หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนรู้สึกกังวล เมื่อลูกเริ่มมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ โดยเฉพาะกับเด็กผู้ชายที่มักจะมีพฤติกรรมแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจเผชิญกับปัญหา ลูกชายอยากใส่ชุดเดรส และไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไร วันนี้เราจะพามาดูสาเหตุของพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของเด็ก และวิธีรับมือเมื่อลูกชายอยากใส่ชุดเดรสกันค่ะ ไปดูกันว่าควรทำอย่างไรดี
ทำความเข้าใจเรื่องเพศกับลูกน้อย
โดยทั่วไปแล้ว ลูกจะเริ่มเข้าใจเพศสภาพและเพศทางใจได้ในช่วงอนุบาลหรือประมาณ 4-6 ขวบ ซึ่งในช่วงนี้เขาจะเริ่มรู้ตัวเองว่าเป็นผู้ชายต้องใส่กางเกง เป็นผู้หญิงใส่กระโปรง หรือเป็นผู้ชายต้องไว้ผมสั้น เป็นผู้หญิงต้องไว้ผมยาว เนื่องจากฮอร์โมนของเด็กทั้งสองเพศจะไม่เหมือนกัน ทำให้พฤติกรรมและการแสดงออกของเด็กไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเด็กเริ่มเข้าสู่วัยประถมก็จะเริ่มเข้าหาเพื่อนที่เป็นเพศเดียวกัน เช่น เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นหมากเก็บ หรือเล่นกระโดดยาง ในขณะที่เด็กผู้ชายจะชอบเล่นอะไรที่มีความรุนแรงมากกว่า
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจต้องสังเกตพฤติกรรมลูกในระยะยาว เพราะเด็กจะเริ่มเรียนรู้บทบาททางเพศเมื่อเขาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น และจะรู้ว่าตัวเองชอบเพศอะไร หากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ลูกมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน ควรทำเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ไม่ควรบังคับเขา เช่น การพาลูกไปหาจิตแพทย์ ควรสอบถามลูกก่อนว่าเขาชอบเพศอะไร และเปิดใจให้ลูกจะดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : พฤติกรรมทางเพศในเด็ก พฤติกรรมทางเพศของเด็กในแต่ละวัย และวิธีรับมือ
สาเหตุของพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศ
สาเหตุของพฤติกรรมการเบี่ยงเบนทางเพศของเด็กนั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม หรือปัจจัยทางสังคม และสิ่งแวดล้อม เรามาดูกันว่าสาเหตุของพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศเกิดจากอะไร
1. ปัจจัยทางชีวภาพ
ปัจจัยทางชีวภาพนั้น เป็นสิ่งที่ติดตัวเด็กมาตามธรรมชาติ เด็กบางคนอาจมีภาวะผิดปกติของระดับฮอร์โมนเพศ หรือมีพัฒนาการทางสมองที่ไม่ตรงกับเพศตัวเอง ทำให้เด็กจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศตั้งแต่ยังเล็ก เช่น เด็กผู้หญิงอาจมีลักษณะท่าทางเหมือนเด็กผู้ชาย ซึ่งอาจเกิดจากฮอร์โมนที่ได้รับตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของแม่
2. การอบรมเลี้ยงดู
การอบรมเลี้ยงดูก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดกับเด็ก หรือการให้ความรักแก่ลูก หากคุณพ่อคุณแม่มีความห่างเหินกับลูก ก็อาจทำให้มีโอกาสเบี่ยงเบนทางเพศได้มากกว่าเด็กคนอื่น เช่น กรณีของเด็กผู้ชายที่อยู่ห่างเหินกับแม่ จนในที่สุดก็มีพฤติกรรมที่ลอกเลียนมาจากแม่จนเหมือนกับผู้หญิงนั่นเอง
3. การเป็นแบบอย่างของพ่อแม่
อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน คือ การเป็นอย่างที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเด็กแรกเกิดจะต้องเรียนรู้บทบาททางเพศจากพ่อแม่ตัวเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กผู้หญิงจะเรียนรู้พฤติกรรมจากแม่ ส่วนเด็กผู้ชายมักจะเรียนรู้จากพ่อ อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่กล่าวว่า ลูกชายที่สนิทกับพ่อส่วนใหญ่จะโตมาโดยไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าลูกจะโตขึ้นมาแล้วเบี่ยงเบนหรือเปล่า
4. สภาพแวดล้อมการเลี้ยงดู
สาเหตุสุดท้ายที่ทำให้ลูกเบี่ยงเบนทางเพศ นั่นคือ สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดูเด็ก การที่เด็กผู้ชายเติบโตท่ามกลางพี่น้องหรือครอบครัวที่มีผู้หญิง ก็อาจทำให้ซึมซับพฤติกรรมจากพี่น้องที่อยู่ด้วยกัน เช่น กิริยาท่าทาง การพูดจา หรือกิจกรรมที่ชอบทำ เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจต้องพิจารณาสาเหตุว่านี้ว่ามีผลกับลูกหรือเปล่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกเป็นเพศที่สาม เบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่ สังเกตจากอะไร
ทำไมลูกชายถึงอยากใส่ชุดเดรส
การที่เด็กผู้ชายอยากใส่ชุดเดรส หรือชอบเล่นไม่ตรงกับเพศ ก็อาจเกิดความอยากรู้อยากเห็นของลูกได้ เพราะหลายครั้งที่เด็กหลายคนมักชอบทำกิจกรรมต่างเพศ เช่น เด็กผู้หญิงชอบเล่นรถ เล่นหุ่นยนต์ หรือเล่นกิจกรรมแบบเด็กผู้ชาย ในขณะที่เด็กผู้ชายบางคนก็อาจชอบเล่นตุ๊กตา หรือชอบเล่นขายของแบบเด็กผู้หญิง ซึ่งการที่ลูกมีพฤติกรรมเช่นนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าลูกจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรกังวลใจมากเกินไป และอาจสังเกตพฤติกรรมการเล่นหรือความชอบของลูกไปก่อน
ลูกชายอยากใส่ชุดเดรส ทำอย่างไร
หากลูกชายอย่างใส่ชุดเดรส คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เขาใส่ได้ค่ะ และลองอธิบายให้ลูกฟังว่าจริง ๆ แล้วชุดนี้ผู้ชายใส่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า พยายามพูดคุยให้เขาได้เข้าใจว่าสิ่งที่เขากำลังสวมใส่เป็นการแต่งกายของเพศตรงข้าม ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรจะไปห้ามลูกไม่ให้ใส่ เพราะเด็กจะเกิดความสงสัยและเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจอนุญาตให้ลูกใส่อยู่บ้านได้ หรือลองใส่ไปเที่ยวพักผ่อน ก็จะทำให้เด็กรู้สึกสบายใจ และได้ออกความเห็นเมื่อลองสวมใส่ชุดของเด็กผู้หญิง อย่างไรก็ตาม การที่ลูกใส่ชุดเดรสไม่สามารถบอกได้เลยว่าลูกจะเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจต้องสังเกตพฤติกรรมกันต่อไปนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : พ่อแม่เป็น LGBTQ แล้วลูกจะเป็นไหม? เลี้ยงลูกฉบับ LGBT
วิธีรับมือเมื่อปล่อยให้ลูกชายใส่ชุดเดรส
การที่ลูกอยากใส่ชุดเดรสนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรือเดือดร้อนเลย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถปล่อยให้เขาได้ลองใส่อย่างเต็มที่ เรามาดูวิธีรับมือหลังจากให้ลูกใส่ชุดเดรสกันค่ะ
- เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก : คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยหรือแนะนำเรื่องเพศที่ถูกต้องให้แก่ลูก โดยอาจอธิบายให้ลูกฟังว่าจริง ๆ แล้วชุดนี้เหมาะกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพื่อจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้บทบาททางเพศของตัวเองได้มากขึ้น
- ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน : สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือไม่เห็นว่าเป็นเรื่องเมื่อลูกลองใส่ชุดเดรส เพราะเมื่อลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่รู้สึกหัวเราะชอบใจ ก็จะทำให้เขาเกิดความเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองใส่อยู่ถูกต้องแล้ว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรรู้สึกยินดี และลองแนะนำเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้แก่ลูก
- เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองใส่เต็มที่ : การปล่อยให้ลูกได้ลองใส่เดรส ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้อย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกอยู่ห่าง ๆ และรู้สึกยินดีไปเขา แต่ถ้าเห็นว่าเขาเริ่มติดการใส่เดรสมาก ๆ ก็ความเบี่ยงเบนความสนใจของเขา และอธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้ลูกฟัง
- ปลูกฝังความคิดที่ดีให้แก่ลูก : แม้ว่าบางครอบครัวอาจจะขาดพ่อหรือแม่ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจ ไม่ทำให้ลูกรู้สึกเกลียดเพศใดเพศหรือเกิดความสับสนทางเพศ
ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศรักษาได้ไหม
จริง ๆ แล้วการที่ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเขาไปพบจิตแพทย์เด็กหรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ เด็กบางคนสามารถปรับพฤติกรรมของตัวเองจนสามารถยอมรับเพศตัวเองได้ บางกรณีเด็กอาจเป็นผู้ชายที่เรียบร้อย ไม่ได้มีพฤติกรรมเหมือนเด็กผู้ชายคนอื่นที่ชอบความรุนแรง เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรยอมรับ และมีความสุขกับสิ่งที่ลูกเป็นค่ะ
การที่ ลูกชายอยากใส่ชุดเดรส เป็นสิ่งที่ไม่ผิด คุณพ่อคุณแม่สามารถปล่อยให้เขาได้ลองทำในสิ่งที่อยากรู้อยากเห็น ไม่ควรไปบังคับหรือฝืนใจ เพราะจะทำให้เด็กไม่มีความสุข และเกิดความเก็บกดได้ในใจ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือการเปิดใจยอมรับ และเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น ก็จะทำให้เขาเติบโตได้อย่างมีความสุขค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
หยุด Bully เพราะเรื่องที่เกิดเป็นปมในใจ ไม่ใช่เรื่องน่าขำ
แอบชอบ รักในวัยเรียน สอนลูกอย่างไรเมื่อมีรักในวัยเรียน?
วิธีแก้ลูกเอาแต่ใจตัวเอง เลี้ยงลูกยังไงให้พอดีในยุคโซเชียล ก่อนจะสายเกินแก้
ที่มา : phyathai, pptvhd36, paolohospital, trueplookpanya, meekerparenting
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!