X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เด็ก 10 ขวบ ผูกคอใต้ถุนบ้าน โชคดีที่แม่มาเห็นช่วยทัน

28 Jun, 2024
เด็ก 10 ขวบ ผูกคอใต้ถุนบ้าน โชคดีที่แม่มาเห็นช่วยทัน

วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรโนนไทยได้รับแจ้งเหตุการณ์ เด็ก 10 ขวบ ผูกคอใต้ถุนบ้าน ณ บ้านเลขที่ 96 หมู่ 5 ตำบลมะค่า อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบเด็กชายวัย 10 ขวบหมดสติอยู่ใต้ถุนบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบเข้าช่วยเหลือโดยการทำ CPR จนเด็กกลับมามีสติอีกครั้ง จากนั้นจึงนำตัวเด็กขึ้นรถพยาบาลส่งโรงพยาบาลโนนไทย จากการตรวจสอบพบว่าแม่ของเด็กเข้ามาพบเด็กชายคนดังกล่าวพอดี จึงรีบช่วยเหลือได้ทันเวลา ขณะนี้อาการของเด็กปลอดภัยแล้ว และยังคงอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

 

เด็ก 10 ขวบ ผูกคอใต้ถุนบ้าน โชคดีที่แม่มาเห็นช่วยทัน

ขอบคุณภาพจากคลิป:  NationTV 22

 

Advertisement

เด็ก 10 ขวบ ผูกคอใต้ถุนบ้าน เหตุน้อยใจย่าเรื่องต้มอึ่ง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น พ่อของเด็กชายวัย 10 ปี เปิดเผยถึงสาเหตุที่ลูกชายของเขาเลือกจบชีวิตด้วยการผูกคอ โดยระบุว่าเมื่อเย็นที่ผ่านมา เขาและลูกชายได้ออกไปหาอึ่งด้วยกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้พ่อลูกใช้เวลาร่วมกันเป็นประจำ เมื่อกลับถึงบ้านในช่วงค่ำ ลูกชายได้ขอร้องให้ย่าช่วยต้มอึ่งเพื่อนำไปฝากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนในวันรุ่งขึ้น 

แต่ย่าของเด็กชายเห็นว่าดึกแล้ว จึงบอกหลานว่าค่อยต้มในวันพรุ่งนี้เช้าแทน แต่เด็กชายยังคงยืนยันขอให้ต้มในคืนนั้นเนื่องจากกลัวว่าจะไม่ทันพรุ่งนี้ ส่งผลทำให้ย่ารู้สึกขุ่นเคืองใจจนได้พูดออกมาอย่างไม่คิดว่า “ถ้ารอไม่ได้ก็ไปผูกคอตายซะ” คำพูดนี้ทำให้เด็กชายเกิดอาการน้อยใจและไม่สามารถรับมือกับความรู้สึกนี้ได้ จึงได้ตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองใต้ถุนบ้าน

 พ่อของเด็กชายวัย 10 ปี บอกว่า ตนไม่เคยคิดว่าลูกชายจะคิดสั้นเช่นนี้ และเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้สังเกตเห็นสัญญาณเตือนหรือความทุกข์ใจของลูกมาก่อน เขายังออกมาเตือนให้ครอบครัวและผู้ปกครองทั่วไประวังและสังเกตพฤติกรรมของเด็ก ๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก 

ที่มา: naewna.com, thethaiger.com, NationTV 22

 

ขอบคุณคลิปจาก:  NationTV 22

 

สาเหตุที่ทำให้เด็กคิดสั้น นั้นมาจากอะไรได้บ้าง

การที่เด็กคิดสั้นหรือมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ปัจจัยเหล่านี้สามารถแยกออกมาได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางครอบครัว ปัจจัยทางสังคม ปัจจัยทางจิตใจ และปัจจัยทางชีวภาพ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้

 

1. ความเครียดและความกดดัน

  • แรงกดดันจากการเรียน: เด็กอาจเผชิญกับความเครียดจากการเรียน เช่น การสอบที่ยากลำบาก การต้องทำเกรดให้ดีเพื่อให้ได้เข้ามหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนที่ดี หรือแรงกดดันในการเรียนที่ต้องรักษามาตรฐานให้สูง 
  • ความคาดหวังจากครอบครัว: การที่ครอบครัวมีความคาดหวังสูง ทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองต้องประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน และหากไม่สามารถทำได้ตามที่คาดหวังอาจทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองล้มเหลวและไร้ค่า

2. ปัญหาครอบครัว 

  • การทะเลาะวิวาทในครอบครัว: การทะเลาะวิวาทหรือความขัดแย้งภายในครอบครัวอย่างต่อเนื่องสามารถสร้างความเครียดและความไม่มั่นคงทางอารมณ์ให้กับเด็ก 
  • การหย่าร้างของพ่อแม่: การหย่าร้างหรือการแยกทางของพ่อแม่อาจทำให้เด็กเกิดความรู้สึกสูญเสียและโดดเดี่ยว 
  • การขาดความรักและการสนับสนุน: เด็กที่ขาดความรัก ความอบอุ่น และการสนับสนุนจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองอาจรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่รักและไม่สำคัญ

3. การถูกรังแก (Bullying) 

  • การถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน: เด็กที่ถูกกลั่นแกล้งหรือข่มขู่จากเพื่อนร่วมชั้นหรือคนอื่นๆ อาจรู้สึกว่าตนเองไม่ปลอดภัยและไม่เป็นที่ยอมรับ 
  • การถูกกีดกันจากกลุ่มเพื่อน: การถูกแยกตัวหรือถูกปฏิเสธจากกลุ่มเพื่อนอาจทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวและหมดหวัง

4. ปัญหาสุขภาพจิต 

  • โรคซึมเศร้า (Depression): เด็กที่มีภาวะซึมเศร้าจะรู้สึกเศร้าหมอง ไม่มีความหวัง รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า และไม่เห็นอนาคต 
  • โรควิตกกังวล (Anxiety Disorders): เด็กที่มีภาวะวิตกกังวลจะมีความกังวลใจอยู่ตลอดเวลา รู้สึกกังวลถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ 
  • โรคทางจิตเวชอื่น ๆ: เช่น โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) ที่ทำให้เด็กมีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์อย่างรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้

การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิตของเด็กและการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการที่เด็กจะมีความคิดสั้นและช่วยให้เด็กมีชีวิตที่มีคุณภาพและความสุขมากขึ้น

บทความที่น่าสนใจ: สุขภาพจิตเด็ก เรื่องใกล้ตัวที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

 

คำพูดที่ควรพูดกับลูก 

 

คำพูดที่ควรพูดกับลูก 

คำพูดที่ควรพูดกับลูก มีมากมาย ขึ้นอยู่กับช่วงวัย สถานการณ์ และสิ่งที่ต้องการสื่อสาร แต่โดยรวมแล้ว คำพูดที่ควรพูดกับลูก ควรเป็นคำพูดที่ สร้างความรู้สึกดี ส่งเสริมพัฒนาการ และความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก โดยตัวอย่างคำพูดที่ควรพูดกับลูก มีดังต่อไปนี้

  • คำพูดที่แสดงความรัก ความห่วงใย และการยอมรับ เช่น “รักลูกนะ”, “ภูมิใจในตัวลูกนะ”, “ลูกเก่งมาก”, “ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวแม่/พ่อช่วย”
  • คำพูดที่กระตุ้นให้ลูกเรียนรู้และพัฒนา เช่น “ลองทำดูนะ”, “เก่งมากที่ลูกพยายาม”, “แม่/พ่อขอปรบมือให้ลูกนะ”, “ลูกมีอะไรอยากรู้ไหม ถามแม่/พ่อได้นะ”
  • คำพูดที่ส่งเสริมให้ลูกมีความมั่นใจ เช่น “เชื่อใจลูกนะ”, “ลูกทำได้”, “แม่/พ่อจะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ”, “ลูกมีจุดแข็งตรงนี้…”
  • คำพูดที่สอนให้ลูกมีคุณธรรม เช่น “โกหกไม่ดีนะ”, “แบ่งปันเพื่อนนะ”, “ช่วยเหลือผู้อื่นนะ”, “พูดจาไพเราะนะ”
  • คำพูดที่ใช้สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น “แม่/พ่ออยากฟังความคิดเห็นของลูก”, “ลองอธิบายให้แม่/พ่อฟังหน่อยได้ไหม”, “เรามาคุยกันดีๆ นะ”

การพูดคุยกับลูกที่ดี จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่กับลูก ช่วยให้ลูกมีความสุข มั่นใจ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ

 

คำพูดที่ไม่ควรพูดกับลูก

 

คำพูดที่ไม่ควรพูดกับลูก

คำพูดของพ่อแม่มีอิทธิพลต่อลูกมาก โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กที่ยังอ่อนไหวและกำลังเรียนรู้ โลก คำพูดเชิงลบหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลร้ายต่อความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของลูกได้ในระยะยาว โดยเราได้รวบรวมคำพูดที่อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณและลูกน้อยของคุณไว้ดังต่อไปนี้ 

  • คำพูดที่ด่าทอ: เช่น “โง่”, “ควาย”, “บ้า”, “ปัญญาอ่อน” คำพูดเหล่านี้สร้างบาดแผลทางจิตใจให้กับเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่า ไร้ค่า และส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง
  • คำพูดที่เปรียบเทียบ: เช่น “ทำไมไม่เก่งเหมือนพี่”, “ทำไมสู้เพื่อนคนอื่นไม่ได้” การเปรียบเทียบเด็กกับผู้อื่น จะทำให้เด็กรู้สึกอิจฉา ริษยา และสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเอง
  • คำพูดที่ขู่: เช่น “เดี๋ยวไม่รักแล้วนะ”, “ถ้ายังดื้ออีกจะตี” การขู่จะทำให้เด็กรู้สึกหวาดกลัว ไม่ไว้ใจ และอาจนำไปสู่พฤติกรรมต่อต้าน
  • คำพูดที่กดดัน: เช่น “ต้องได้ A นะ”, “ถ้าสอบไม่ติดหมอแม่จะเสียใจ” การกดดันเด็กมากเกินไป จะทำให้เด็กรู้สึกเครียด กังวล และสูญเสียแรงจูงใจ
  • คำพูดที่ตำหนิ: เช่น “ทำไมทำแบบนี้”, “ทำไมไม่บอกแม่ก่อน” การตำหนิเด็กบ่อยๆ จะทำให้เด็กรู้สึกผิด กลัว และเก็บกดอารมณ์
  • คำพูดที่ไม่รับฟัง: เช่น “แม่รู้ดีที่สุด”, “อย่ามาเถียงแม่” การไม่รับฟังเด็ก จะทำให้เด็กรู้สึกไม่เป็นที่เข้าใจ ไร้ค่า และอาจนำไปสู่ปัญหาการสื่อสาร
  • คำพูดที่ล่วงละเมิด: เช่น “หนูไม่สวย”, “ทำไมหนูอ้วนจัง” การล่วงละเมิดเด็ก จะส่งผลต่อความนับถือตนเอง ภาพลักษณ์ และอาจนำไปสู่ปัญหาทางจิตใจในระยะยาว
  • คำพูดที่ดูถูก: เช่น “อาชีพนี้ไม่มีอนาคตนะ”, “ฝันเฟื่องไปไหม” การดูถูกความฝันของเด็ก จะทำให้เด็กรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง และอาจละทิ้งความฝัน
  • คำพูดที่กดดัน: เช่น “ต้องเรียนหมอเท่านั้นนะ”, “ถ้าไม่เรียนหมอแม่จะเสียใจ” การกดดันให้เด็กเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ จะทำให้เด็กรู้สึกไม่มีความสุข กดดัน และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต
  • คำพูดที่ไม่ให้ความหวัง: เช่น “หนูทำไม่ได้หรอก”, “ยากเกินไป” การไม่ให้ความหวังเด็ก จะทำให้เด็กรู้สึกหมดกำลังใจ ไร้ความมั่นใจ และอาจละทิ้งเป้าหมาย

จำไว้ว่า คำพูดของเรามีพลังมาก สามารถส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของลูกได้ ควรเลือกใช้คำพูดอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูก และช่วยให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ

 

ที่มา: sosthailand.org, istrong.co

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ: 

10 คําพูดที่ไม่ควรพูดกับลูก คำพูดแบบนี้แหละคือที่สุดของการทำร้ายใจลูก

คําที่ควรพูดกับลูก 40 ประโยคดีๆ ที่พ่อแม่ควรพูดกับลูกตั้งแต่เล็ก

5 แนวทาง เลี้ยงลูกยุคใหม่ สอนลูกก้าวข้ามความกลัว ความล้มเหลว

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Siriluck Chanakit

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • เด็ก 10 ขวบ ผูกคอใต้ถุนบ้าน โชคดีที่แม่มาเห็นช่วยทัน
แชร์ :
  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

    นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

    นิด้าโพล เผย คนไทยไม่อยากมีลูก กังวลค่าใช้จ่าย ห่วงสภาพสังคม

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว