X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เครื่องดื่มชงรสหวาน รู้หรือไม่? ถ้าดื่มเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ!

2 Nov, 2022
เครื่องดื่มชงรสหวาน รู้หรือไม่? ถ้าดื่มเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ!

เรียกได้ว่า เครื่องดื่มชงรสหวาน กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่หลายคนชื่นชอบ เพราะไม่ว่าจะกินเมื่อไรก็รู้สึกอร่อยชื่นใจทุกที ด้วยความละมุนละไม กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ ทำให้บางคนอาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก อย่างการกินหวานตบท้ายมื้ออาหาร ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นก็เป็นได้ ทั้งที่เครื่องดื่มเหล่านี้ไม่จำเป็นต่อร่างกายของเราแม้แต่น้อย และการดื่มอะไรหวาน ๆ จะทำให้ติดและส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

 

ล่าสุดกรมอนามัยได้เปิดเผยว่า คนไทยติด เครื่องดื่มชงรสหวาน เป็นจำนวนมาก โดยอ้างอิงจากผลการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชาชนอายุ 6 ปี ขึ้นไป ปี 2564 เกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มชง เช่น ชา กาแฟ น้ำหวาน ชานม เป็นต้น ผลสำรวจแนวโน้มเด็กไทยติดรสหวาน ดื่มเครื่องดื่มชง จำนวน 1-2 วัน ต่อสัปดาห์ เด็กอายุ 6-14 ปี ร้อยละ 25 วัยรุ่นถึงวัยอุดมศึกษา อายุ 15-24 ปี ร้อยละ 24.9 ผลสำรวจผู้ใหญ่ติดรสหวาน ดื่มเครื่องดื่มชงทุกวัน ผู้ใหญ่อายุ 45-59 ปี ร้อยละ 30.9 ผู้ใหญ่อายุ 25-44 ปี ร้อยละ 27.4 ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มชงมักจะเติมน้ำตาลปริมาณมากเพื่อชูรสชาติ หากดื่มเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และมีพฤติกรรมติดหวาน

 

เครื่องดื่มชงรสหวาน

Advertisement

 

ส่วนน้ำตาลเมื่อกินเข้าไปจะเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่หากได้รับมากเกินไป จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นสาเหตุ ของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และเกิดภาวะอ้วนหรือโรคอ้วน เพื่อลดพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาลในเด็กไทย จำเป็นต้องอาศัย ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งที่บ้านและโรงเรียน ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลดการบริโภคน้ำตาล โดยเฉพาะช่วงเปิดเทอมนักเรียนส่วนใหญ่ต้องกินอาหารและเครื่องดื่มจากโรงอาหาร และร้านค้าภายในโรงเรียน

 

ดังนั้น โรงเรียนจึงควรใส่ใจเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพสำหรับเด็ก เลือกปรุงเมนูอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม มีร้านจำหน่ายผลไม้สดพร้อมกิน เลือกจำหน่ายเครื่องดื่มแบบที่ไม่เติมน้ำตาล หรือเครื่องดื่มหวานน้อยที่เติมน้ำตาลไม่เกิน 5% หากน้ำตาลเกิน 10% ถือว่าหวานจัด ควรต้องหลีกเลี่ยง โดยอ่านที่ฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนนำมาจำหน่าย ทั้งนี้ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมถึงคุณครู ควรปลูกฝังให้เด็กเลี่ยงกินหวาน โดยให้ความรู้เรื่องการบริโภค และเป็นตัวอย่างพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เพื่อป้องกันการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ควรส่งเสริมให้เด็ก กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นกินผักและผลไม้

 

เลือกเครื่องดื่มชงรสหวานน้อย หรือชนิดน้ำตาลศูนย์เปอร์เซ็นต์ เลี่ยงขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม พยายามควบคุมให้เด็กกินน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน แต่หากเด็ก อยากดื่มน้ำหวาน ช่วงเริ่มต้นควรลดขนาดหรือความถี่การดื่มเครื่องชงรสหวานลง หรือเลือกดื่มน้ำผลไม้สด ไม่เติมน้ำตาลแทน อย่างไรก็ตาม น้ำเปล่ายังคงเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุด โดยควรดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อส่งเสริมให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทารกอ้วนจ้ำม่ำ ตัวกลม พ่อแม่ต้องระวัง! เสี่ยงเป็นโรคอ้วน เบาหวานตอนโต

 

เครื่องดื่มรสหวาน ข้อเสียของการดื่มเป็นประจำ

  • เครื่องดื่มหวาน ๆ เป็นแหล่งของน้ำตาลส่วนเกินที่สำคัญ ซึ่งไม่ทำให้อิ่มท้อง ไม่มีสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่งผลให้เสพติดรสหวาน และทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม
  • การบริโภคเครื่องดื่มหวาน ๆ มีความสัมพันธ์กับ โรคอ้วนโดยเฉพาะอ้วนลงพุง ภาวะไขมันพอกตับ ภาวะดื้อต่ออินซูลินและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ ฟันผุและโรคทันตกรรม โรคเกาต์ เป็นต้น
  • การดื่มเครื่องดื่มหวาน ๆ มักพบร่วมกับพฤติกรรมที่ไม่ส่งเสริมสุขภาพอื่น ๆ อาทิ การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารจานด่วน เป็นต้น
  • ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เพราะนอกจากปริมาณน้ำตาลจะสูงแล้ว ยังอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารและทำให้มีอาการท้องอืดได้

 

เครื่องดื่มชงรสหวาน เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง

1. กระดูกและฟันผุกร่อน

เพราะกรดคาร์บอนิกที่มีอยู่ในน้ำอัดลมเป็นตัวการทำลายสารเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึกกร่อนแล้วยังทำให้กระดูกของเราผุกร่อนด้วย

 

2. โรคอ้วน

การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวมากขึ้นและเสี่ยงเป็นโรคอ้วน

 

เครื่องดื่มชงรสหวาน

 

3. สูญเสียแคลเซียม

การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม ชาเย็น หรือชานมไข่มุก ทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมโดยไม่จำเป็น เพราะแคลเซียมถูกขับออกไปพร้อมกับปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสเป็นโรคกระดูกผุได้ง่าย

 

4. นอนไม่หลับ

เนื่องจากฤทธิ์ของคาเฟอีนในน้ำอัดลมไปกระตุ้นระบบประสาท ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ

 

5. มีปัญหาเรื่องผิว

การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำมีผลกระทบต่อผิวพรรณไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ เพราะน้ำอัดลมมีสารบางตัวที่มีฤทธิ์ขจัดน้ำออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำย่อมทำให้ผิวเกิดริ้วรอย ดูหมองคล้ำ และอาจทำให้เกิดสิว

 

6. โรคเบาหวาน

การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำเสี่ยงก่อให้เกิดโรคเบาหวานตามมาได้ เพราะร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

บทความที่เกี่ยวข้อง : ปอดอักเสบในเด็ก อาการป่วยอันตราย สังเกตอย่างไรได้บ้าง ?

 

7. โรคมะเร็ง

น้ำอัดลมมีโมเลกุล Benzene ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง เมื่อดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำย่อมเพิ่มโอกาสเสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง

 

บทความจากพันธมิตร
Attitude Mom เครื่องปั๊มนมแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเครื่องปั๊มนมไร้สาย Easy Life III และ Application Attitude Mom
Attitude Mom เครื่องปั๊มนมแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเครื่องปั๊มนมไร้สาย Easy Life III และ Application Attitude Mom
รวมโมเมนต์แห่งความสุขจากงาน Central x theAsianparent Baby Fair 2025
รวมโมเมนต์แห่งความสุขจากงาน Central x theAsianparent Baby Fair 2025
ช้อปสุดฟิน!  ครั้งแรกของปี รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว Central x theAsianparent Baby Fair งานแฟร์สินค้าแม่ลูกสุดยิ่งใหญ่ ลดสูงสุด 70%
ช้อปสุดฟิน! ครั้งแรกของปี รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว Central x theAsianparent Baby Fair งานแฟร์สินค้าแม่ลูกสุดยิ่งใหญ่ ลดสูงสุด 70%
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ปลดล็อคพลังแห่งผู้นำ สู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ปลดล็อคพลังแห่งผู้นำ สู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ

เครื่องดื่มชงรสหวาน

 

ประเภทของเครื่องดื่มรสหวานที่ควรเลี่ยง

1. กาแฟ

กาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหมด เพราะเป็นตัวช่วยในยามเช้าของผู้ใหญ่ที่เพิ่มความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า บางคนอาจกินกาแฟกับขนมปังแทนอาหารเช้าด้วย บางคนอาจเลือกใช้กาแฟสำเร็จรูปแบบซองชงซึ่งมักจะมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาลและครีมเทียมอยู่เกือบครึ่งหนึ่ง

 

ดังนั้นหากต้องการทานกาแฟเป็นประจำทุกวันควรเลือกทานเป็นกาแฟดำแบบชงเองโดยไม่ใส่น้ำตาล หรือเลือกสั่งเป็นอเมริกาโนแบบไม่ใส่น้ำตาลแทนค่ะ การกินกาแฟแบบหวานน้อยอาจช่วยลดน้ำตาลลงได้แต่ก็ไม่เหมาะกับการทานเป็นประจำทุกวันอยู่ดีนะคะ หากเลี่ยงได้ควรจะกินแบบไม่ใส่น้ำตาลเลยจะดีที่สุดค่ะ

