การที่เด็กกล้าแสดงความคิดเห็นเป็นทักษะสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนรู้ การเข้าสังคม หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน การที่เด็กกล้าพูด กล้าแสดงออก ทำให้เด็กได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสาร การวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการเติบโตในยุคปัจจุบัน วิธีฝึกลูกให้มั่นใจ จึงควรทำตั้งแต่เล็กๆ เพื่อปลูกฝังความมั่นใจให้ลูกน้อย หากลูกขาดความเชื่อมั่นในตนเอง มักจะไม่กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ เพราะกลัวความผิดหวัง ความล้มเหลว สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวถ่วงในการประสบความสำเร็จในอนาคตของลูกได้
ทำไมลูกถึงขาดความมั่นใจ ?
หลายครั้งมักพบเด็กๆ ที่ขาดความมั่นใจในการแสดงออก กลัวที่จะคัดค้าน หรือไม่กล้าที่จะปกป้องความคิดของตนเอง ก็มีสาเหตุได้หลายปัจจัย เช่น
- การเลี้ยงดู การที่คุณพ่อคุณแม่คอยห้ามปรามหรือตัดสินความคิดของลูกอยู่เสมอ อาจทำให้ลูกกลัวที่จะแสดงออกและขาดความมั่นใจในตนเอง นอกจากนั้นการเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น หรือการตั้งความคาดหวังที่สูงเกินไป ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กรู้สึกกดดันและไม่มั่นใจในตัวเอง
- สภาพแวดล้อม การถูกเพื่อนล้อเลียนหรือถูกครูตำหนิบ่อยครั้ง อาจทำให้เด็กขาดความมั่นใจและกลัวที่จะทำผิดพลาด วิธีฝึกลูกให้มั่นใจ เมื่อเด็กทำผิดพลาด คุณพ่อคุณแม่ควรให้กำลังใจและช่วยให้ลูกพยายามแก้ไขปัญหา แทนที่จะตำหนิหรือลงโทษ รวมถึงการขาดการสนับสนุน ขาดแรงบันดาลใจ จะทำให้ลูกกลัวไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ จึงส่งผลให้ลูกไม่มีความมั่นใจได้เช่นกัน
- บุคลิกภาพ บางคนอาจมีบุคลิกที่ขี้อายหรือไม่กล้าแสดงออกอยู่แล้ว ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นและส่งเสริมเป็นพิเศษ อีกทั้งเด็กที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคซึมเศร้า หรือความวิตกกังวล อาจมีแนวโน้มที่จะขาดความมั่นใจในตัวเองมากกว่าเด็กทั่วไป
- การเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น การเห็นเพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ ที่มีทักษะหรือความสามารถโดดเด่น ทำให้เด็กบางคนรู้สึกด้อยค่าและขาดความมั่นใจในตัวเอง หรือการพบกับความล้มเหลวโดยที่ไม่มีใครคอยช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำ ทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ และขาดความมั่นใจที่จะลองทำอะไรอีก
- การขาดทักษะทางสังคม เด็กที่ขาดทักษะในการเข้าสังคม อาจถูกเพื่อนรังแกหรือโดดเดี่ยว ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกนับถือตนเองและความมั่นใจ หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การย้ายบ้าน เปลี่ยนโรงเรียน หรือการสูญเสียคนใกล้ชิด ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และความมั่นใจของเด็กได้
ทำอย่างไร ? ให้การ “โต้แย้ง หรือ เถียง” เป็นไปอย่างสร้างสรรค์
หลายคนกังวลว่าการสอนลูกให้โต้แย้งจะทำให้ลูกไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ แต่ความจริงแล้ว การสอนให้ลูกคิดวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล จะช่วยให้ลูกเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังกฎเกณฑ์ต่างๆ มากขึ้น และเมื่อลูกเข้าใจแล้ว ลูกก็จะยอมรับและปฏิบัติตามได้อย่างเต็มใจ การโต้แย้งอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่การต่อต้าน แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะคิดเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในสังคม
- เปลี่ยนการโต้แย้งให้เป็นเกมสนุกๆ ที่เข้าถึงง่าย เริ่มจากหัวข้อที่ลูกสนใจ เน้นความสนุกสนานในการโต้แย้ง เปรียบเสมือนการเล่นเกม เพื่อกระตุ้นความสนใจของเด็ก เช่น ตัวละครในหนังสือหรือหนังที่ชอบ แล้วค่อยๆ ขยายขอบเขตไปสู่เรื่องราวที่ซับซ้อนมากขึ้นเมื่อลูกโตขึ้น
- สอนให้ลูกเห็นความแตกต่างระหว่างการแสดงความคิดเห็นและการโต้เถียง เพื่อให้ลูกเข้าใจถึงการใช้เหตุผลในการสนทนา การแสดงความคิดเห็น คือการบอกเล่าความรู้สึกหรือความคิดของตัวเองออกมาอย่างสุภาพ โดยอาจไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผู้อื่นก็ได้ แต่จะเน้นการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ การโต้เถียง มักจะเกี่ยวข้องกับการขัดแย้งหรือไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของผู้อื่น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกพูดและแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างสุภาพ และเข้าใจว่าการโต้เถียงไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป
- สอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวัง และมองหาโอกาสใหม่ๆ การที่ไม่ได้ทุกอย่างตามที่หวังเป็นเรื่องปกติ ซึ่งควรสอนให้ลูกรับมือกับสิ่งนี้ให้ได้
- สอนให้ลูกเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และพิจารณาเหตุผลของคนอื่นอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจโต้แย้ง โต้เถียง เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
- ฝึกให้ลูกคิดนอกกรอบ ด้วยลองจินตนาการถึงการโต้แย้ง ที่ไม่ได้เป็นไปตามคิด ‘ถ้าเป็นอย่างนี้ จะเกิดอะไรขึ้น?’ เพื่อช่วยให้ลูกมองเห็นมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น
