เป็นกระแสที่กล่าวถึงกันอย่างเป็นวงกว้าง สำหรับเรื่องราวของเด็กพิเศษคนหนึ่งอายุ 8 ขวบ ที่ได้ถูกเด็กอายุ 10 ขวบบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้าน พ่อของเด็กที่ก่อเหตุเป็นขาใหญ่ ก็เข้าไปทำลายของในบ้านด้วย โดยทางพ่อของเด็กที่เป็นประเด็นได้ออกมาโต้ว่า เลี้ยงลูกมาอย่างดี และลูกของตนเองไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้
แม่ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองมีลูกเป็นเด็กพิเศษ เมื่อเล่นกับเด็กปกติก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง และโดนแกล้งตลอดจากเด็กที่มีปัญหา ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกันและเรียนโรงเรียนเดียวกัน ที่ผ่านมาลูกของตนเองเคยมาบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน เพราะถูกกลั่นแกล้ง
![เลี้ยงลูกมาอย่างดี](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/viral-000491-4.png?width=700&quality=10)
นาย ป็อป ซึ่งพ่อของเด็กวัย 10 ขวบที่ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์เข้ามาชี้แจงกับทางรายการโหนกระแส โดยเผยว่าลูกของตนเองที่มีอายุ 10 ขวบ เข้าไปทำลายบ้านผู้เสียหายจริง ซึ่งตนสั่งสอนตลอดว่าอย่าไปทำร้ายคนอื่น พร้อมเล่าว่าเหตุการณ์ในวันดังกล่าวว่า ตนเองไปดึงลูกออกมา ตอนที่ไปวันนั้นบ้านเขาพังไปแล้ว โดยลูกของตนเป็นคนทำ ส่วนตนเองนั้นไปห้ามลูก ไม่ได้จะไปบุกรุกทำลายทรัพย์สิน เมื่อไปถึงก็เห็นประตูบ้านพังอยู่แล้ว “ผมไปห้ามลูกครับพี่ อย่ามากล่าวหาผมว่าบุกรุกทำลายบ้าน” ป็อปกล่าว
ในขณะที่แม่ยืนยันว่า วันดังกล่าวผู้เป็นพ่อไม่ได้ห้ามปรามลูก แต่กลับยุยง และยังบอกอีกว่าถ้าเจอหน้าเด็กพิเศษคนนี้ตรงไหนเอาให้เละ ให้รู้ว่าคนปัญญาอ่อนกับคนปัญญาดี ใครจะแน่กว่ากัน ซึ่งทางพ่อก็ปฏิเสธ ว่าไม่ได้พูดคำดังกล่าว ด้าน“ทนายแก้ว” ระบุว่า เด็ก 10 ขวบ คงไม่มีกำลังพอไปพังประตูได้ขนาดนั้น และเด็กจะกล้าพอที่จะวิ่งนำพ่อไปเลยหรือ อย่างนี้มันขัดแย้งกัน พ่อควรจะห้ามปรามลูกไม่ให้วิ่งไป
ขณะที่ทางพ่อก็ยืนยันว่า ยังไม่ทันจอดรถลูกก็วิ่งไปแล้ว นอกจากนี้ คำที่ว่าปัญญาอ่อนเขาก็ไม่ได้พูด เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาที่ว่า เป็นขาใหญ่ พ่อของเด็กระบุว่า ผมก็อยู่ของผมคนเดียว มันเป็นอดีต เมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ก่อนผมก็มีเพื่อนมีอะไร ตอนนี้ผมก็อยู่คนเดียวเป็นพ่อเลี้ยงเดียวสี่ห้าปีไม่เคยยุ่งกับใคร
แต่อย่างไรก็ตามระหว่างรายการ ได้มีพยานโทรเข้ามา ระบุว่าเห็นพ่อของเด็กเป็นผู้ถีบประตูบ้าน โดยเผยว่า เห็นจังหวะที่พ่อของเด็กกำลังเดินวนไปวนมา และถีบเข้าไปที่ประตูสองครั้ง ก่อนจะขี่รถออกไป และขี่ไปก็ด่าทอไปด้วย ซึ่งพ่อของเด็กก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ถีบ
ในระหว่างที่รายการดำเนินไป ได้มีผู้ที่ส่งข้อความเข้ามาแจ้งว่า มีเด็ก 3 ขวบเคยโดนเด็กคนนี้ตบหน้าเช่นกัน ขณะที่พ่อของเด็กกล่าวว่า ลูกของตนเองไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ ตนนั้นอบรมสั่งสอนตลอด ว่าอย่ารังแกคนอื่นนะ อย่าแกล้งกันนะลูก ซึ่งตนเองก็แก้ต่างว่าไม่ได้บุกรุกทำร้ายเพื่อนบ้าน “ผมขอโทษแล้วกัน ผมทำงานไม่ค่อยรู้หรอกว่ายังไง แต่ผมอบรมสั่งสอนตลอด จะมาบอกว่าผมไม่อบรมสั่งสอนไม่ได้”
ในขณะที่ทนายแก้วได้ระบุว่า กรณีที่เด็กไปทำผิดอาญา ไม่ต้องรับผิด แต่พ่อแม่ก็ต้องชดใช้ นอกจากนี้ยังมีป้าเพื่อนบ้านได้โทรเข้ามาเพื่อแจ้งพฤติกรรมของบ้านดังกล่าว โดยบอกว่าเคยถูกพ่อของเด็กมาอาละวาดหาเรื่องเล่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : สุดเศร้า! เด็กพิเศษ โดนเตะเสยหน้า ผอ.แจ้งแค่ซ้อมบทละคร
![เลี้ยงลูกมาอย่างดี](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/viral-000491.png?width=700&quality=10)
ลูกถูกเพื่อนรังแก พ่อแม่ควรแนะนำอย่างไร
1. พูดคุยถึงเรื่องที่โรงเรียน
ในบางครั้งลูกอาจรู้สึกกลัว อายหรือเสียหน้า หากถูกเพื่อนรังแก จึงไม่กล้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนอื่นรับรู้ ดังนั้น พ่อแม่จึงควรคุยกับลูก ก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ แสดงให้ลูกเห็นว่า พ่อแม่สามารถเป็นที่พึ่งพาได้ และพร้อมที่จะแก้ปัญหาที่ลูกเผชิญอยู่ได้ นี่คือสิ่งที่ต้องทำลำดับแรก
2. ฝึกความมั่นใจในตัวเอง
ฝึกให้ลูกกล้าพูด หรือลองแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อน หากเกิดความขัดแย้งกับเพื่อน ๆ เพียงเล็กน้อย เพราะหากลูกไม่กล้าที่จะพูด ถึงพ่อแม่จะเข้าไปช่วยแทน วันข้างหน้าลูกก็อาจจะโดนแกล้งอีกได้
3. หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
การถูกรังแกมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ลับตาผู้คน หรืออยู่นอกเหนือสายตาของผู้ใหญ่ เช่น ห้องน้ำ ใต้อาคารเรียน หลังอาหารเรียน เป็นต้น ดังนั้นจึงควรสอนให้ลูกหลีกเลี่ยงไปสถานที่เสี่ยงเหล่านี้ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ แต่หากจำเป็นต้องไป ก็ไม่ควรที่จะไปคนเดียวควรจะหาเพื่อนไปด้วย เพราะอย่างน้อยก็มีเพื่อนที่ไว้ใจช่วยเหลือได้
4. ทำความรู้จักกับเพื่อนของลูก
วิธีนี้ถือว่าดีไม่น้อยเลยค่ะ หากสามารถทำได้นะคะ การเป็นเพื่อนกับเพื่อนลูก จะทำให้เราในฐานะพ่อแม่เป็นที่ไว้วางใจของเพื่อนลูก อีกทั้งการรู้จักเพื่อน ๆ ของลูก จะเป็นผลดีในการเข้าใจปัญหาของลูกเมื่อเขาถูกรังแก
5. สอนให้กล้ามีปากมีเสียง
โดยวิธีนี้ไม่ได้ฝึกให้เด็กมีนิสัยที่ก้าวร้าว แต่เป็นการสอนให้เด็ก ๆ รู้จักปกป้องตัวเอง กล้าที่จะห้ามหรือพูดกับเด็กที่มารังแก วิธีนี้ไม่ได้ให้สอนลูกเป็นเด็กที่ไม่ดี แต่ให้รู้จักตั้งรับ และฝึกความกล้าหาญในทางที่ถูกต้องและควรจะเป็น หากลูกทำตัวอ่อนแอ เอาแต่ร้องไห้ และถูกเพื่อนแกล้ง แบบนี้เพื่อนที่แกล้งมักจะได้ใจ ควรสอนให้ลูกรู้จักปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว
6. ให้ลูกกล้าตัดสินใจเมื่อถูกรังแก
