การเลี้ยงลูกเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่มีพ่อแม่คนไหนสมบูรณ์แบบ และทุกคนย่อมเคยพลั้งเผลอตวาดลูก แต่เมื่อรู้ตัวว่าการตวาดส่งผลเสียต่อลูกน้อย เราก็สามารถเรียนรู้ที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้นได้ บทความนี้จะนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ เมื่อพ่อแม่ เผลอตวาดลูก ต้องทำยังไง และจะจัดการกับความโกรธและความเครียดอย่างไร รวมถึงเทคนิคเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องตวาด
ทำไมเราถึงตวาดลูก?
การตวาดลูกเป็นพฤติกรรมที่พ่อแม่หลายคนเคยทำ และมักรู้สึกผิดหลังจากนั้น แต่ทำไมเราถึงเผลอตวาดลูกไปได้? ลองมาทำความเข้าใจสาเหตุที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนี้กันค่ะ
สาเหตุหลักที่ทำให้พ่อแม่ เผลอตวาดลูก
- ความเครียดสะสม ความเครียดจากการทำงาน การเงิน ปัญหาในครอบครัว หรือความกดดันจากสังคม สามารถส่งผลให้พ่อแม่รู้สึกหงุดหงิดง่าย และเมื่อเผชิญกับพฤติกรรมของลูกที่ไม่ตรงตามที่คาดหวัง ก็อาจระเบิดอารมณ์ออกมา
- ความเหนื่อยล้า การขาดการพักผ่อน หรือการทำงานหนักเกินไป ทำให้พ่อแม่ขาดพลังงานและความอดทนในการรับมือกับความซุกซนของลูก
- การขาดทักษะในการจัดการอารมณ์ บางครั้งพ่อแม่ไม่รู้วิธีจัดการกับความโกรธหรือความหงุดหงิด ทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
- การเลียนแบบ พ่อแม่บางคนอาจเลียนแบบพฤติกรรมการเลี้ยงลูกจากพ่อแม่ของตัวเอง หรือจากสภาพแวดล้อมที่เคยเติบโตมา
- ความคาดหวังที่สูงเกินไป การตั้งความคาดหวังต่อลูกสูงเกินไป ทำให้พ่อแม่รู้สึกผิดหวังง่ายเมื่อลูกไม่ทำตามที่ต้องการ
- การขาดความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก การไม่เข้าใจว่าเด็กแต่ละวัยมีความสามารถและความต้องการที่แตกต่างกัน ทำให้พ่อแม่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อลูกแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับวัย
ผลกระทบของการตวาดลูก
การตวาดลูกอาจดูเหมือนเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว แต่ผลกระทบที่ตามมาอาจสร้างความเสียหายต่อจิตใจของเด็กมากกว่าที่คิด ลองมาดูกันว่าการตวาดลูกส่งผลกระทบต่อเด็กในด้านต่างๆ อย่างไรบ้าง
ผลกระทบทางอารมณ์
- ความกลัวและวิตกกังวล เสียงตะโกนที่ดังทำให้เด็กเกิดความกลัวและวิตกกังวล อาจกลัวที่จะทำผิดพลาด กลัวที่จะเข้าใกล้พ่อแม่ และกลัวที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเอง
- ความรู้สึกไม่มั่นคง การถูกตวาดบ่อยๆ ทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่สำคัญ และไม่เป็นที่รักของพ่อแม่
- ความเสียใจและผิดหวัง เด็กอาจรู้สึกเสียใจที่ทำให้พ่อแม่โกรธ และรู้สึกผิดหวังในตัวเอง
- ความรู้สึกโดดเดี่ยว เด็กอาจรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวและไม่มีใครเข้าใจ
ผลกระทบต่อพฤติกรรม
- ก้าวร้าว เด็กที่ถูกตวาดบ่อยๆ อาจเลียนแบบพฤติกรรมที่เห็นจากพ่อแม่ และแสดงออกถึงความก้าวร้าวทั้งทางวาจาและร่างกาย
- ดื้อรั้น เด็กอาจพยายามต่อต้านอำนาจของพ่อแม่ เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจ
- ขาดความมั่นใจ เด็กอาจขาดความมั่นใจในการตัดสินใจและกลัวที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ
- ปัญหาในการเข้าสังคม เด็กอาจมีปัญหาในการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ เนื่องจากขาดทักษะในการสื่อสารและการควบคุมอารมณ์
ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก
- ความสัมพันธ์บอบช้ำ การตวาดลูกบ่อยๆ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกบอบช้ำและขาดความไว้วางใจ
- ระยะห่างทางอารมณ์ เด็กอาจสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกทำร้ายทางอารมณ์อีก
- ความยากลำบากในการสื่อสาร เด็กอาจไม่กล้าที่จะเปิดใจและพูดคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
ผลกระทบระยะยาว
นอกจากผลกระทบในระยะสั้นแล้ว การตวาดลูกยังส่งผลกระทบในระยะยาวต่อพัฒนาการของเด็กอีกด้วย เช่น
- ปัญหาสุขภาพจิต เด็กที่ถูกตวาดบ่อยๆ มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล หรือโรคความสนใจสั้นเกินไป
- ความสัมพันธ์ในระยะยาว การถูกเลี้ยงดูด้วยความรุนแรงทางวาจาอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในอนาคต เช่น เพื่อน คู่ชีวิต หรือลูกของตัวเอง
![เผลอตวาดลูก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2024/12/yelling-at-kid-2.png?width=700&quality=10)
เผลอตวาดลูก ต้องทำยังไง?