20 วิธีฝึกลูกให้มั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก
ความท้อใจและความกลัวเป็นเหมือนเงาที่คอยตามหลอกหลอนความมั่นใจของลูกน้อย ดังนั้น วิธีฝึกลูกให้มั่นใจ พ่อแม่จึงต้องเป็นแสงสว่างที่คอยนำทางให้ลูกก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้
1. สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย สร้างบรรยากาศในครอบครัวที่เปิดกว้าง ให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ว่าความคิดนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม เมื่อเราฟังความคิดเห็นของลูกอย่างตั้งใจและให้กำลังใจเขาเสมอ ลูกจะรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ
2. ฟังลูกอย่างตั้งใจ เมื่อลูกพูดคุยกับเรา ควรหยุดทุกสิ่งที่กำลังทำ หันไปมองตา และฟังอย่างตั้งใจทุกคำที่ลูกพูดออกมา เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าเรามีความสำคัญและพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของเขาเสมอ
3. แสดงความเห็นเชิงบวก การชื่นชมและให้กำลังใจเมื่อลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะถูกหรือผิด เป็นการปลูกฝังความมั่นใจและเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ การชื่นชมความพยายามของลูก ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่จะช่วยให้ลูกไม่กลัวที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ และมีความมั่นใจมากขึ้น
4. สอนให้ลูกวิเคราะห์เหตุผล การสอนให้ลูกวิเคราะห์เหตุผลของตนเองและของผู้อื่น จะช่วยฝึกให้ลูกคิดอย่างมีระบบ รอบคอบ แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถโต้แย้งความคิดเห็นของผู้อื่นได้อย่างมีเหตุผล เปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองตลอดชีวิต
5. ฝึกให้ลูกถามคำถาม การถามคำถามเป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาความคิด การตั้งคำถามจะช่วยให้ลูกได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ฝึกคิดวิเคราะห์ และกล้าแสดงความคิดเห็น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองของลูก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา
6. เล่นเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะการพูด การเล่นเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะการพูดนั้น จะช่วยฝึกพัฒนาสมองลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายโต้แย้ง การแสดงบทบาทสมมติ หรือการเล่าเรื่องสนุกๆ ก็ล้วนเป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกให้ลูกกล้าแสดงออก สื่อสารความคิดเห็น และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ลูกเติบโตที่มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก
7. อ่านหนังสือและบทความ ที่หลากหลายจะช่วยเปิดโลกทัศน์และเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ลูก ทำให้เด็กได้พบเจอกับเรื่องราวและแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งจะกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและจินตนาการ ส่งเสริมให้เด็กคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การอ่านยังช่วยพัฒนาทักษะภาษา การใช้คำ และการเรียบเรียงประโยค ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสารและการเรียนรู้ในทุกวิชา
8. ส่งเสริมให้ลูกเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มไม่เพียงแต่จะช่วยให้ลูกได้ฝึกปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสอันดีที่ลูกจะได้ค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง สร้างความมั่นใจในตนเอง และเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสังคมที่หลากหลายอีกด้วย
9. สอนให้ลูกยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง สอนให้ลูกเข้าใจว่าทุกคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และการเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมที่น่าอยู่ การเปิดใจรับฟังและสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ จะช่วยให้ลูกสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
10. เป็นแบบอย่างที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงความคิดเห็นและการโต้แย้งอย่างมีเหตุผล จะช่วยปลูกฝังให้ลูกกล้าคิด กล้าพูด และกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง สร้างความมั่นใจให้ลูกกล้าที่จะแสดงออกถึงความคิดเห็นของตนเอง ช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
11. สอนให้ลูกรู้จักการควบคุมอารมณ์ การควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารและการโต้แย้ง การสอนให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์จึงเป็นการสร้างพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต เป็นทักษะสำคัญที่ส่งเสริมการพัฒนาตนเองของลูก ช่วยให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น สามารถเข้าสังคมได้อย่างราบรื่น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น และสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
12. สอนให้ลูกใช้คำพูดที่สุภาพ การสอนให้ลูกใช้คำพูดที่สุภาพเป็นการปลูกฝังให้ลูกมีทักษะการสื่อสารที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ลูกสามารถแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งได้อย่างสร้างสรรค์ และยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้อีกด้วย คำพูดที่สุภาพจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการสื่อสาร และทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างราบรื่น
13. สอนให้ลูกฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างตั้งใจไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกเข้าใจมุมมองที่แตกต่างและตอบโต้ได้อย่างเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างทักษะการสื่อสาร ปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้อื่น และเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ช่วยให้ลูกสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น มีความคิดเห็นที่รอบด้านมากขึ้นอีกด้วย
14. ให้โอกาสลูกได้ตัดสินใจเอง การให้โอกาสลูกได้ตัดสินใจเอง ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความรับผิดชอบ แต่ยังเป็นการปลูกฝังให้ลูกกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวและความไม่แน่นอน การปล่อยให้ลูกได้ลองผิดลองถูกบ้าง เป็นการสอนให้ลูกเรียนรู้จากความผิดพลาด ช่วยให้ลูกมีความเป็นอิสระและสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผล
15. สนับสนุนให้ลูกลองทำสิ่งใหม่ๆ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ เป็นการปลูกฝังความกล้าหาญและความมั่นใจในตนเอง การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงจากการลองทำสิ่งใหม่ๆ จะทำให้ลูกจดจำได้นานกว่าการเรียนรู้จากตำรา ช่วยให้ลูกพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ และเพิ่มพูนความรู้ความสามารถให้กับลูก จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหา มีความมั่นใจและมีความยืดหยุ่น
16. อย่าเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น การเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่นเป็นการทำลายความมั่นใจในตนเองของเด็ก และส่งผลเสียต่อพัฒนาการในด้านต่างๆ ของเด็ก ทั้งด้านอารมณ์ สังคม และพฤติกรรม ลูกจะรู้สึกว่าตนเองไม่ดีพอ ไม่มีความสามารถเท่าคนอื่น และขาดความภาคภูมิใจในตนเอง การให้กำลังใจและยอมรับในความเป็นตัวของตัวเองของลูกจึงเป็น วิธีฝึกลูกให้มั่นใจ มากกว่าการนำไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น
17. ให้กำลังใจลูกเสมอ การให้กำลังใจลูกเป็นมากกว่าแค่คำพูด มันคือการแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย และความเชื่อมั่นที่มีต่อลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่ามีคนคอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างเสมอ เมื่อลูกเผชิญกับความยากลำบาก และทำให้ลูกรู้สึกอยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งจะส่งผลดีต่อพัฒนาการทางด้านอารมณ์ สังคม และสติปัญญาของลูกน้อย
18. สอนให้ลูกมองโลกในแง่ดี การสอนให้ลูกมองโลกในแง่ดีเป็นการปลูกฝังทัศนคติเชิงบวกที่เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาตนเอง ช่วยให้ลูกสามารถรับมือกับความท้าทายในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากยิ่งขึ้น การมองโลกในแง่ดีไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของลูกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกด้วย
19. สอนให้ลูกตั้งเป้าหมายและทำให้บรรลุเป้าหมาย การตั้งเป้าหมาย เปรียบเสมือนการสร้างแผนที่นำทางให้ลูกน้อย ช่วยให้ลูกเปลี่ยนความฝันให้เป็นจริงได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน สนับสนุนให้ลูกเขียนรายการสิ่งที่อยากทำ แล้วค่อยๆ แบ่งเป้าหมายใหญ่ให้เป็นเป้าหมายย่อยๆ ที่ทำได้จริงทีละขั้นตอน การได้เห็นความคืบหน้าของตัวเอง จะทำให้ลูกรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้น และกลายเป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายต่อไป
20. ให้คำชื่นชม การชื่นชมในความพยายามของลูก ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร จะช่วยปลูกฝังความมั่นใจ ทำให้ลูกกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่พบเจอ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ การแก้ไขปัญหา หรือการเอาชนะความกลัว การให้กำลังใจและการยอมรับในความพยายามของลูก จะเป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ช่วยให้ลูกเติบโตและพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง
การฝึกให้ลูกมีความมั่นใจในการแสดงออกเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม การสร้างลูกให้มีความเชื่อมั่นจะทำให้ลูกเป็นเด็กที่สร้างสรรค์และกล้าพูดคำว่า “ไม่ได้” ต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มต้นตั้งแต่เด็กเล็ก วิธีฝึกลูกให้มั่นใจ เริ่มจากการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย สนับสนุนให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น และให้กำลังใจลูกเสมอ เมื่อลูกมีความมั่นใจมากขึ้น ลูกก็จะกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ และจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ที่มา : biglifejournal , HuffPost , Child Mind Institute
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีเลี้ยงลูกให้มี Self-esteem ไม่ยอมให้ใครรังแก และไม่เอาเปรียบใคร
10 เคล็ดลับ สร้างวินัยให้ลูก ฝึกทั้งที ฝึกให้ถูกวิธีดีกว่า
7 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้ลูกก้าวร้าว !
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!