 

2. ชานม เครื่องดื่มนมต่าง ๆ

ชานมไข่มุกน้ำตาลเบิร์นไฟ แบบเลเยอร์นม แยกชั้น อาจเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลายคน บางคนอาจชอบชาแบบอื่น ๆ ที่แตกต่างออกไป เช่น ชาเขียวมัทฉะลาเต้ ชานมเย็น หรือบางคนที่ชอบกินโกโก้ภูเขาไฟลาวา ช็อกโกแลตเย็น หรืออื่น ๆ แน่นอนว่าเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีรสชาติอร่อยหวานมัน ต้องใส่น้ำตาลหรือไซรัปลงไปเป็นจำนวนมาก แถมยังได้ความหวานจากไข่มุกอีก ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอนค่ะ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรงดทานจะดีที่สุด หรือเลือกทานเป็นชาสูตรไร้น้ำตาลต่าง ๆ แทน

 

3. น้ำผลไม้ เครื่องดื่มน้ำผลไม้จากน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น

น้ำผลไม้อาจดูเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เพราะนอกจากจะทำให้ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นยังได้รับวิตามินต่าง ๆ จากผลไม้อีกด้วย แต่ความจริงนั้นน้ำผลไม้จัดเป็นเครื่องดื่มที่มีความหวานค่อนข้างมาก แถมยังมีน้ำตาลอยู่เยอะเลยทีเดียว ได้กากใยอาหารน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการกินผลไม้สดอีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดควรเลือกทานเป็นผลไม้สดไปเลยดีกว่า เพราะจะทำให้ได้รับทั้งกากใยอาหารและวิตามินต่าง ๆ อย่างครบถ้วน แต่ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น

 

4. นมเปรี้ยวและนมปรุงแต่งรส

นมเปรี้ยวก็จัดเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับหลาย ๆ คนโดยเฉพาะเด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันมีการผลิตนมรสชาติต่าง ๆ ขึ้นมามากมายจนทำให้เป็นที่ถูกใจของทุกเพศทุกวัย แต่ด้วยรสชาติที่อร่อยก็ต้องแลกมากับการเติมน้ำตาลลงไปปริมาณมากเช่นกัน ดังนั้นการดื่มนมปรุงแต่งรสทุกวันย่อมทำให้ระดับน้ำตาลสะสมในเลือดเพิ่มสูงได้ ทางที่ดีควรดื่มนมจืดจะดีที่สุดค่ะ

 

เครื่องดื่มชงรสหวาน

 

5. นมถั่วเหลืองและน้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มที่หลายคนชอบดื่มในยามเช้า ซึ่งน้ำเต้าหู้รสชาติปกติที่ขายในท้องตลาดกว่าจะมีความหวานได้ จะต้องเติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเยอะพอสมควร ยิ่งถ้าเป็นน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องที่เครื่องไม่ใช่ธัญพืช แต่เป็นเม็ดสาคู ยิ่งมีแต่ความหวานล้นถุงแน่นอน ถ้าทานแบบนี้ทุกเช้ารับรองว่าน้ำตาลพุ่งกระฉูดแน่นอนเลย หากใครที่ชอบน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง ควรสั่งหรือเลือกเป็นสูตรไม่ใส่น้ำตาล จะได้ทานได้อย่างสบายใจไม่ต้องห่วงว่าน้ำตาลจะขึ้นค่ะ

 

6. เครื่องดื่มชูกำลัง

คนส่วนใหญ่อาจไม่ค่อยได้ทานเครื่องดื่มชูกำลังเท่าไรนัก ขณะที่หลายคนกลับต้องทานอย่างขาดไม่ได้ เผลอ ๆ บางคนอาจทานเกินกว่า 2 ขวดต่อวันอีกด้วย ซึ่งเครื่องดื่มชูกำลังเหล่านี้มักมีรสชาติหวานและมีน้ำตาลผสมอยู่ แต่ความจริงแล้วปัจจุบันมีเครื่องดื่มที่ช่วยบำรุงร่างกาย และเป็นสูตรที่ไม่ผสมน้ำตาลจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมากมาย ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำ และเลือกทานเป็นเครื่องดื่มสูตรไร้น้ำตาลแทนนะคะ

 

