การมองเห็นที่ดีในวัยเด็กเป็นเรื่องสำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อย เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็ก คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจในเรื่องสุขภาพตาของลูกเพื่อป้องกันโรคร้ายทางตาที่อาจขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ติดจอและใช้สายตามาก ๆ อาจต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บแพนด้า” ได้ออกมาโพสต์ เตือน โรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัย อันควร ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่มาพร้อมกับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่
ดูจอมากเกินไป ระวังเสี่ยง โรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัย!
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา หมอแล็บแพนด้า หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บแพนด้า” ได้ออกมาโพสต์เตือนโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาวัย ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่มาพร้อมวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ โดยในโพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“ทุกวันนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัยไปมาก เมื่อก่อนแม่ผมเล่นแต่ไลน์ ตอนนี้แม่จะขอประชุม zoom เรื่องแมวที่บ้านไม่ยอมกินอาหาร 55555 ทีนี้อินเทอร์เน็ตบ้านเราก็ความไวสูงซะด้วย ทำให้เราต้องใช้ชีวิตติดหน้าจอ เอาไว้เรียน ทำงาน การติดต่อสื่อสาร เล่นโซเชียล ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม
ชีวิตยุคดิจิทัลแบบนี้ ก็เลยทำให้เราใช้เวลาบนหน้าจอเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว ถ้ามีการพักบ้างก็คงไม่มีผลอะไรมากมาย แต่ถ้าเราใช้ชีวิตติดหน้าจอนาน ๆ ระวังนะคร้าบ ‘โรคจอประสาทตาเสื่อม’ มันจะมาเยือนก่อนเวลาอันควรเอานา
นอกจากการติดจอยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก ที่ทำให้จอประสาทตาเสื่อม เช่น อายุ กรรมพันธุ์ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน ตาได้รับแสงแดดอย่างเรื้อรัง สูบบุหรี่ กินเหล้า ขาดอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่
โรคจอประสาทตาเสื่อมนั้นมีทั้งหมด 2 ชนิด คือ
- ชนิดเปียก หรือแบบเร็ว ส่วนใหญ่จะสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วทันที เกิดจากการมีเส้นเลือดงอกใหม่ที่ผิดปกติ แถว ๆ จุดรับภาพชัดของจอตา เส้นเลือดที่ว่านี้มันจะแตกและเปราะง่าย ก็เลยมีเลือดออกหรือมีการรั่วของสารน้ำออกมา นอกเส้นเลือด อาจตาบอดได้
- ชนิดแห้ง เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด โดยเซลล์จอประสาทตาจะค่อย ๆ เสื่อมไปอย่างช้า ๆ การมองเห็นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น โอยยย น่ากลัว มีทั้งเปียกและแห้งเหมือนขยะเลยเนาะ 5555
อาการที่มักจะเจอ ได้แก่ การแพ้แสง เห็นภาพเบี้ยว ตาพร่ามัว เห็นจุดดำกลางดวงตา เห็นสีผิดเพี้ยน ชอบเจอในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันนี้ครับพี่น้อง เราพบโรคนี้ในผู้ที่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ เพราะการใช้ชีวิตติดหน้าจอที่มากเกินไปยังไงล่ะครับ
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีรายงานการป้องกันโรคนี้อย่างแน่ชัด แต่การพักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือรังสี UV เป็นระยะเวลานาน กินให้ครบ 5 หมู่ ก็สามารถใช้เป็นแนวทางช่วยชะลอการเกิดโรคประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดีครับ
เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่เปราะบางและต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เริ่มต้นดูแลดวงตาวันนี้ ลดความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควรกันดีกว่าครับ”
บทความที่เกี่ยวข้อง : เช็กให้ดี! โรคตาขี้เกียจในเด็ก ตรวจพบเร็ว รักษาได้ ก่อนลูกมองไม่เห็น
โรคจอประสาทตาเสื่อม คืออะไร
โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) คือ โรคที่เกิดจากจอประสาทตาเสื่อมสภาพจนไม่สามารถรับภาพได้ดี โรคนี้ทำให้การมองเห็นแย่ลงเรื่อย ๆ ทำให้มองเห็นสีได้น้อยลง มองภาพบิดเบี้ยว หรือมองเห็นช่วงกลางภาพหายไป แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ทำให้สูญเสียการมองเห็นทั้งหมด โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคจอประสาทตาเสื่อมมักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 50 ปี แต่ก็สามารถเกิดกับคนอายุน้อยได้ แต่สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคนี้มักเกิดจากความเสื่อมของอวัยวะ ทำให้ผู้ป่วยไม่ทันรู้ตัว เพราะอาการของโรคจะค่อย ๆ เกิดขึ้น และบางครั้งอาจเกิดกับดวงตาข้างเดียว
