อาหารไทยที่เราคุ้นเคย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องจิ้ม เสมือนเป็นอาหารหลักของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันมีการปรับสูตร ให้รับประทานง่ายๆ หลายแบบ เพื่อนให้ผู้ใหญ่กินได้ และเด็กกินดี มาดูวิธีทำ น้ำพริกกะปิ แบบเผ็ดมาก เผ็ดน้อย แสนอร่อย ตามใจคนทำได้เลย
น้ำพริกกะปิ อาหารไทยโบราณ เด็ดที่เครื่องเคียง
น้ำพริกกะปิ อาหารไทยโบราณ มีเครื่องเคียงเพื่อลดความเผ็ด แต่ทราบหรือไม่ว่า คนไทยนั้นฉลาดในการรับประทานอาหาร โดยการจับเครื่องเคียงอย่างผักหลายชนิด ที่หารับประทานง่าย มากินคู่กับน้ำพริกเพื่อเติมโภชนาการให้ครบถ้วน เช่น
- ปลาทูทอด
- ชะอมไข่ทอด
- ผักต้ม
- ผัดสด
- ผัดราดกะทิ
บทความที่เกี่ยวข้อง: พริกช่วยรักษาแผลได้จริงหรือ ? สรรพคุณของพริก ที่แม่ท้องควรรู้
9 สูตรเด็ด น้ำพริกกะปิ ทำง่ายๆ อร่อยด้วย
ก่อนอื่นต้องรู้จักเลือกกะปิ เพราะกะปิบางยี่ห้อหรือบางจังหวัดที่โด่งดังมักจะมีกรรมวิธีการทำกะปิแตกต่างกัน ซึ่งสามารถลองซื้อมาตำ มาชิมก่อนว่าจะเลือกกะปิมาจากแหล่งใด หากชอบกุ้งหรือเคยเยอะๆ แนะนำให้เลือกกะปิที่มาจากทางภาคใต้ หรือกะปิที่รสชาติดีสามารถทำอาหารได้หลากหลาย อาจจะชอบกะปิจากคลองโคลน …อย่าลืมว่า ก่อนทำน้ำกะปิทุกครั้ง ต้องห่อแผ่นฟรอยและเผาไฟก่อนทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่เหม็น จากนั้นเรามาดูน้ำพริกกะปิ 9 สูตรกันเลย (แต่ละสูตรจะมีปริมาณ 150 กรัม รับประทานได้ 2-3 คน)
1.น้ำพริกกะปิ สูตรโบราณ
ส่วนผสม
- กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย (กลีบเล็ก) 10 กลีบ
- หอมแดง 2 หัว
- พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด (เพิ่มได้ตามใจชอบ)
- มะนาว 3-4 ลูก
- น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
- มะเขือพวง 10 เม็ด
- มะอึกซอย 1 ลูก
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- โขลกกระเทียม หอมแดง พริกขี้หนูสวน
- ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ
- ใส่น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานแหลม) มะเขือพวงลงไปบุบพอแตก
- ใส่มะอึกซอย น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
- ตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้
2. น้ำพริกกะปิ สูตรมะม่วงจี๊ดจ๊าด
ส่วนผสม
- กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย (กลีบเล็ก) 10 กลีบ
- พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด (เพิ่มได้ตามใจชอบ)
- มะม่วงแก้วสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 2 ลูก
- น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียม
- ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ
- ใส่มะม่วงสับ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
- ตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูสวนบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้
3. น้ำพริกกะปิ กุ้งเสียบสูตรไม่เผ็ด
ส่วนผสม
- กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมจีน 5 กลีบ
- พริกแดงจินดา 10 เม็ด (เพิ่มได้ตามใจชอบ)
- มะนาว 3-4 ลูก
- น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งเสียบ 20 ตัว
วิธีทำ
- โขลกกระเทียม กับพริกแดงจินดา
- ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ
- ใส่น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานแหลม) น้ำมะนาว น้ำปลา
- น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
- ใส่กุ้งเสียบลงไปคลุกเคล้าและตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้
- ทอดไข่เจียวร้อนๆ กินกับน้ำพริกกะปิกุ้งเสียบ อร่อยมาก
4. น้ำพริกกะปิไข่เค็ม
ส่วนผสม
- กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมจีน 5 กลีบ
- พริกแดงจินดา 10 เม็ด
- มะนาว 3-4 ลูก
- น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่เค็ม 1 ฟอง (ใช้ทั้งฟองทั้งไข่แดงไข่ขาว หั่นเต๋า)
วิธีทำ
- โขลกกระเทียม กับพริกแดงจินดา
- ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ และใส่ไข่เค็มลงไปตำ (ไม่ต้องละเอียด)
- ใส่น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานแหลม) น้ำมะนาว น้ำปลา (ใส่ลงไป 1 ช้อนโต๊ะก่อน ค่อยเติมเพิ่มเพราะไข่มีความเค็มอยู่)
- น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
- ตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้ จะเปลี่ยนรับประทานกับปลาดุกฟูก็อร่อยมาก
5. น้ำพริกกะปิกุ้งสด ผักบุ้งกรอบ
ส่วนผสม
- กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
- กุ้งแชบ๊วย 100 กรัม
- หอมแดง 2 หัว
- กระเทียมจีน 5 กลีม
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
- มะนาว 2-3 ผล
- มะม่วงซอย 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- ผักบุ้งไทย 1 กำ
วิธีทำ
- ล้างกุ้งให้สะอาด แบ่ง 1 ส่วนนำกุ้งไปลวกแล้วหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆ พักไว้ เหลือกุ้งสดไม่หั่นไว้โรยหน้า (อย่าทิ้งน้ำลวกกุ้ง)
- ล้างผักบุ้งให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง แล้วชุบแป้งทอด พักไว้
- โขลกกระเทียม หองแดง กับพริกแดงจินดา จากนั้นใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลทราย
- ใส่กุ้งลวก เติมน้ำมะนาว น้ำปลา ใส่มะม่วงซอยลงไปคลุกเคล้า
- ค่อยๆ เติมน้ำลวกกุ้งแล้วชิมตามใจชอบ อย่าลืมโรยหน้าด้วยกุ้งลวกตัวโต
- ตักเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง อย่างผักบุ้งกรอบ เด็กสามารถรับประทานได้ โดยลดความเผ็ดหรือไม่ใส่พริกเลย
6. น้ำพริกกะปิใส่สละหอมๆ
ส่วนผสม
- กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ (20- 30 กรัม)
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- กุ้งแห้งตำ (หรือปั่น) 2 ช้อนโต๊ะ
- สละฝานเอาแต่เนื้อ 2-3 ช้อนโต๊ะ
- มะอึกซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- โขลกกระเทียม พริกขี้หนูสวน ให้เข้ากัน จากนั้นใส่กะปิ สละ และมะอึก บี้พอพยาบๆ
- ใส่กุ้งป่นลงไป ตามด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลา
- แม้จะมีน้ำจากผลสละอยู่แล้ว แต่หากดูว่าแห้งไป สามารถเติมน้ำต้มสุกได้
- ตักเสิร์ฟพร้อมผักสด เพิ่มความอร่อยด้วยปลาช่อนแดดเดียวทอด
7. น้ำพริกกะปิ ปูนาดอง
ส่วนผสม
- กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
- ปูนาดองน้ำปลา 2-3 ตัว แล้วแต่ไซส์
- หอมแดง 2 หัว
- กระเทียมจีน 5 กลีบ
- พริกแดงจินดา 10 เม็ด
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (อย่าใสเยอะ ปูมีรสเค็มอยู่แล้ว)
วิธีทำ
- โขลกกระเทียม พริกแดงจินดาให้แหลก
- ใส่กะปิ น้ำตาลทราย น้ำมะนาว
- แกะปูนาดองลงครก 2-3 ตัว คลุกเคล้า ชิมดูว่าเค็มพอไหม ถ้ายังก็ใส่น้ำปลาลงไป
- ใส่น้ำต้มสุกลงเล็กน้อย พอชอบแล้วชิมดูอีกที
- ตักเสิร์ฟพร้อมผักเคียง แนะนำขมิ้นขาว มะเขือม่วงลูกเล็ก ถั่วพู จะเข้ากับปูได้ดีมาก
8. น้ำพริกกะปิใส่กระท้อนฟู
ส่วนผสม
- กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ (10-20 กรัม)
- กระท้อน 1 ลูก
- กระเทียมจีน 5 กลีบ
- พริกแดงจินดา 10 เม็ด
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
- มะอึกซอย
- กุ้งฝอยสีขาวแห้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำกุ้งฝอยมาเลือกให้สะอาด ไม่ให้มีเศษกุ้งหรือกรวดที่ไม่พึงประสงค์ นำไปอบหรือคั่วในกระทะ 30 วินาที เพื่อฆ่าเชื้อ
- ปอกกระท้อน เอาแต่เนื้อ แล้วซอยเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- โขลกพริกแดงจินดา กับกระเทียมให้ละเอียดพอประมาณ จากนั้นใส่กะปิลงไป 1 ช้อน
- ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา กระท้อนซอยลงไป ชิมก่อนค่อยใส่มะนาวตามชอบ (เพราะกระท้อนเปรี้ยวอยู่แล้ว)
- จากนั้นใส่มะอึกซอย และกุ้งฝอยลงไป หากดูว่าแห้งไป ก็สามารถเติมน้ำต้มสุกได้
- ตักเสิร์ฟ รับประทานกับ ปลาดุก ปลาช่อนเผา และผักตามชอบ แนะนำผักกาดขาว ผักกาดหอม และแตงกวา
บทความที่เกี่ยวข้อง: มะรุมสุดยอดอาหารบำรุงน้ำนมแม่ กินแล้วแม่น้ำนมพุ่งปรี๊ด ลูกน้อยแข็งแรง
9. กะปิหลน น้ำพริกกะปิเด็กกินได้ เรียกน้ำนมแม่
ส่วนผสม
- กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
- หมูสับ 100 กรัม
- ตะไคร้ซอย 1 ต้นใหญ่
- หอมแดงซอย ½ ถ้วย
- กระชายซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงจินดา 5 เม็ด (ถ้าเด็กกินด้วย ไม่ต้องใส่ก็ได้)
- พริกชี้ฟ้า เขียว แดง เหลือง 3 เม็ด
- ใบมะกรูด 2 ใบใหญ่
- กะทิ 100 กรัม (ใช้กะทิกล่องได้ค่ะ)
- น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2-3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำเครื่องทั้งหมด พริกขี้หนู ตะไคร้ กระชาย โขลกเข้าด้วยกันก่อน แล้วค่อยใส่กะปิตามลงไป เพราะถ้าใส่รวมทั้งหมด กะปิจะทำให้ตำยาก (ใช้เครื่องปั่นได้ค่ะ)
- ตั้งกระทำ ใส่กะทิลงไป ผัดเครื่องที่ตำไว้ให้หอม แตกมัน
- จากนั้นใส่หมูสับลงไป (สามารถรวนหมูสับให้สุกพอประมาณก่อนได้ค่ะ)
- พอหมูสับสุกดี ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล (อย่าใส่ไปทีเดียว) ชิมดูก่อน หากชอบรสไหน ให้เติมรสนั้น
- ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ใส่พริกชี้ฟ้า 3 สี (หั่นแว่น) รอเดือดอีกครั้งแล้วปิดไฟ
- ตักเสิร์ฟรับประทานกับ ขมิ้นขาว (ผักเรียกน้ำนม) ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว หรือผักตามชอบ แนมด้วยปลาแดดเดียวทอดจะอร่อยมาก
น้ำพริกกะปิ สูตรโบราณคือ วิธีทำพื้นฐานที่คุณแม่ทำให้เรารับประทานประจำ ส่วนใหญ่จะมีเครื่องเคียงหลัก เช่น ชะอมทอดไข่ ปลาทูทอด มะเขือยาวชุบไข่ทอด และผักสดต่างๆ สามารถเพิ่มผักต้มอย่าง แครอท กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ถั่วพู และหน่อไม้ต้ม หากไม่กลัวอ้วน ก็สามารถเคี่ยวกะทิสดราดลงไปเพื่อความมัน ลดความเผ็ดของน้ำพริกได้ สำหรับสูตรอื่นๆ คือการปรับสูตรที่ให้เราสามารถสนุกกับการรับประทาน เพิ่มเนื้อสัตว์และผักให้หลากหลาย ซึ่งปัจจุบันน้ำพริกกะปิไข่เค็มจะได้รับความนิยมเช่นกัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
6 วิตามิน สารพัดประโยชน์ สารอาหารดี ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
กินเผ็ดมีผลต่อลูกในท้องไหม คนท้องกินเผ็ดได้ไหม และอันตรายกับลูกหรือเปล่า?
15 เมนูกาแฟเย็น สูตรกาแฟโบราณ ชงอร่อย ทำกินเองได้ที่บ้าน
ที่มา: gourmetandcuisine