7. น้ำอัดลม

อีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดฮิตที่ขาดไปไม่ได้เลย อย่างน้ำอัดลม ด้วยรสชาติหวานที่มาพร้อมกับความซ่าจึงทำให้น้ำอัดลมเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดฮิต ที่คนส่วนใหญ่ดื่มแทนน้ำเปล่าตบท้ายมื้ออาหาร ซึ่งนอกจากจะมีน้ำตาลอยู่เป็นปริมาณมากแล้ว แก๊สที่อัดเพื่อความซ่ายังไม่เป็นมิตรกับระบบทางเดินอาหารอีกด้วย

 

ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการทำเครื่องดื่มน้ำอัดลมสูตรน้ำตาลศูนย์เปอร์เซ็นต์ หรือสูตรน้ำตาลน้อยออกมาจำหน่ายหลายยี่ห้อ แต่การกินเครื่องดื่มที่ปรุงแต่งรสหวานด้วยน้ำตาลเทียมเหล่านี้ ก็มีโอกาสทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงนะคะ

 

8. น้ำหวาน

และก็มาถึงอันดับสุดท้ายกับเครื่องดื่มรสหวานยอดฮิตของคนไทย ไม่ใช่อะไรที่ไหนแต่เป็นน้ำหวานนั่นเอง น้ำแดงใส่น้ำแข็งรสชาติหวานเย็นชื่นใจสำหรับดับกระหายคลายร้อน ซึ่งนอกจากน้ำตาลกับสารแต่งกลิ่นรสและสารแต่งสีแล้ว เครื่องดื่มประเภทน้ำหวานนี้ก็ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเลย ดังนั้นหากต้องการความสดชื่นแบบไม่มีน้ำตาลก็ควรเลี่ยงทานเป็นน้ำเย็นธรรมดาจะดีกว่าค่ะ

 

เมื่อรู้แล้วว่าน้ำหวาน น้ำอัดลม มีผลเสียต่อร่างกายมากถึงเพียงนี้ ควรดื่มดับกระหายคลายร้อนแต่พอดี อย่าเผลอตัวคว้าน้ำหวานหรือน้ำอัดลมออกมากินทุกครั้งที่ต้องการเติมความสดชื่นให้ร่างกาย เพราะถ้าเกิดอาการติดขึ้นมา ระวังเจอโรครุมเร้า แถมยังทำให้อ้วนได้อีกด้วย ละถ้าหากใครอยากดื่มแบบขาดหวานไม่ได้จริง ๆ ก็ควรเลือกทานเป็นแบบหวานน้อย หรือเลือกดื่มเครื่องดื่มชนิดที่มีสารให้ความหวานอื่นนอกจากน้ำตาลทดแทนจะดีกว่านะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อาบน้ำเด็กทารก เทคนิคอาบน้ำเด็กให้สะอาดและปลอดภัย อาบอย่างไรไม่ให้ลูกป่วย

เช็กอาการไวรัส RSV โรคติดต่อที่ต้องระวังในช่วงปลายฝนต้นหนาว

คุณแม่อารมณ์ดี ลูกในท้องก็แฮปปี้ เพราะอารมณ์มีผลต่อพัฒนาการสมองของลูกในครรภ์

ที่มา : moph, tnnthailand, Chulalongkorn Hospital

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanthamanee Phisitbannakorn

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • เครื่องดื่มชงรสหวาน รู้หรือไม่? ถ้าดื่มเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ!
แชร์ :
  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • 8 ข้อคิดสอนเด็กจาก Lilo & Stitch 2025 ภาพยนตร์สุดน่ารัก ดูสนุกทั้งครอบครัว

    8 ข้อคิดสอนเด็กจาก Lilo & Stitch 2025 ภาพยนตร์สุดน่ารัก ดูสนุกทั้งครอบครัว

  • ทำแท้งแล้วผีเด็กจะตามจริงเหรอ ความเชื่อเรื่องผีเด็กหลังทำแท้ง จริงหรือแค่ความรู้สึกผิด?

    ทำแท้งแล้วผีเด็กจะตามจริงเหรอ ความเชื่อเรื่องผีเด็กหลังทำแท้ง จริงหรือแค่ความรู้สึกผิด?

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • 8 ข้อคิดสอนเด็กจาก Lilo & Stitch 2025 ภาพยนตร์สุดน่ารัก ดูสนุกทั้งครอบครัว

    8 ข้อคิดสอนเด็กจาก Lilo & Stitch 2025 ภาพยนตร์สุดน่ารัก ดูสนุกทั้งครอบครัว

  • ทำแท้งแล้วผีเด็กจะตามจริงเหรอ ความเชื่อเรื่องผีเด็กหลังทำแท้ง จริงหรือแค่ความรู้สึกผิด?

    ทำแท้งแล้วผีเด็กจะตามจริงเหรอ ความเชื่อเรื่องผีเด็กหลังทำแท้ง จริงหรือแค่ความรู้สึกผิด?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว