TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดไหม แก้ปัญหายังไงให้ดีต่อคุณแม่และลูกน้อย

บทความ 5 นาที
ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดไหม แก้ปัญหายังไงให้ดีต่อคุณแม่และลูกน้อย

คุณแม่ให้นมที่มีปัญหา ให้นมลูก แล้ว เจ็บหัวนม เกิดจากหลายสาเหตุค่ะ มาดูวิธีดูแลและแก้ไขเพื่อให้ลูกน้อยสามารถกินนมแม่ได้ต่อเนื่องกันค่ะ

คุณแม่หลายคนที่ให้นมลูกน้อยอาจต้องเผชิญกับปัญหา เจ็บหัวนม ซึ่งนับเป็นอุปสรรคสำคัญที่อาจทำให้ต้องให้ลูกหยุดกินนมแม่ หรือหย่านมแม่ก่อนกำหนด แต่อย่าเพิ่งกังวลค่ะ เราจะชวนมาหาคำตอบกันว่า ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดการให้นมไหม รวมถึงมีวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย เพื่อให้การกินนมแม่ยังสามารถไปต่อได้อย่างมีความสุขและราบรื่นมากยิ่งขึ้น

ให้นมลูก เจ็บหัวนม

สารบัญ

  • สาเหตุที่คุณแม่ ให้นมลูก เจ็บหัวนม 
  • หัวนมแตกหรือร้าว
  • ท่อน้ำนมอุดตัน
  • เต้านมอักเสบ
  • ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดไหม
  • แนะนำท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง
  • 4 ท่าให้นมลูกถูกวิธี
  • แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ให้นมลูก เจ็บหัวนม
  • ป้องกันและดูแลหัวนมแตก 
  • ดูแลแก้ไขปัญหาท่อน้ำนมอุดตัน
  • บรรเทาอาการเต้านมอักเสบ ป้องกันน้ำนมค้างเต้า
  • ให้นมลูก เจ็บหัวนม อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์

สาเหตุที่คุณแม่ ให้นมลูก เจ็บหัวนม 

เชื่อว่าคุณแม่เกือบทุกคนให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และมีความตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุด เนื่องจาก นมแม่ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่มีคุณค่านั้นเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย แต่ปัญหาที่คุณแม่หลายคนมักพบบ่อยในช่วงให้นม คือ ให้นมลูก แล้ว เจ็บหัวนม ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยและอาจทำให้คุณแม่ท้อใจจนไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานตามที่ตั้งใจไว้ โดยมักเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้

  • หัวนมแตกหรือร้าว

ลูกดูดเต้า เป็นแผล เกิดจากการที่ลูกน้อยดูดนมแรงเกินไป หรือดูดหัวนมเป็นเวลานาน อาจทำให้หัวนมคุณแม่แตกหรือร้าว จนมีอาการเจ็บที่บริเวณหัวนมและอาจมีเลือดไหลออกมา ซึ่งมักเกิดจากการเอาลูกเข้าเต้าไม่ถูกวิธี ท่าให้นมไม่ถูกต้อง ทำให้เวลาดูดนมลูกจะอมได้ไม่ถึงลานนม เมื่อดูดแล้วไม่ได้น้ำนมจึงเคี้ยวหัวนมแม่ ส่งผลให้หัวนมแตก เกิดแผล และมีเลือดออก

  • ท่อน้ำนมอุดตัน

ภาวะท่อน้ำนมอุดตันซึ่งทำให้มีน้ำนมค้างอยู่ในเต้านม น้ำนมไหลไม่สะดวก ลูกดูดไม่ออก หรือดูดได้เพียง 20% จนคุณแม่แทบไม่สามารถให้นมลูกน้อยได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณแม่เจ็บเต้านม โดยอาจพบว่ามีก้อนแข็งบริเวณเต้านม กดแล้วเจ็บ หรือมีอาการบวมแดง ซึ่งบางกรณีหัวนมและลานหัวนมอาจมีลักษณะผิดรูปไป มีเส้นเลือดบริเวณเต้านมปูดขึ้น หรือมีจุดสีขาวที่หัวนมที่เรียกว่า White dot อาจเกิดจากลูกดูดนมไม่เกลี้ยงเต้าและคุณแม่ปล่อยให้น้ำนมค้างในเต้าเป็นเวลานาน รวมถึงการกินอาหารไขมันสูงด้วย

  • เต้านมอักเสบ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในเต้านม ซึ่งเริ่มจากการคัดตึงเต้านม คลำพบก้อนแข็งและตึง เมื่อกดจะเจ็บและปวดกระจายไปทั่วเต้านม เกิดภาวะเต้านมบวมแดง โดยคุณแม่จะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และอาจมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เนื่องจากคุณแม่ปล่อยให้มีน้ำนมเก่าค้างในเต้านม หรือจากเหตุอื่น ๆ จนเชื้อโรคเข้าสู่เต้านมและเกิดการอักเสบ/ติดเชื้อผ่านทางแผลบริเวณรอยแตกที่หัวนม

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าคุณแม่อาจใช้เครื่องปั๊มนมที่มีแรงในการดูดสูงมากเกินไป ใช้ระยะเวลาในการปั๊มนมนานเกินไป หรือการเลือกใช้กรวยที่ปั๊มนมผิดขนาดกับหัวนม จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หัวนมได้เช่นกันค่ะ

  • การศึกษาหนึ่งเกี่ยวกับการติดตามคุณแม่ 1,649 ราย พบว่า 9.6% มีอาการเจ็บหัวนมภายในสัปดาห์แรกหลังคลอด โดยสาเหตุสำคัญคือท่าให้นมที่ไม่ถูกวิธี และการดูดของลูกที่ไม่ถูกต้องถึง 72.3%

  • ข้อมูลเพิ่มเติมจากประเทศสเปน พบว่าหลังคลอด 2 วัน มีอัตราการเจ็บหัวนมสูงถึง 97% และพบความสัมพันธ์กับคุณภาพการดูดของลูกน้อย

ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดไหม

ถ้าคุณแม่รู้สึกเจ็บแค่เล็กน้อย และแผลยังไม่รุนแรง ยังสามารถให้นมต่อได้ พร้อมกับปรับท่าและดูแลหัวนมควบคู่กันค่ะ 

แนะนำท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง

จะเห็นว่าปัญหาให้นมลูก เจ็บหัวนม ของคุณแม่นั้น มักมีต้นสายปลายเหตุแรกเริ่มมาจากการที่ลูกเข้าเต้าไม่ถูกวิธี ไม่ถูกท่า ดังนั้น ขอแนะนำท่าให้นมที่ถูกต้องซึ่งจะทำให้การให้นมของคุณแม่มีประสิทธิภาพ 4 ท่า ดังนี้

4 ท่าให้นมลูกถูกวิธี

อุ้มนอนขวาง

Cradle Hold Position

ท่าประยุกต์ลูกนอนขวางบนตัก

Modified Cradle Hold Position

ท่าอุ้มฟุตบอล

Football Hold Position

ท่านอนตะแคง

Side Lying Position

  1. อุ้มนอนขวาง (Cradle Hold Position) เป็นท่าพื้นฐานและเป็นที่นิยมค่ะ โดยคุณแม่ควรเริ่มจากเลือกมุมที่นั่งสบาย กรณีนั่งเก้าอี้ควรมีพนักพิงรองรับแผ่นหลัง มีที่พักแขน จากนั้นนั่งตัวตรง อุ้มลูกนอนในแนวขวาง ตะแคงลูกน้อยเข้าหาเต้านม จัดหน้าอกของลูกและแม่ให้อยู่ชิดกัน ใช้มืออีกข้างพยุงเต้านม วางศีรษะลูกให้อยู่บนข้อพับแขน ปลายแขนประคองหลัง และเอามือช้อนก้นลูกไว้
  2. ท่าประยุกต์ลูกนอนขวางบนตัก (Modified Cradle Hold Position) เหมาะกับการให้ลูกอมหัวนม ควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะลูกได้ ท่านี้จะมีการเตรียมตัวและจัดท่าทางเหมือนกับท่าอุ้มนอนขวางเลยค่ะ แต่…จะมีการเปลี่ยนมือ โดยให้คุณแม่ใช้มือข้างเดียวกับเต้านมที่ลูกดูด ในการประคองเต้านม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งรองต้นคอและท้ายทอยลูก
  3. ท่าอุ้มฟุตบอล (Football Hold Position) เหมาะกับคุณแม่ผ่าคลอด รวมถึงคุณแม่ที่ให้นมลูกแฝด 2 คนพร้อมกัน โดยนั่งเก้าอี้ที่มีความสะดวกสบาย หาหมอนวางข้างตัว จากนั้นวางลูกนอนลงบนหมอน ใช้ฝ่ามือประคองหลังและบ่าของลูก ปลายแขนรองแผ่นหลัง สอดขาของลูกไว้ที่ใต้แขน ให้ลูกนอนโดยใบหู ไหล่ สะโพก อยู่แนวเส้นตรงเดียวกัน เหมือนการถือลูกฟุตบอล
  4. ท่านอนตะแคง (Side Lying Position) โดยนอนตะแคงในท่าที่คุณแม่รู้สึกสบาย งอเข่าเล็กน้อย ใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงพอประมาณ วางลูกลงบนฟูกหรือเบาะ หันหน้ามาทางเต้านม จากนั้นคุณแม่ใช้ศอกดันตัวเองขึ้นเล็กน้อย ประคองต้นคอลูกน้อยด้วยมืออีกข้างเพื่อให้นม พอลูกเริ่มดูดนมได้ดีจึงค่อย ๆ นอนราบลงไป

ทั้งนี้ คุณแม่สามารถเลือกและปรับท่าให้นมตามความเหมาะสม โดยเลือกท่าที่ตัวเองอยู่ในลักษณะสบายที่สุด จะช่วยทำให้ลูกได้รับน้ำนมได้ปริมาณที่เพียงพอค่ะ

 

เจ็บหัวนมแบบไหน ควรพบแพทย์

แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ให้นมลูก เจ็บหัวนม

จากสาเหตุของปัญหา ให้นมลูก เจ็บหัวนม ที่บอกไว้ข้างต้น แน่นอนว่าคุณแม่สามารถป้องกันไว้ก่อนได้ค่ะโดยเริ่มให้นมลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ให้นมลูกโดยเร็วที่สุดหลังคลอด จะช่วยให้ทารกดูดนมได้ถูกวิธีและลดความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถป้องกันรวมถึงแก้ไขจากสาเหตุของการเจ็บหัวนมขณะให้นมลูกได้ดังนี้ค่ะ

ป้องกันและดูแลหัวนมแตก 

  • เริ่มต้นให้ลูกดูดเต้าอย่างถูกวิธี โดยอุ้มลูกชิดตัวแนบกับท้อง ให้แก้ม จมูก และคางของลูกสัมผัสกับเต้านม โดยงานวิจัยระบุว่า การปรับ การเข้าเต้าให้เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการเจ็บได้ถึง ~65% ของกรณีทั่วไป
  • ในการเข้าเต้า ช่วงแรกไม่ควรเจ็บเกิน 2–3 วินาทีแรก หากเจ็บเกินควรค่อย ๆ ปลดหัวนมออกเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ใส่นิ้วเข้าไปแทนที่จากนั้นจึงดึงหัวนมออก แต่ควรไม่ดึงหัวนมออกทันทีขณะที่ลูกยังออกแรงดูดอยู่
  • ไม่ควรทำความสะอาดเต้านมและหัวนมมากจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือครีมทาที่หัวนม
  • บีบน้ำนม 2- 3 หยดทาบริเวณหัวนมทิ้งไว้ให้แห้งทุกครั้งหลังให้นมลูก เนื่องจากน้ำนมแม่มีสารที่ช่วยลดการอักเสบ และช่วยในการสมานแผลได้ดี ใช้เป็นเวลา 4–5 วันช่วยให้เจ็บน้อยลง
  • ระวังอย่าให้เต้านมคัด ถ้าเต้านมคัดให้คุณแม่บีบน้ำนมออกเล็กน้อยก่อน เมื่อเต้าเริ่มนิ่มขึ้นจึงค่อยให้ลูกเข้าเต้า
  • ให้ลูกดูดนมจากเต้าที่เจ็บน้อยก่อน หากเจ็บเท่ากันให้หาผ้าชุบน้ำอุ่น ๆ มาประคบและนวดเต้านมเบา ๆ ก่อน กรณีเจ็บมากจนทนไม่ไหวให้พักเต้าแล้วเปลี่ยนเป็นการบีบหรือปั๊มนมให้ลูกแทน เมื่อหายเจ็บค่อยกลับมาดูดนมจากเต้าเหมือนเดิม
  • ควรให้ลูกดูดนมในเวลาที่สั้นลง เหลือครั้งละประมาณ 10-15 นาที ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง
  • Nipple shield หรือแผ่นป้องกันหัวนม ใช้เฉพาะช่วงหัวนมถลอกมาก จนไม่สามารถให้ลูกดูดตรง ๆ ได้ การใช้แผ่นนี้จะช่วยให้แม่ยังสามารถให้นมลูกได้อยู่ โดยไม่ต้องหยุดให้นม เพราะหัวนมจะไม่สัมผัสโดยตรงกับเหงือกลูก ลดแรงเสียดสีและความเจ็บลงได้มากค่ะ

ปั๊มนมให้ลูก ระหว่างเจ็บหัวนม

ดูแลแก้ไขปัญหาท่อน้ำนมอุดตัน

  • ก่อนให้นมลูก ลองประคบเต้าด้วยผ้าอุ่นสักประมาณ 5-10 นาที เพื่อช่วยเปิดท่อน้ำนมอุดตัน
  • เลือกใส่เสื้อชั้นในที่พยุงเต้านม ไม่หลวมหรือรัดแน่นเกินไป
  • ให้ลูกดูดจากเต้าที่อุดตันก่อน และให้ลูกดูดนมบ่อยขึ้นวันละ 8-12 ครั้ง ข้างละประมาณ 15-20 นาที
  • จัดท่าให้ลูกน้อยดูดนมโดยให้คางของลูกชี้ไปบริเวณที่เป็นก้อน เพื่อให้ลิ้นของลูกช่วยรีดน้ำนมบริเวณที่เป็นก้อนได้ดีขึ้น
  • นวดเต้านมเบา ๆ ไปด้วยขณะลูกเข้าเต้า โดยไล่จากบริเวณที่อุดตันไปจนถึงหัวนม เพื่อช่วยดันส่วนที่เป็นก้อนให้นิ่มลง
  • หลังให้นมลูกควรประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและบวม

บรรเทาอาการเต้านมอักเสบ ป้องกันน้ำนมค้างเต้า

  • ลดปัญหาน้ำนมค้างเต้าโดยให้ลูกดูดนมนานขึ้นอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที และให้ดูดบ่อย ๆ วันละ 8-12 ครั้ง
  • แนะนำให้ลูกดูดจากเต้าที่มีปัญหาก่อน แรงดูดขณะหิวของลูกน้อยจะช่วยให้น้ำนมของคุณแม่ที่ค้างเต้าอยู่ระบายออกมาได้
  • ปั๊มนมป้อนลูกแทนการให้ดูดนมประมาณ 3-4 มื้อ จนคุณแม่รู้สึกดีขึ้นจึงกลับมาให้ลูกดูดนมจากเต้าคุณแม่อีกครั้ง

 

ให้นมลูก เจ็บหัวนม อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์

อาการหัวนมเจ็บ (Sore nipple) หรือหัวนมแตก (Cracked nipple) ของคุณแม่นั้น อาจจะยับยั้งการหลั่งของฮอร์โมน Oxytocin ทำให้น้ำนมแม่ไม่ไหลหรือไหลน้อยลงได้นะคะ ซึ่งไม่เพียงส่งผลให้เกิดน้ำนมคั่งค้างในเต้านม เต้านมคัด ท่อน้ำนมอุดตัน และทำให้เกิดเต้านมอักเสบเท่านั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดเป็นฝีได้ในที่สุดค่ะ

ซึ่งคุณแม่สามารถนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นที่เราแนะนำไปใช้ได้ แต่หากอาการยังไม่ทุเลาลงจนลุกลามกลายเป็นปัญหาการให้นมจนไม่สามารถให้ลูกกินนมแม่ต่อได้ หรือมีอาการเจ็บหัวนมอย่างรุนแรง หัวนมแตกจนมีเลือดไหล ควรหยุดให้นมข้างที่มีเลือดไหล และรีบไปปรึกษาแพทย์ ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการให้นมบุตร เช่น แพทย์ พยาบาล คลินิกนมแม่ คลินิกสุขภาพหญิง เพื่อรับคำปรึกษาและดูแลแก้ไขอย่างถูกวิธี หรือรักษาจนหาย เพื่อกลับมาให้นมลูกอีกครั้งได้เร็วที่สุด และสามารถให้นมลูกต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา : pt.mahidol.ac.th , www.samitivejhospitals.com , www.bumrungrad.com , www.sikarin.com , www.ekachaihospital.com , premierehomehealthcare.co.th

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คุณแม่อัพไซส์ เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม น้ำนมจะน้อยหรือเปล่า

ให้นมลูกกินหน่อไม้ได้ไหม ส่งผลอะไรต่อน้ำนมบ้าง ลูกกินนมได้หรือเปล่า

“นมแม่” สำหรับ ทารก 1 สัปดาห์ กินกี่ออนซ์

บทความจากพันธมิตร
เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง
เคล็ดไม่ลับ! ปั๊มนมเกลี้ยงเต้า เพิ่มสต็อกน้ำนมได้จริง ด้วยตารางปั๊มและวิธีปั๊มที่ถูกต้อง
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • หลังคลอด
  • /
  • ให้นมลูก เจ็บหัวนม ต้องหยุดไหม แก้ปัญหายังไงให้ดีต่อคุณแม่และลูกน้อย
แชร์ :
  • วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

    วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

  • เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    บทความจากพันธมิตร

    เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
    บทความจากพันธมิตร

    Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!

  • วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

    วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

  • เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    บทความจากพันธมิตร

    เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!
    บทความจากพันธมิตร

    Philips Avent เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า Premium Plus ตัวช่วยที่คุณแม่มือใหม่ต้องมี! ปั๊มดี ไม่เจ็บ ใช้ง่าย เสียงเงียบ!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว