X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เช็กให้ดี! โรคตาขี้เกียจในเด็ก ตรวจพบเร็ว รักษาได้ ก่อนลูกมองไม่เห็น

25 Jan, 2024
เช็กให้ดี! โรคตาขี้เกียจในเด็ก ตรวจพบเร็ว รักษาได้ ก่อนลูกมองไม่เห็น

โรคตาขี้เกียจในเด็ก เป็นโรคที่มักพบบ่อยในเด็ก โดยที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่อาจไม่ทันสังเกต แต่รู้หรือไม่ว่าโรคนี้อาจรุนแรงจนทำให้ลูกน้อยสูญเสียการมองเห็นไปเลยก็ได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม ยิ่งในช่วงวัยเด็กที่เป็นช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการ หากคุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกตัวเองมีปัญหาด้านสายตา ก็อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและการมองเห็นของลูกน้อยได้

 

โรคตาขี้เกียจในเด็ก ตรวจพบเร็ว รักษาได้ ก่อนลูกมองไม่เห็น

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวได้สัมภาษณ์แพทย์หญิงณัฐฐิญา ลายลักษณ์ศิริ หรือ หมอเจี๊ยบ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาเด็กและตาเข ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลพระรามเก้า ถึงประเด็นของโรคตาขี้เกียจในเด็ก โดยคุณหมอได้อธิบายว่า

 

“โรคตาขี้เกียจ หรือ ตาขี้เกียจ คือ การที่สายตามองไม่ชัด แม้จะทำการแก้ไขค่าสายตา หรือใส่แว่นแล้วก็ตาม ซึ่งสาเหตุของโรคนี้มาจากสมองด้านการมองเห็นที่พัฒนาได้ไม่ดี ซึ่งปกติแล้ว ในช่วงแรกเกิดจนถึง 10 ปีแรก สมองของเด็กจะเติบโตในทุก ๆ ด้าน รวมถึงด้านการมองเห็น หากเด็กคนหนึ่งจะมองเห็นได้อย่างปกติ เด็กจะต้องมองเห็นอย่างชัดเจนเพื่อเรียนรู้ สมองจะรับภาพได้ดี และจะเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์”

 

คุณหมอเจี๊ยบยังได้กล่าวเพิ่มว่า “ในช่วงประมาณ 10 ปีแรก เป็นช่วงที่สมองของเด็กเปราะบาง ทำให้สมองต้องการภาพที่คมชัดซึ่งจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของการมองเห็นได้ตามปกติ หากมีบางอย่างไปกีดขวางการพัฒนาสายตาของเด็กในช่วงนี้ สมองก็จะไม่สามารถพัฒนาระบบการมองเห็นของลูกน้อยให้สมบูรณ์ ส่งผลให้ลูกมองไม่ชัด และเกิดโรคตาขี้เกียจได้ ซึ่งหากปล่อยไว้นานก็จะทำให้ลูกสูญเสียการมองเห็นในระยะยาว”

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคตาขี้เกียจในเด็ก (Lazy Eye) เกิดจากอะไร รักษายังไง ลูกเราจะเป็นมั้ย?

 

 

โรคตาขี้เกียจในเด็ก

 

Advertisement

สาเหตุของโรคตาขี้เกียจ

โรคตาขี้เกียจมักเกิดขึ้นในช่วงแรกเกิดจนถึง 10 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงที่สมองเกี่ยวกับมองเห็นกำลังพัฒนาและมีความเปราะบาง โดยสาเหตุหลักของโรคตาขี้เกียจในเด็กนั้น มีดังนี้

 

1. เกิดจากความผิดปกติของสายตา

เด็กที่มีสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น ยาว เอียง ที่ไม่ได้รับการแก้ไข จะทำให้สมองรับแต่ภาพเบลอ ซึ่งสมองจะรับรู้ว่ามองเห็นชัดสุดได้เท่านี้และไม่พัฒนาต่อ ซึ่งอาจผิดปกติแค่ตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง อาการเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ทันสังเกตเลยก็ได้ เพราะเด็ก ๆ จะใช้สายตาข้างที่มองเห็นชัดเป็นหลัก ทำให้เด็กไม่แสดงอาการว่ามองไม่ชัด แต่เมื่อมาพบแพทย์ก็พบว่าสายตาผิดปกติ ต้องทำการรักษา