เด็ก ๆ ที่ถูกรังแก ก็มักจะโดนรังแกอยู่เป็นประจำ ดังนั้นการฝึกให้เด็ก ๆ กล้าตัดสินใจ เมื่อถูกรังแก จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เลิกโดนรังแก และเพื่อให้คนที่รังแกรู้ว่าอย่ามาทำอีก เพราะลูกจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีป้องกันไม่ให้ลูกโดนเพื่อนแกล้ง ในวัยอนุบาล
![เลี้ยงลูกมาอย่างดี](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/viral-000491-1.png?width=700&quality=10)
7. เชื่อใจลูก
ขอเน้นว่าเชื่อใจ ไม่ใช่เข้าข้างนะคะ การเชื่อใจลูกอย่างมีเหตุผลถือเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรมีให้กับลูกเพราะการเชื่อใจลูกจะเป็นวิธีที่ทำให้ลูกเปิดใจ กล้าระบายปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฟังมากยิ่งขึ้น
8. สอนลูกให้รู้จักระวังตัวเอง
เด็กส่วนใหญ่นั้นไม่อาจแก้ปัญหา การโดนรังแกได้ด้วยตัวเอง และมักจะต้องการขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ ดังนั้นแล้ว จึงควรสอนลูกให้ได้รู้จักระวังตัวเองให้มากขึ้น เช่น หากลูกต้องไปไหนมาไหนคนเดียว ก็ควรจะสอนให้ลูกรู้จักวิธีป้องกันการโดนรังแก ด้วยการหาเพื่อนสักคน ให้ไปไหนมาไหนด้วยกัน
9. อย่าเก็บเป็นความลับ
การจะแก้ปัญหาลูกถูกรังแก ไม่ควรที่จะสัญญาว่าจะรักษาความลับ เรื่องที่ลูกถูกรังแก ให้ลูกได้กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยที่มีพ่อแม่คอยเป็นที่ปรึกษา และคอยอยู่เคียงข้างลูกค่ะ
10. ให้ขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
สอนลูกให้เดินไปขอคำปรึกษา ในตอนที่เกิดปัญหา หรือต้องการคำปรึกษาขอความช่วยเหลือที่ตนเองไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจากเพื่อน ๆ หรือครูที่ไว้ใจ
11. ฝึกให้มีความใจเย็น
เด็กที่มีนิสัยเกเร มักจะแกล้งรังแกเด็กที่แสดงอาการหวาดกลัว หรืออ่อนแออยู่เป็นประจำ ดังนั้น จึงควรสอนให้ลูกพยายามที่จะซ่อนความรู้สึกกลัวหรืออ่อนแอ ไม่ให้เด็กเกเรนั้นได้เห็นหรือรับรู้ เพื่อป้องกันการโดนรังแก
อย่ารั้งรอหรือเพิกเฉยกับปัญหาลูกถูกรังแก เราสามารถช่วยเหลือลูกได้ เริ่มตั้งแต่สอนให้ลูกมีความเชื่อมั่นในตนเอง รู้จักระมัดระวังตัวและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น มันเป็นความจริงและสำคัญอย่างยิ่ง เพราะปัญหาการรังแก กลั่นแกล้งนับวันจะทวีความ ซับซ้อน และอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะลูกในช่วงวัยรุ่นอย่างน้อย การดูแลลูกผ่านการสอนให้ดูแลตนเอง จะช่วยให้ลูกมีแนวทางเมื่อเขาเจอปัญหาเพื่อรังแกได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
หยุด Bully เพราะเรื่องที่เกิดเป็นปมในใจ ไม่ใช่เรื่องน่าขำ
ลูกโดนเพื่อนแกล้ง หรือลูกเป็นคนชอบแกล้งเพื่อนรึเปล่า?
10 เหตุผลของการไม่อยากไปโรงเรียน และจะทำอย่างไรให้ลูกอยากไปโรงเรียน
ที่มา :
ch3plus.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!