 1 ช่วงเดือนที่ 1 – 3 ของการตั้งครรภ์
ในช่วงแรกนี้ ระดับฮอร์โมนที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจของคุณแม่อย่างมาก ได้แก่
1. คุณแม่บางคนนอกจากอารมณ์แปรปรวนแล้วยังมีอาการหงุดหงิด ขี้รำคาญ ใจน้อย และเอาแต่ใจตนเอง
2. สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์บางคนจะมีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่าย ใครพูดกระทบกระเทือนจิตใจพานจะร้องไห้เอาง่าย ๆ หรือแม้แต่บางคนแค่ดูละครหรือฟังเพลงเศร้า ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าจะตั้งครรภ์ไม่เคยมีอารมณ์อ่อนไหวเช่นนี้มาก่อนเลย แบบนี้ คุณพ่อและคนรอบข้างต้องปรับตัวกันหน่อยนะคะ
3. คุณพ่อและคนรอบข้าง ต้องพยายามทำความเข้าใจ คอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจคุณแม่เสมอ ๆ นะคะ ช่วงเวลาแบบนี้คุณพ่อต้องดูแลความรู้สึกของคุณแม่ใกล้ชิดสักหน่อย เพราะนอกจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่สร้างปัญหาแล้ว คุณแม่มักจะกังวลเรื่องตั้งครรภ์ ส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของคุณแม่อีกด้วย
บทความแนะนำ 6 สัญญาณการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นแม่
ไตรมาสที่ 2 ช่วงเดือนที่ 4 – 6 ของการตั้งครรภ์
เมื่อผ่านไตรมาสแรกมาได้แล้ว ช่วงหลังจากนี้อารมณ์ของคุณแม่จะผ่อนคลายมากขึ้นตามลำดับ ได้แก่
1. ช่วงนี้คุณแม่จะเริ่มรู้สึกมีความสุขกับตัวเองและผ่อนคลายมากขึ้น เพราะสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แล้ว นอกจากนี้
2. คุณแม่เริ่มรู้สึกและสัมผัสได้แล้วว่า เจ้าตัวน้อยในท้องของคุณแม่กำลังเติบโตและเริ่มดิ้นทักทายคุณแม่ด้วย ทำให้คุณแม่ตื่นเต้นและสนุกไปกับพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยในช่วงตั้งครรภ์ จนมีคุณแม่บางคนเห่อลูกถึงขนาดจัดเตรียมข้าวของสำหรับเจ้าหนูไว้ก็มีค่ะ
3. อารมณ์ในช่วงนี้ ยังมีคุณแม่ที่อาจจะรู้สึกเหงา ๆ หรือคิดถึงเพื่อนร่วมงานบ้าง หากเป็นเช่นนี้แนะนำให้หางานอดิเรกทำนะคะจะได้คลายเหงา
4. ในช่วงไตรมาสที่สองนี้ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด มีอาการปวดเมื่อยหรือไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวตามมา ปวดขา ปวดหลัง หรือบางคนก็มีอาการบวมที่ขาด้วย อาการเหล่านี้ส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแม่ได้เช่นกัน
5. ออกกำลังกายค่ะ ในช่วงนี้คุณแม่อาจเลือกกิจกรรมออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดิน การฝึกโยคะ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อร่วมด้วย เพราะหากสุขภาพร่างกายไม่ดีย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต แบบนี้ไม่ดีแน่ !!! เพราะเจ้าหนูจะรับรู้ความรู้สึกนี้ไปด้วยนะคะ
ไตรมาสที่ 3 ช่วงเดือนที่ 7 – 9 ของการตั้งครรภ์
ในที่สุดก็เดินทางทางมาถึงไตรมาสที่สามซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายกันแล้ว อีกไม่นานก็จะได้พบหน้าเจ้าหนูที่เป็นดวงใจของคุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ มาดูกันว่าอารมณ์ช่วงนี้ของคุณแม่จะเป็นอย่างไร
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนเริ่มนับถอยหลังรอวันที่จะได้เจอหน้าเจ้าตัวน้อย แต่อีกใจก็อดกังวลเกี่ยวกับการคลอดที่จะมาถึง กังวลว่าจะคลอดแบบไหนดี คลอดเองหรือผ่าคลอด จะเจ็บมากหรือเปล่า การคลอดจะปลอดภัยหรือไม่ เจ้าตัวน้อยจะออกมาครบ 32 หรือไม่ คลอดแล้วจะเลี้ยงดูลูกอย่างไร เจ้าตัวน้อยจะเลี้ยงง่ายหรือเปล่า ความกังวลต่าง ๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดความเครียดได้
บทความแนะนำ ไขข้อข้องใจ 6 เรื่องที่แม่ท้องกังวลเกี่ยวกับการคลอด
สำหรับวิธีการคลายเครียดในช่วงนี้ สำคัญ คือ คุณแม่ควรพูดคุยปรึกษาคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ หรือปรึกษาคุณหมอ เพราะคำแนะนำในการดูแลตนเองตลอดจนกระบวนการคลอด คุณหมอจะให้ความกระจ่างแก่คุณแม่ได้ จะได้คลายกังวลใจนะคะ
คลายเครียด : ฉบับแม่ท้อง
อยากชวนคุณแม่มาคลายเครียดด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับกับคนท้องค่ะ อย่ามัวเครียดกันเลยหาอะไรทำให้สบายใจดีกว่า ความสบายใจ ความสุขใจของแม่มีผลดีต่อลูกนะคะ
1. ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ
คุณแม่มาฟังเพลงเพราะ ๆ สบาย ๆ นอกจากคุณแม่จะผ่อนคลายแล้ว เสียงเพลงยังกระตุ้นพัฒนาการของทารกน้อยในครรภ์อีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว !!! สุขใจทั้งแม่และลูกจริง ๆค่ะ
บทความแนะนำ ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูกตั้งแต่ในครรภ์
2. อ่านหนังสือเล่มโปรด
ในช่วงเวลาว่างคุณแม่หาหนังสือในแนวที่ชอบหรือสนใจ แต่ขอให้มีเนื้อหาเบา ๆ นะคะ เรื่องสยองขวัญ ฆาตกรรมอำพราง แม้จะชอบแต่ควรงดไว้ก่อน อ่านหนังสือช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ที่สำคัญช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสมองให้แก่เจ้าหนูด้วยค่ะ จะดีมาก ๆ ถ้าคุณแม่อ่านออกเสียงพร้อม ๆ ไปกับการลูบท้องเพื่อบอกให้หนูน้อยมาฟังแม่อ่าน
บทความแนะนำ แม่จ๋ารู้ไหม!!!ลูบท้องกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์
3. ฝึกสมาธิเพื่อผ่อนคลาย
การผ่อนคลายด้วยสมาธิเป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณแม่สามารถปฏิบัติได้ทุกที่ทุกเวลา โดยนั่งหลับตา ปล่อยกล้ามเนื้อทุกส่วนให้ผ่อนคลาย กำหนดลมหายใจเข้า ออก ช่วยลดความกังวลใจได้
บทความแนะนำ แม่ท้องฝึกสมาธิดีต่อพัฒนาการทารกในครรภ์
4. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด คือ การเดินค่ะ คนท้องเดินวันละ 30 นาทีดีต่อสุขภาพครรภ์นะคะ นอกจากนี้ ยังมีการฝึกโยคะสำหรับแม่ท้อง ทั้งความสงบของจิตใจและความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออีกด้วย แต่การออกกำลังกายคุณแม่ควรขอคำปรึกษาหรือคำแนะนำจากคุณหมอก่อนก็ดีนะคะ เพื่อความปลอดภัย
5. เลือกกลิ่นหอมเพื่อผ่อนคลาย
สำหรับแม่ท้อง การใช้อโรมาเทอราปีกลิ่นต่าง ๆ จะช่วยกระตุ้นประสาทการรับกลิ่น ทำให้คุณแม่มีความรู้สึกสดชื่น อารมณ์เบิกบาน โดยอาจเลือกใช้กลิ่นหอมจากสมุนไพรต่าง ๆ หรือแค่หาดอกไม้สวย ๆ มาปักแจกันให้บ้านดูสดชื่น กลิ่นหอมของดอกไม้ประเภทดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกแก้ว จะช่วยให้คุณแม่สดชื่นได้นะคะ ควรเป็นกลิ่นหมอจากธรรมชาติจะปลอดภัยสำหรับคุณแม่ค่ะ
บทความแนะนำ ระวัง! เทียนหอม, น้ำหอมปรับอากาศอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์
นำมาฝาก : เพลงบรรเลงกล่อมคุณแม่ให้หลับสบายคลายเครียด
ได้ทราบกันแล้วนะคะสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาอารมณ์ในช่วงไตรมาสต่าง ๆ ของคุณแม่ แต่เราเตรียมรับมือ เพราะเครียดได้ก็คลายเป็น ใช่ไหมคะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนนะคะ
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
หนังสือ “เตรียมตัวคลอดอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก” พญ.ภักษร เมธากูล ผู้แต่ง
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ลดเครียดในแม่ท้องด้วยดนตรีบำบัด
5 เรื่องที่คุณแม่ควรทำ แม้ในวันเครียดๆ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!