 

2. เกิดจากตาเข

คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเข้าใจว่าโรคตาเข คือ โรคตาขี้เกียจ แต่จริง ๆ แล้ว โรคตาขี้เกียจคืออาการมองเห็นไม่ชัดจากสมองที่พัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ขณะที่โรคตาเข คือ ตาที่มองไม่ตรง อาจเขเข้าหรือเขออก ผู้ที่เป็นโรคตาเข อาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคตาขี้เกียจได้ เนื่องจากตาข้างที่เขจะมีพัฒนาการการมองเห็นที่แย่กว่าตาข้างที่ตรง

 

3. เกิดจากการบดบังแสงที่เข้าสู่จอตา

สำหรับสาเหตุนี้อาจพบได้น้อย แต่ก็อาจมีความรุนแรงและรักษาให้หายได้ยากมากที่สุด ตัวอย่างเช่น เด็กที่มีหนังตาตกมาก จนบังแสงให้เข้าสู่สายตาได้ไม่เต็มที่ หรือเด็กที่มีต้อกระจกก็ถูกบังแสงไม่ได้เข้าสู่ตาได้เหมือนปกติ

 

4. เกิดจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ

นอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงในด้านอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดโรคตาขี้เกียจได้ เช่น การคลอดก่อนกำหนด เด็กที่มีพัฒนาการช้า น้ำหนักตัวน้อยกว่าอายุครรภ์ พันธุกรรม การที่แม่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์ เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคตาในเด็ก และโรคตาของผู้ใหญ่ในแต่ละช่วงอายุมีอะไรบ้าง

 

โรคตาขี้เกียจในเด็ก

 

สังเกตอาการตาขี้เกียจในเด็กอย่างไร

คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยไปตรวจคัดกรองการมองเห็นก่อนเข้าเรียน หรือก่อนเข้าอนุบาล เด็ก ๆ ควรจะได้รับการตรวจสายตาก่อนว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งเด็กที่มีพัฒนาการมองเห็นที่ปกติตามวัยนั้น จะมีพัฒนาการดังนี้

  • เด็กแรกเกิดจนถึง 3 เดือนแรก ควรกะพริบตาตอบสนองต่อแสงจ้าได้
  • เด็กอายุ 3 เดือน ควรเริ่มจ้องมอง และมองหน้าคุณแม่ได้ หรือมองตามสิ่งของหรือของเล่นได้เล็กน้อย
  • เด็กอายุ 6 เดือน การจ้องมองและมองตามสิ่งของจะทำได้ดีมาก แต่หากสายตาเลื่อนลอย ตาลอยไม่สบตา และไม่มองตามการเคลื่อนไหวของสิ่งอาจเป็นภาวะผิดปกติ
  • เด็กที่สื่อสารได้แล้ว อาจบอกคุณพ่อคุณแม่ว่ามองกระดานไม่ชัด ต้องเดินเข้าไปใกล้ ๆ หรือต้องหยีตาเพื่อให้มองเห็นได้ชัด ซึ่งเด็กในวัยนี้ควรไปตรวจคัดกรองเพื่อหาความผิดปกติ
  • หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีอาการตาเข ตาเหล่ หรือตามองไม่ตรง ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที

 

การวินิจฉัยโรคตาขี้เกียจ

การวินิจฉัยโรคตาขี้เกียจ จักษุแพทย์จะใช้วิธีการตรวจระดับการมองเห็น สำหรับเด็กที่ยังผู้สื่อสารไม่ได้จะมีเทคนิคการตรวจที่แตกต่างกันในแต่ละวัย ขณะที่เด็กที่สื่อสารได้แล้วจะสามารถตรวจระดับการมองเห็นได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจากสู่แพทย์จะเริ่มหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคตาขี้เกียจ โดยจะตรวจอย่างละเอียดตั้งแต่ลักษณะของเปลือกตา เลนส์ตา กระจกตา จอประสาทตา และค่าสายตา

 

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

โรคตาขี้เกียจในเด็ก

 

การรักษาโรคตาขี้เกียจ

การรักษาโรคตาขี้เกียจจะไม่ได้ใช้ยาในการรักษา หากพบว่าตาขี้เกียจมาจากสาเหตุของสายตาสั้น ยาว หรือเอียง อาจจำเป็นต้องใส่แว่นเพื่อดูว่าอาการของโรคตาขี้เกียจอยู่ในระดับไหน ซึ่งวิธีการรักษาส่วนใหญ่นั้น จะใช้วิธีการปิดตาเพื่อรักษา เช่น หากลูกมีอาการตาขี้เกียจข้างซ้าย ก็จะต้องปิดตาด้านขวา เพื่อให้ตาด้านซ้ายที่ขี้เกียจใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ส่วนระยะการรักษาโรคตาขี้เกียจนั้น ถ้าพบว่าลูกมีอาการนี้เร็ว ก็จะรักษาได้เร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ พัฒนาการของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากตรวจรักษาได้เร็วตั้งแต่เด็ก ก็จะมีโอกาสของการหายขาดจากโรคนี้ได้มากยิ่งขึ้น

 

รู้หรือไม่ โรคตาขี้เกียจกลับมาเป็นซ้ำได้

แม้ว่าโรคตาขี้เกียจจะสามารถรักษาได้ด้วยการปิดตา แต่หากรักษาไม่ถูกวิธีกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะมีโอกาสของความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นโรคนี้อีกครั้ง ส่วนใหญ่โรคนี้จะตรวจพบในเด็กที่อายุน้อย ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการทางสายตาที่ผิดปกติ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาตั้งแต่เด็กจากแพทย์อย่างเหมาะสม ก็จะสามารถหายขาดจากโรคนี้ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

 

โรคตาขี้เกียจในเด็ก

 

สายตาสั้นในเด็ก ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยปละละเลย

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า สายตาสั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคตาขี้เกียจในเด็ก โดยมีงานวิจัยที่พบว่าในอีก 30 ปีข้างหน้า ประชากรประมาณครึ่งโรคหรือคิดเป็นประมาณ 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมด จะมีความเสี่ยงของภาวะสายตาสั้นเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ซึ่งก็คือในแถบของประเทศไทย มีประชากรที่สายตาสั้นเป็นอันดับ 2 รองจากเอเชียตะวันออก และคาดว่าจะมีประชากรที่สายตาสั้นมากถึง 70% โดยสถิตินี้ถือเป็นการคาดการณ์ที่มีความน่าเป็นกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กที่สายตาสั้นก็จะมีโอกาสของการเป็นโรคตาขี้เกียจเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกไปตรวจคัดกรองสายตาเป็นอย่างดี หากพบว่าลูกมีสายตาสั้น ยาว หรือสายตาเอียง ควรให้ลูกใส่แว่นก่อนเพื่อช่วยป้องกันโรคตาขี้เกียจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ที่มา : thairath.co.th, bangkokbiznews.com

 

คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปเข้ารับการตรวจคัดกรองสายตา อย่างน้อย 1 ครั้งก่อนเข้าเรียน เพื่อดูว่าลูกมีการมองเห็นที่ผิดปกติหรือไม่ หากลูกมีภาวะผิดปกติแพทย์จะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เพื่อลดการใช้จอของเด็ก อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเกิดโรคตาขี้เกียจ และยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคสมาธิสั้นในเด็กอีกด้วย

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

ทำความรู้จัก! การทำเลสิก คืออะไร ตัวช่วยสำหรับคนสายตาสั้น

อาการต้อกระจกเป็นอย่างไร โรคต้อกระจกคืออะไร รวมความรู้เกี่ยวกับโรคต้อกระจก

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sittikorn Klanarong

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • เช็กให้ดี! โรคตาขี้เกียจในเด็ก ตรวจพบเร็ว รักษาได้ ก่อนลูกมองไม่เห็น
แชร์ :
  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว