คนท้องแขม่วท้องได้ไหม หลังคลอดแล้วอยากหุ่นดีเหมือนเดิม แขม่วพุงไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยดีไหม? นี่อาจเป็นความคิดแวบเข้ามาในหัวของคุณแม่หลายๆ คนที่กำลังตั้งครรภ์ แต่จริงๆ แล้ว คนท้องแขม่วท้องอาจเป็นอันตรายต่อทั้งสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ค่ะ บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับอันตรายของการแขม่วพุงขณะตั้งครรภ์ พร้อมแนะนำแนวทางที่ปลอดภัยกว่าสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
คนท้องแขม่วท้องได้ไหม คนท้องแขม่วพุงได้ไหม
หนึ่งในความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดูแลรูปร่างในช่วงตั้งครรภ์ที่พบบ่อย คือ การพยายามแขม่วท้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหวังว่าหน้าท้องจะยุบลงและกลับมากระชับได้เร็วขึ้นหลังคลอด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเชื่อนี้ไม่ได้ช่วยให้คุณแม่มีรูปร่างที่ดีขึ้นนะคะ แถมยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ
ทำไมความเชื่อนี้จึงไม่ถูกต้อง
เนื่องจากระหว่างตั้งครรภ์ กล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่จะค่อยๆ ยืดออกเพื่อรองรับการขยายตัวของมดลูก ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่ยืดออกนั้น ต้องการการฟื้นฟูที่ถูกวิธีหลังคลอด ซึ่งรวมถึงการพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่หลังคลอด และการดูแลเอาใจใส่ร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น การพยายามแขม่วพุงขณะตั้งครรภ์ไม่ได้ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องคงความกระชับ หรือกลับคืนสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้นหลังคลอดค่ะ
คนอ้วนแขม่วพุงได้ แต่คนท้องไม่ควรแขม่วพุง
สำหรับคนอ้วน
โดยทั่วไป การแขม่วพุงของสาวๆ มีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้หน้าท้องดูแบนราบชั่วคราว หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงในระยะยาว การแขม่วพุงเป็นครั้งคราวไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง แต่หากทำอย่างไม่ถูกวิธีหรือทำมากเกินไป อาจเกิดอาการปวดหลังหรือกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและลำตัวได้

สำหรับคนท้อง
|
เหตุผลที่คนท้องไม่ควรแขม่วพุง
|
รบกวนการเจริญเติบโตของทารก |
การแขม่วพุงจะไปจำกัดพื้นที่ในช่องท้อง ทำให้ทารกมีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวและเจริญเติบโตน้อยลง |
ลดการไหลเวียนโลหิต |
การกดทับบริเวณหน้าท้องอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังมดลูกและทารก ทำให้ทารกได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ |
เพิ่มแรงดันในช่องท้อง |
การแขม่วท้องอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น ปวดหลัง กรดไหลย้อน ริดสีดวงทวาร และอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก |
ส่งผลต่อกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน |
การแขม่วพุงอาจรบกวนการทำงานของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรองรับมดลูกและมีบทบาทในการคลอด |
สรุป คนท้องแขม่วท้องได้ไหม แม้การแขม่วท้องหรือแขม่วพุงอาจเป็นพฤติกรรมที่คนทั่วไปสามารถทำได้ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ถือเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ การดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ควรเน้นไปที่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการพักผ่อนที่เพียงพอ แทนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงรูปร่างด้วยการแขม่วพุงค่ะ
ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการแขม่วพุงขณะตั้งครรภ์
หัวใจสำคัญในการมีรูปร่างที่ดีหลังคลอดนั้นอยู่ที่การเตรียมความพร้อมของร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนี้
1. ควบคุมน้ำหนัก
คุณแม่ควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้น้ำหนักคนท้องเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดภาระของร่างกายและทำให้การกลับคืนสู่รูปร่างเดิมหลังคลอดง่ายขึ้น
2. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสมมีประโยชน์มากมายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดอาการปวดเมื่อย ควบคุมน้ำหนัก และเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือก การออกกำลังกายที่ไม่ก่อให้เกิดแรงกระแทกหรือแรงกดบนหน้าท้องมากเกินไป ตัวอย่างเช่น
- การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและปลอดภัย
- โยคะสำหรับคนท้อง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยในการผ่อนคลาย
- การว่ายน้ำ ช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อต่อและได้ออกกำลังกายทั่วร่างกาย
ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายสำหรับคนท้อง ก่อนเริ่มโปรแกรมใดๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละท่านนะคะ
3. ดูแลสุขภาพจิตใจ
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคุณแม่ได้ ความเครียดอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตัวเอง เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดี การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือละเลยการออกกำลังกาย
คุณแม่ควรหากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงานอดิเรก หรือพูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือเข้าร่วมกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และรับกำลังใจจากคุณแม่ตั้งครรภ์ท่านอื่นๆ

4. พักผ่อนให้เพียงพอ
ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่ทำงานหนักขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ดังนั้น ร่างกายที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณแม่มีพลังงาน ลดความเหนื่อยล้า และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม การนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน และการหาเวลาพักผ่อนในช่วงกลางวัน จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในระหว่างตั้งครรภ์
วิธีลดพุงหลังคลอด
หากต้องการให้หน้าท้องกลับมากระชับ เหมือนตอนก่อนตั้งครรภ์ การบริหารหน้าท้องสามารถช่วยได้ ดังนี้
การออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะสมหลังคลอด ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายอีกด้วย
สำหรับการลดหน้าท้องหลังคลอดนั้น กิจกรรมที่เน้นบริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้อง เช่น การทำท่าแพลงก์ หรือการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องเบาๆ โดยควรทำเป็นประจำทุกวันอย่างน้อย 15 นาที คุณแม่จะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1-2 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารที่มีประโยชน์

แม้ว่าจะไม่แนะนำให้แขม่วท้องระหว่างตั้งครรภ์ แต่สำหรับการแขม่วท้องหลังคลอดเบาๆ นั้นไม่เป็นอันตรายค่ะ การฝึกเกร็งหน้าท้องเบาๆ เป็นประจำหลังคลอด เริ่มต้นด้วยการหายใจเข้าลึกๆ ให้หน้าท้องป่องขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นค่อยๆ หายใจออกพร้อมกับเกร็งหน้าท้องเบาๆ คล้ายกับการแขม่วแต่ไม่ต้องออกแรงมาก ทำซ้ำสลับกันประมาณ 5 ครั้ง อาจมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้นและช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้ โดยสามารถทำได้ในหลายท่าทาง ไม่ว่าจะเป็นท่านั่ง นอน หรือยืนก็ได้
การเปลี่ยนแปลงร่างกายขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติของคุณแม่ท้อง จึงไม่ควรรีบร้อนที่จะลดหุ่นหรือพุงระหว่างตั้งครรภ์นะคะ เมื่อคลอดลูกแล้วร่างกายคุณแม่ก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูและกลับมากระชับอีกครั้ง โดยการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องอาหาร การนอนหลับ การออกกำลังกาย ประกอบกันค่ะ
ที่มา : กังนัมคลินิก
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นวดคนท้อง ที่ไหนดี 10 พิกัด ที่นวดคนท้อง ปี 2568
คนท้องไอกินอะไรถึงหาย คนท้องไอบ่อย อันตรายมั้ย แก้ไขยังไงดี?
4 สาเหตุ คนท้องทำไมรักแร้ดำ ผิวเป็นหนังไก่ ทำอย่างไรให้รักแร้ขาวเรียบเนียน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!