X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

จริงหรือไม่ ? ที่คนท้องควรให้ลูกฟังเพลง ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก ตั้งแต่ในครรภ์

บทความ 5 นาที
จริงหรือไม่ ? ที่คนท้องควรให้ลูกฟังเพลง ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก ตั้งแต่ในครรภ์

ไขข้อสงสัย ตอบคำถามที่คุณแม่อาจไม่เคยทราบมาก่อน จริงหรือไม่ ? ที่คนท้องควรให้ลูกฟังเพลง ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก ตั้งแต่ในครรภ์ จริงหรือเปล่า ในวันนี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

จริงหรือไม่ ? ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก ตั้งแต่ในครรภ์

ในขณะตั้งครรภ์ เมื่อคุณแม่ฟังเพลง เปิดเพลงให้ลูกในท้องได้ฟังผ่านทางผิวหน้าท้อง การใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้เครือข่ายใยประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น ทำให้ทารกที่คลอดออกมา มีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี และส่งผลต่ออารมณ์ดีของเจ้าตัวน้อยด้วย

รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์  ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึง ดนตรีต่อการพัฒนาสมองทารกในครรภ์ ดังนี้

  1. ระบบประสาทการรับฟังของลูกน้อยในครรภ์จะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน การใช้เสียงดนตรีกระตุ้นจะทำให้เครือข่ายใยประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น
  2. เสียงที่ดีที่ควรใช้ในการกระตุ้น คือ เสียงเพลงหรือเสียงดนตรีโดยเฉพาะเพลงที่มีความไพเราะและคุณแม่ชอบฟัง ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงหรือดนตรีคลาสสิกก็ได้
  3. เวลาคุณแม่ฟังดนตรี ควรจะเปิดเสียงเพลงหรือเสียงดนตรี ให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในครรภ์จะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย
  4. การที่ลูกในครรภ์ได้รับฟังเสียงดนตรี  คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน มีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เมื่อลูกคลอดออกมา มีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี
  5. เพลงสามารถกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ได้แก่  กระตุ้นการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ เมื่อลูกได้ยินเสียงเพลง ได้ยินจังหวะของเพลงเขาจะขยับตัวหรือดิ้นไปตามเสียงเพลง เช่น ถ้าเป็นเพลงช้าฟังสบาย เขาจะขยับตัวช้า ๆ เหมือนกำลังว่ายน้ำอยู่ในท้องแม่อย่างสบายใจ   หากเพลงมีจังหวะเร็วเขาอาจจะขยับตัวบ่อยหรือดิ้นแรงขึ้นเหมือนเต้นตาม  ซึ่งการขยับตัวของทารกในครรภ์ตามเสียงเพลงหรือเสียงที่ได้ยินก็เป็นสัญญาณบอกถึงพัฒนาการทารกในครรภ์ที่ยอดเยี่ยม

 

ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก

 

วิธีการฟังเพลงอย่างไรให้สมองลูกพัฒนาตั้งแต่ในครรภ์

  • เพลงสำหรับทารกในครรภ์

ควรเป็นเพลงฟังสบาย จะเป็นเพลงช้าหรือเร็วก็ได้ หรือแม้แต่เพลงร็อกก็ฟังได้ และเน้นให้ลูกได้ยินเสียงและรู้สึกถึงจังหวะเพื่อไปกระตุ้นพัฒนาการทางการได้ยิน การเคลื่อนไหวในท้อง และความรู้สึกผ่อนคลายในท้องแม่เป็นหลัก

 

  • ควรใช้หูฟังแบบครอบศีรษะ หรือหูฟังเพลงสำหรับทารกในครรภ์

เพราะเสียงดนตรีและจังหวะของดนตรีจะดังไปถึงลูกในท้องได้ดี หูฟังชนิดใส่ในรูหูจะมีความดังไม่มากพอให้ลูกในท้องได้ยินเสียงเพลง

 

  • ไม่ควรเปิดเสียงดนตรีดังเกินไป

เพราะลูกในท้องอาจตกใจและดิ้นแรงกว่าปกติได้ ระดับเสียงที่พอดีอาจวัดจากคุณแม่ลองใส่หูฟังฟังเองก่อน แล้วปรับความดังในระดับที่เหมาะสม

 

  • คุณแม่สามารถให้ลูกในท้องฟังดนตรีได้ ตั้งแต่รู้ว่าท้อง

ทำให้แม่เกิดความสบายใจ ผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ของทารกต่อไป

 

  • คุณแม่ควรเปิดเพลงให้ทารกฟังในช่วงบ่าย

เพราะช่วงเวลาที่ที่ทารกตื่นตัวดีจะเป็นช่วงบ่ายเป็นต้นไป ควรใช้เวลาในการฟังเพลงประมาณ 1 ชั่วโมง/วัน จะส่งผลต่อการพัฒนาสมองและพัฒนาการด้านอื่น ๆ ของทารกในครรภ์ได้อย่างดี

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เพลงเด็กเสริมพัฒนาการ น่าฟัง ได้ประโยชน์และได้ความรู้ ปี 2023

 

 

แม่ท้องฟังเพลง ดีต่อลูกในท้องยังไง

คุณแม่สามารถเปิดเพลงฟังได้เรื่อย ๆ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของคุณแม่ไม่ให้หงุดหงิด เบื่อ หรือเกิดภาวะซึมเศร้าเอาได้ง่าย ๆ และสำหรับลูกน้อยในครรภ์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดเพลงให้ลูกฟัง คือ อายุครรภ์ตั้งแต่ 5 เดือนเป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่พัฒนาการด้านระบบประสาทการรับฟังของทารกในครรภ์เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว ซึ่งการกระตุ้นโดยการเปิดเพลงให้ลูกได้ฟัง จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่สามารถรับรู้ได้ว่าลูกในท้องตื่นตัวหลังจากได้ฟังเพลงหรือไม่ โดยสังเกตจากการดิ้นของลูกได้

 

ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก

 

เปิดเพลงแบบไหนให้ลูกฟังแล้วฉลาด

เพลงที่ดีสำหรับพัฒนาการของลูกน้อยนั้นเป็นเพลงอะไรก็ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงคลาสสิกแต่อย่างเดียว อาจจะเป็นเพลงที่คุณแม่ชอบ แบบทำนองเพลงที่ช้า ๆ เบา ๆ หรือเป็นเพลงที่มีดนตรีประพันธ์ขึ้นให้มีจังหวะ ทำนอง และความกลมกลืนของเสียง ดนตรีบรรเลง มิวสิกบ็อกซ์ ฯลฯ ซึ่งเมื่อลูกได้ฟังเพลง คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นระบบประสาทการได้ยินให้มีการพัฒนาได้เร็วขึ้น มีส่วนช่วยในการจัดลำดับความคิดในสมองส่วน Spatial Temporal ซึ่งระบบความคิดเหล่านี้ จะมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของลูกน้อยในอนาคต

เวลาเปิดเพลงให้ลูกฟังควรให้เสียงเพลงอยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต หรือใช้หูฟังชนิดครอบอันใหญ่ เปิดเสียงดังพอประมาณนะคะ เลือกเปิดเพลงให้ลูกในครรภ์ฟังในช่วงเวลาเย็น ๆ เพราะเป็นช่วงที่หนูน้อยจะตื่นตัว ให้ลูกได้ฟังวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที เท่านี้ก็จะช่วยทำให้อารมณ์ของทั้งแม่และลูกผ่อนคลาย อารมณ์ดีไปพร้อม ๆ กัน

และเมื่อลูกน้อยได้ฟังเพลงตั้งแต่ในครรภ์ ยังมีแนวโน้มที่ลูกออกมาจะเป็นเด็กอารมณ์ดีเลี้ยงง่ายด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมฟังเพลง การเปิดเพลงให้ลูกในท้องได้ฟัง ยังมีส่วนช่วยเชื่อมโยงสัมพันธภาพ ความผูกพัน ความรักระหว่างแม่-ลูกได้ดีก่อนที่จะพบหน้ากันด้วยนะคะ บางวันหากคุณแม่เลือกเพลงไม่ถูก ลองใช้เสียงของตัวเองร้องเพลงให้ลูกฟัง เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่ก็เป็นเรื่องที่ดีด้วยเช่นกัน

 

บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย

ส่งท้าย คุณหมอฝากบอก

ดนตรีที่แม่ท้องเปิดให้ทารกในครรภ์ฟังนั้น  ไม่จำเป็นต้องเป็นดนตรีคลาสสิกของต่างประเทศแต่อย่างใด เป็นดนตรีไพเราะที่คุณแม่ชอบฟัง เพลงไทย  เพลงพื้นบ้าน ก็ได้  ที่สำคัญดนตรีคลาสสิกไม่ได้ช่วยให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในท้อง  เพราะความฉลาดมีปัจจัยหลักมาจากพันธุกรรมของพ่อแม่  สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้  การส่งเสริม และอาหาร แต่การให้ทารกในครรภ์ฟังเพลงจะเป็นการทำให้ลูกผ่อนคลาย กระตุ้นพัฒนาการทางด้านระบบประสาท  ระบบการได้ยิน และพัฒนาการทางร่างกายตั้งแต่ในท้องด้วยการขยับตัว และดิ้นไปมาตามจังหวะเพลงที่ร็อกได้ยิน  ซึ่งเมื่อคลอดออกมา เขาจะมีความพร้อมทั้งทางร่างกายและอารมณ์ที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยความคล่องแคล่ว คล่องตัว และอารมณ์ดี

 

โดยสรุปแล้ว คุณแม่จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของการให้ทารกได้ฟังดนตรีตั้งแต่ในครรภ์  ดีต่อ พัฒนาการสมอง และ พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว ดังนั้น คุณแม่ห้ามพลาดโอกาสสำคัญที่จะส่งเสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในท้องนะคะ!

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

“Lullaby for Mom” บทเพลงที่คุณแม่เท่านั้น จะเข้าใจ

การฟังเพลงระหว่างอ่านหนังสือช่วยให้ลูกฉลาดขึ้น

แนะนำ 10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ใช้งานง่าย ฟังเสียงลูกน้อยได้เองที่บ้าน !

ที่มา : 1, 2

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

มิ่งขวัญ ลิรุจประภากร

  • หน้าแรก
  • /
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • /
  • จริงหรือไม่ ? ที่คนท้องควรให้ลูกฟังเพลง ดนตรีช่วยพัฒนาสมองลูก ตั้งแต่ในครรภ์
แชร์ :
  • 5 วิธีพัฒนาสมองลูกรัก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

    5 วิธีพัฒนาสมองลูกรัก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

  • โคลีนพัฒนาสมองทารก ในครรภ์จริงหรือ โคลีนดีต่อทารกอย่างไร?

    โคลีนพัฒนาสมองทารก ในครรภ์จริงหรือ โคลีนดีต่อทารกอย่างไร?

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • 5 วิธีพัฒนาสมองลูกรัก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

    5 วิธีพัฒนาสมองลูกรัก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

  • โคลีนพัฒนาสมองทารก ในครรภ์จริงหรือ โคลีนดีต่อทารกอย่างไร?

    โคลีนพัฒนาสมองทารก ในครรภ์จริงหรือ โคลีนดีต่อทารกอย่างไร?

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