ในใจลึกๆ ของพ่อแม่นั้นไม่ได้อยากทำร้ายลูก หรือทำให้ลูกเสียใจ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือการรู้จักวิธีรับมือและแก้ไขปัญหา เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย และฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัว
|
เผลอตวาดลูก ต้องทำยังไง?
|
1. ระงับอารมณ์ ตั้งสติให้เร็วที่สุด |
- หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและใจสงบ
- นับเลขช้าๆ ตั้งแต่ 1-10 หรือ 20 ช่วยให้เราเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้โกรธ
- หากรู้สึกว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ลองไปอยู่ในที่ที่เงียบสงบคนเดียวสักครู่
- ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง ทำสมาธิ หรือออกกำลังกายเบาๆ
- ใช้คำพูดภายในที่เป็นบวก บอกกับตัวเองว่า “ฉันสามารถควบคุมอารมณ์นี้ได้” หรือ “ฉันรักลูก“
|
2. ขอโทษลูก |
- บอกลูกตรงๆ ว่า “แม่/พ่อขอโทษที่ตะโกนใส่ลูก”
- อธิบายให้ลูกฟังว่าทำไมถึงรู้สึกโกรธ แต่ไม่ใช่การโทษลูก
- บอกลูกว่าคุณเข้าใจความรู้สึกของลูกที่อาจจะรู้สึกกลัวหรือเสียใจ
- บอกลูกว่าคุณรักลูกเสมอ และจะพยายามควบคุมอารมณ์ให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
- การขอโทษจะเป็นแบบอย่างให้กับลูกเมื่อทำผิดพลาด
|
3. ใช้เวลาอยู่กับลูก |
- ทำกิจกรรมที่ลูกชอบร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
- เปิดโอกาสให้ลูกได้พูดคุยและระบายความรู้สึก
- ฟังสิ่งที่ลูกพูดอย่างตั้งใจ โดยไม่ตัดสิน
|
4. สะท้อนความรู้สึกของลูก |
- บอกลูกว่าคุณเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร เช่น “แม่เข้าใจว่าลูกรู้สึกโกรธที่แม่ตะโกนใส่”
- ย้ำให้ลูกมั่นใจว่าคุณรักลูกเสมอ แสดงความรักต่อลูก ด้วยการกอดหอมและวิธีต่างๆ
|
5. ให้กำลังใจและให้อภัยตัวเอง |
- ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่สมบูรณ์แบบ การที่เราเผลอตวาดลูกเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้
- เมื่อรู้สึกผิดหรือเสียใจ ให้ฝึกสติเพื่อดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน
- ให้กำลังใจตัวเอง บอกกับตัวเองว่าคุณกำลังพยายามเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
- นำประสบการณ์ที่เกิดขึ้นมาปรับปรุงพฤติกรรมในอนาคต
|
6. ปรับปรุงพฤติกรรมของตัวเอง |
- พยายามหาสาเหตุที่ทำให้เราตวาดลูก เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ
- เรียนรู้เทคนิคการจัดการอารมณ์ และฝึกฝน เช่น การหายใจลึก การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกาย
- หากรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
|
วิธีจัดการกับความโกรธ
ก้าวข้ามความโกรธ…สู่การเป็นพ่อแม่ที่ใจเย็น ด้วยเทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยให้เราควบคุมอารมณ์และเป็นพ่อแม่ที่ใจเย็นกันนะคะ
เทคนิคการหายใจลึกๆ
การหายใจลึกๆ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและสมองสงบลง
- วิธีทำ: หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ ลึกๆ เหมือนสูดกลิ่นดอกไม้ แล้วค่อยๆ หายใจออกทางปากช้าๆ เหมือนเป่าเทียน
- ประโยชน์: ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดความดันโลหิต และทำให้จิตใจสงบ
การนับเลข
การนับเลขเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำให้โกรธ และช่วยให้เรามีเวลาตั้งสติ
- วิธีทำ: นับเลขช้าๆ ตั้งแต่ 1-10 หรือ 20 หรือจะนับถอยหลังก็ได้
- ประโยชน์: ช่วยให้ใจสงบและคิดได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยลดความเครียดและความโกรธ
- วิธีทำ: เลือกกิจกรรมที่คุณชอบ เช่น วิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือโยคะ
- ประโยชน์: ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส และอารมณ์ดีขึ้น
การพูดคุยกับคนใกล้ชิด
การพูดคุยกับคนที่ไว้ใจจะช่วยให้เราได้ระบายความรู้สึกและได้รับกำลังใจ
- วิธีทำ: เลือกคนที่คุณรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยด้วย อาจจะเป็นคู่ชีวิต เพื่อนสนิท หรือญาติ
- ประโยชน์: ช่วยให้มองเห็นปัญหาในมุมที่กว้างขึ้น และได้รับคำแนะนำที่ดี
ควรฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเกิดความโกรธขึ้นมา ให้ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ คุณพ่อคุณแม่จะค่อยๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเองและความสัมพันธ์กับลูกที่ดีขึ้น
![เผลอตวาดลูก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2024/12/yelling-at-kid-1.png?width=700&quality=10)
เทคนิคการเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องตวาด
การตวาดลูกอาจเป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นได้ในบางครั้ง แต่การเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องตวาดนั้นเป็นไปได้ และยังส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกในระยะยาวอีกด้วย มาดูเทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยให้เราป็นพ่อแม่ที่ใจเย็นและเลี้ยงลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพกันค่ะ
|
เทคนิคการเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องตวาด
|
1. พยายามหาสาเหตุที่ทำให้โกรธ |
- ทำความเข้าใจตัวเอง พยายามสังเกตว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นให้เรารู้สึกโกรธ เช่น ความเหนื่อยล้า ความเครียด หรือความคาดหวังที่สูงเกินไป
- แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ให้พยายามหาทางแก้ไข เช่น หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หรือปรับเปลี่ยนความคาดหวังที่มีต่อลูก
|
2. สื่อสารอย่างเปิดใจ |
- ฟังลูกอย่างตั้งใจ ให้เวลาลูกได้พูดคุยและแสดงความคิดเห็น
- ใช้คำพูดที่สุภาพพูดคุยกับลูกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย
- ถามคำถามปลายเปิด เช่น “ลูกรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” เพื่อให้ลูกได้เล่าเรื่องราวของตัวเอง
- แสดงความเข้าใจ แสดงให้ลูกเห็นว่าเราข้าใจความรู้สึกของเขา
|
3. ตั้งกฎที่ชัดเจน |
- ร่วมกันตั้งกฎ ชวนลูกมาร่วมกันตั้งกฎในบ้าน เพื่อให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วมและรับผิดชอบ
- อธิบายเหตุผล อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าทำไมต้องมีกฎ และกฎเหล่านั้นสำคัญอย่างไร
- สอดคล้องกับวัย กฎที่ตั้งขึ้นควรเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของลูก
|
4. ให้รางวัลเมื่อลูกทำดี |
- ชื่นชม ชื่นชมลูกเมื่อทำสิ่งที่ดี
- ให้รางวัล ให้รางวัลตามความเหมาะสม เช่น การใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน
- สร้างแรงบันดาลใจ การให้รางวัลจะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจและอยากทำดีต่อไป
|
5. ให้โอกาสลูกได้แก้ไขความผิดพลาด |
- มองข้ามความผิดพลาดเล็กน้อย อย่าตำหนิลูกมากเกินไปเมื่อทำผิดพลาด
- สอนให้ลูกเรียนรู้จากความผิดพลาด ช่วยให้ลูกเข้าใจว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
- ให้โอกาสแก้ไข ให้โอกาสลูกได้แก้ไขความผิดพลาด
|
การเลี้ยงลูกเป็นศิลปะที่ต้องใช้ทั้งความรัก ความอดทน และความเข้าใจ เผลอตวาดลูก อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของลูกในระยะยาว ดังนั้น การเลี้ยงลูกด้วยความรักและความเข้าใจจะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อสังคมค่ะ
ที่มา : เพจพี่กัลนมแม่ , nurtureandthriveblog
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูกคนเดียว ต้องเลี้ยงยังไง? ข้อควรระวัง เมื่อต้องเลี้ยงลูกคนเดียว!
5 ขั้นตอน สอนลูกให้ปกป้องตัวเอง รับมือได้ ไม่ตกเป็นเหยื่อ เมื่อถูกรังแก
ปักหมุด! 10 มารยาทที่พ่อแม่ต้องสอนลูก สร้างนิสัยที่ดีในการเข้าสังคม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!