X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • พัฒนาการลูก
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • การศึกษา
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร สาเหตุต้นตอของน้ำตาที่ไม่ควรมองข้าม

บทความ 5 นาที
ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร สาเหตุต้นตอของน้ำตาที่ไม่ควรมองข้ามร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร สาเหตุต้นตอของน้ำตาที่ไม่ควรมองข้าม

ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร และการร้องไห้บ่อยนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ แต่เป็นสภาวะที่เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในจิตใจหรือสภาวะที่เกิดอารมณ์มากท่วมท้น เช่น ไม่ว่าจะมีความรู้สึกดีใจหรือเสียใจมาก จิตใต้สำนึกจะปรับอารมณ์ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ การร้องไห้จึงช่วยทำให้เกิดการปรับอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น หากอยากรู้ว่าการ ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร และต้นตอของน้ำตามาจากสาเหตุใด ตามไปไขคำตอบพร้อมกันกับบทความนี้ได้เลย

 

ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร

น้ำตาไม่ใช่สัญลักษณ์ของความอ่อนแอ

หลายคนอาจคิดว่าการร้องไห้คือการแสดงออกถึงความอ่อนแอและเป็นคนเจ้าน้ำตา แท้จริงแล้วน้ำตานั้นไม่ใช่สัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่หากว่าเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของอารมณ์ที่ต้องอดทนอดกลั้นมามากพอสมควร จนเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความอดทนนั้นหมดไป การร้องไห้ออกมาจึงเป็นวิธีการแสดงอารมณ์ที่ช่วยทำให้เกิดความสบายใจได้มากขึ้น โดยวิธีการจัดการกับอารมณ์ที่ถูกต้องคือการไม่กดอารมณ์หรือข่มใจบอกกับตนเองว่าห้ามร้องไห้ เพียงแต่เป็นการรับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้นและดึงสติกลับมาจดจ่ออยู่กับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น การสูดหายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนคลายร่างกายให้ไม่เกร็ง

 

8 สาเหตุที่อาจเป็นที่มาของน้ำตา

ในชีวิตของแต่ละคนอาจปะปนไปด้วยช่วงเวลาที่มีทั้งดีและไม่ดี เพราะชีวิตไม่ได้มีความสวยงามไปตลอด บางเหตุการณ์อาจทำให้เราน้ำตาไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว หากพบเจอและรู้สึกถึงอารมณ์แบบนี้อยู่บ่อย ๆ อันดับแรกเราต้องมาหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิตใจของตนเองกันแน่

 

1. ความเครียด

เริ่มต้นกันที่สาเหตุแรกนั้นคือความเครียด หากว่าการใช้ชีวิตของคุณต้องตกอยู่ภายใต้ความเครียด ความกดดัน จนทำให้จิตใจหม่นหมอง หมดเรี่ยวแรง และเกิดความว่างเปล่าจนไม่อยากที่จะทำอะไร สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้คุณสามารถร้องไห้ได้ง่ายกว่าปกติที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจได้โดยตรง นอกจากความเครียดจะส่งผลกระทบต่อจิตใจแล้วยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและร่างกายได้อีกด้วย เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยร่างกาย หรือปวดท้อง หากมีภาวะอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกแจ้งเตือนแล้วว่าควรถึงเวลาที่ต้องหยุดพักแล้วพาร่างกายออกไปพักผ่อนเพื่อคลายความเครียดนี้ลง

 

2. วัยทอง

เมื่ออายุของคุณได้เริ่มต้นเข้าสู่ในช่วงวัยสามสิบปลายหรือสี่สิบต้น นับว่าเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงวัยทองเรียบร้อยแล้ว อาการร้องไห้ง่ายกว่าปกตินั้นคือสิ่งที่ต้องควรระวัง เนื่องจากร่างกายได้เข้าสู่ภาวะวัยทองแล้วฮอร์โมนภายในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน นอนหลับไม่สนิท และอาการร้อนวูบวาบ ล้วนเป็นสัญญาณของภาวะวัยหมดประจำเดือนที่อาจส่งผลต่อความรู้สึกเครียดและวิตกกังวลได้

 