จอประสาทตาเสื่อมเกิดในคนอายุน้อยได้หรือไม่
โรคจอประสาทตาเสื่อม สามารถพบได้ในคนอายุน้อย เนื่องจากจอประสาทตาเสื่อมเป็นโรคทางพันธุกรรม สามารถแสดงอาการได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 20 ปี ขณะที่จอประสาทตาเสื่อมที่พบในช่วงอายุ 30-40 ปี อาจเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมและอายุที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดโรคนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงอายุเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับสรีระของดวงตาที่ผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคนี้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการต้อกระจกเป็นอย่างไร โรคต้อกระจกคืออะไร รวมความรู้เกี่ยวกับโรคต้อกระจก
สาเหตุของโรคจอประสาทตาเสื่อม
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าโรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดจากอะไร แต่สาเหตุหลักของโรคนี้ มักเกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงดังนี้
- อายุ พบมากในผู้ป่วยที่อายุ 50 ปีขึ้นไป
- คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมมาก่อน ซึ่งอาจส่งต่อผ่านทางพันธุกรรม
- สูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้
- เป็นโรคเบาหวาน ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด
- เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิต และไขมันในเลือด
สัญญาณเตือนโรคจอประสาทตาเสื่อม
- อ่านหนังสือยากขึ้น
- แยกใบหน้าได้ไม่ดี เพราะมองเห็นภาพไม่ชัดเท่าเดิม
- มองเห็นภาพบิดเบี้ยวต้องใช้แสงมากขึ้นเพื่อมองเห็นสี
- การมองเห็นแย่ลง โดยเฉพาะส่วนกลางภาพ อาจเห็นเป็นภาพเบลอหรือเป็นสีเทามืด
- ต้องใช้แสงสว่างในการมองเห็น และมองเห็นได้น้อยลงเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 วิธีดูแลดวงตา แบบง่าย ๆ ป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมก่อนวัย
การรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่สามารถดูแลรักษาและชะลอการเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อมให้ช้าที่สุด โดยใช้วิธีดังต่อไปนี้
-
การรักษาโรคจอตาประสาทตาเสื่อม ชนิดเปียก
เป็นการฉายแสงเลเซอร์ลงบนจอประสาทตา เพื่อยับยั้งอาการผิดปกติของหลอดเลือดที่ทำให้เกิดเลือดออกใต้จอประสาทตา หรืออาจใช้ยาฉีดเข้าในน้ำวุ้นตา จะไม่สามารถทำให้กลับมามองเห็นเป็นปกติหรือรักษาให้ขาด แต่ก็สามารถช่วยคงสภาพของการมองเห็นไว้ให้เหลือได้
-
การรักษาโรคจอตาประสาทตาเสื่อม ชนิดแห้ง
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดแห้งให้หายขาด แต่เป็นการรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้โรคนี้ลุกลามมากขึ้น และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมชนิดเปียก โดยวิธีรักษาทางที่ดีที่สุดคือการมาตรวจเช็กสายตา และควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา
การป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม
- งดการสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการรับแสงรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นเวลานาน
- ตรวจเช็กสุขภาพดวงตาเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผลไม้ ผักใบเขียว และวิตามินเสริม เช่น วิตามินอี วิตามินซี เบตาแคโรทีน เป็นต้น
สุขภาพตาของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยในการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากขึ้น ก็ยิ่งเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัย ดังนั้น อย่าลืมเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติ และพาลูกไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?
เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว
10 วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อไหนดี ช่วยถนอมสายตา และปกป้องดวงตาให้แข็งแรง
ที่มา : news.ch7.com, samitivejchinatown.com, phyathai.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!