3. ขาดวิตามินบี 12

การขาดวิตามินบี 12 ส่งผลต่อปัญหาการร้องไห้ง่ายและที่สำคัญอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ เพราะวิตามินบี 12 มีบทบาทสำคัญในการรักษาเลือดและเซลล์ประสาทให้แข็งแรงซึ่งจะมีผลต่อการช่วยสร้าง DNA อีกทั้งยังส่งผลนำไปสู่อาการต่าง ๆ ทางร่างกาย เช่น เหนื่อยล้า น้ำหนักลด อ่อนแรง เบื่ออาหาร ท้องผูก และยังส่งผลปัญหาทางระบบประสาท รวมถึงระบบภายในร่างกายที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจาง ดังนั้นควรเติมวิตามินบี 12 เข้าสู่ร่างกายที่สามารถพบได้ในอาหารประเภทปลา เนื้อ นม และไข่

 

4. พักผ่อนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะร้องไห้ง่ายและอาจส่งผลกระทบทางด้านอารมณ์อื่น ๆ ที่ทำให้สภาวะจิตใจเกิดความอ่อนไหวสามารถทำให้ร้องไห้ได้ง่าย ดังนั้นการนอนหลับเป็นเวลา 7-9 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น 

 

5. อาการก่อนมีประจำเดือน

หากคุณมีอาการร้องไห้ง่าย อารมณ์แปรปรวน หรือท้องอืดในช่วงก่อนมีประจำเดือน อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกที่เรียกว่า Premenstrual Syndrome (PMS) หรืออาการก่อนมีประจำเดือนที่ผู้หญิงหลายคนมักมีอาการหงุดหงิดง่ายในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน 1-2 สัปดาห์ อาจส่งต่อสาเหตุที่ทำให้คุณมีอารมณ์อ่อนไหวจนทำให้ร้องไห้ง่ายได้

บทความที่น่าสนใจ : วิธีนับประจำเดือน นับวันแรกและวันสุดท้ายตอนไหนเรามีคำตอบ

 

ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร

6. ภาวะ Pseudobulbar Affect

ภาวะ Pseudobulbar Affect เป็นภาวะการแสดงออกทางอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่แล้วจะแสดงอาการออกเป็น 2 แบบ คือ หัวเราะผิดปกติ (Pathological Laughing) และร้องไห้ผิดปกติ (Pathological Crying) มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บทางสมอง เช่น โรคเนื้องอกในสมอง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อในสมอง โรคเส้นเลือดในสมอง

 

7. ต่อมไทรอยด์

สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติจะส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนออกมาไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำตาไหลและร้องไห้ง่ายนั่นเอง

 

8. เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า

การที่เราร้องไห้บ่อยมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ เพราะอาการซึมเศร้าเป็นโรคทางอารมณ์ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำได้โดยตรง นอกจากอาการร้องไห้ง่ายแบบไม่มีเหตุผลแล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น สิ้นหวัง หดหู่ เศร้า อ่อนไหวง่ายกว่าปกติ หรือหมดความสนใจในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำแล้วเกิดความสนุก นอกจากนี้ยังส่งผลให้นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับที่อาจเป็นปัญหาตามมา ดังนั้นควรพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและวิธีการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง

 

ร้องไห้ง่ายกับภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอดที่คุณแม่ควรรู้

การร้องไห้ง่ายอย่างไม่มีเหตุผลยังสามารถพบได้กับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกน้อยออกมา ภาวะนี้มีชื่อเรียกว่า ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด โดยทั่วไปแล้วมักพบได้กับผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูกเสร็จในช่วงสัปดาห์แรก ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนภายในร่างกายที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มีอารมณ์แปรปรวน ร้องไห้ง่าย หงุดหงิด หรือวิตกกังวล ซึ่งพบได้ประมาณ 85% ของผู้หญิงหลังคลอด โดยภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วคราวและหลังจากนั้นอาการนี้จะดีขึ้นและหายไปในช่วงเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ 

 

ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอดควรรักษาหรือไม่ ?

ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอดนั้นไม่รุนแรงและสามารถหายกลับมาดีขึ้นเองได้ จึงไม่จำเป็นต้องได้รับยาเพื่อต้านความเศร้า เพียงแต่ใช้วิธีการรักษาด้วยการดูแลทางด้านจิตใจจากผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะสามี ครอบครัว และเพื่อนๆ เพื่อช่วยทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด หากคุณแม่ที่เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มีภาวะอารมณ์แปรปรวนก่อนมีรอบเดือน มีความเครียดในช่วงตั้งครรภ์ หรือมีปัญหากับคู่สมรส อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอดได้มากขึ้น

 

บทความจากพันธมิตร
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ  ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
เนรมิตทริปฮ่องกงสุดปัง ปักหมุดจุดหมายยอดฮิต เช็กอินร้านอาหาร พร้อมทิปส์น่ารู้มากมายสไตล์คนท้องถิ่น
เนรมิตทริปฮ่องกงสุดปัง ปักหมุดจุดหมายยอดฮิต เช็กอินร้านอาหาร พร้อมทิปส์น่ารู้มากมายสไตล์คนท้องถิ่น

ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร

 

การที่เราร้องไห้ง่ายนั้นประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องความเครียด ร่างกายเข้าสู่วัยทอง อาการก่อนมีประจำเดือน หรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้มีส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ร้องไห้ง่ายได้ และอาการดังกล่าวยังสามารถพบได้เป็นจำนวนมากกับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก เนื่องจากเกิดความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้วิธีการรักษาที่ดีที่สุดนั้นมาจากการช่วยเหลือของผู้คนรอบข้างที่ต้องหมั่นคอยเติมพลังบวกด้านจิตใจให้แก่กันเพื่อทำให้อาการนี้ดีขึ้นและหายไปได้ในที่สุด

 

บทความที่น่าสนใจ :

ร้องไห้ ตาบวม ทำยังไงดี วิธีแก้ตาบวมจากการร้องไห้ กลบให้มิดปิดให้อยู่!

ร้องไห้ อาการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์

ฝันว่าร้องไห้ ฝันว่าร้องไห้เสียใจมาก หมายความว่าอะไร? มาดูคำทำนายไปพร้อมกัน

ที่มา : 1, 2, 3

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Thanawat Choojit

  • หน้าแรก
  • /
  • ไลฟ์สไตล์
  • /
  • ร้องไห้ง่าย เป็นโรคอะไร สาเหตุต้นตอของน้ำตาที่ไม่ควรมองข้าม
แชร์ :
  • 7 เครื่องตัดหญ้า เครื่องเล็มหญ้า ราคาประหยัด ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

    7 เครื่องตัดหญ้า เครื่องเล็มหญ้า ราคาประหยัด ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

  • ชี้เป้า!! 7 ซึ้งนึ่งอาหาร หม้อนึ่งอาหาร มีคุณภาพ ราคาถูก ซึ้งนึ่งอาหารที่คุณไม่ควรพลาด

    ชี้เป้า!! 7 ซึ้งนึ่งอาหาร หม้อนึ่งอาหาร มีคุณภาพ ราคาถูก ซึ้งนึ่งอาหารที่คุณไม่ควรพลาด

  • แนะนำ 7 ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนอร่อย ในราคาเพียงหลักสิบ!

    แนะนำ 7 ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนอร่อย ในราคาเพียงหลักสิบ!

app info
get app banner
  • 7 เครื่องตัดหญ้า เครื่องเล็มหญ้า ราคาประหยัด ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

    7 เครื่องตัดหญ้า เครื่องเล็มหญ้า ราคาประหยัด ที่ควรมีไว้ติดบ้าน

  • ชี้เป้า!! 7 ซึ้งนึ่งอาหาร หม้อนึ่งอาหาร มีคุณภาพ ราคาถูก ซึ้งนึ่งอาหารที่คุณไม่ควรพลาด

    ชี้เป้า!! 7 ซึ้งนึ่งอาหาร หม้อนึ่งอาหาร มีคุณภาพ ราคาถูก ซึ้งนึ่งอาหารที่คุณไม่ควรพลาด

  • แนะนำ 7 ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนอร่อย ในราคาเพียงหลักสิบ!

    แนะนำ 7 ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนอร่อย ในราคาเพียงหลักสิบ!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2022. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