น้ำลูกพรุนสำหรับทารก มีประโยชน์มากมายสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีปัญหาในเรื่องของระบบขับถ่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย มาลองดูกันดีกว่าน้ำลูกพรุนนั้นสามารถช่วยให้ทารกสามารถขับถ่ายได้ได้จริงหรือไม่ ควรดื่มในปริมาณเท่าไหร่ และตอนอายุเท่าไหร่
สาเหตุของอาการท้องผูกในทารก
อาการท้องผูกนั้นพบบ่อยมากจนกลายเป็นเรื่องที่ปกติ และนอกจากทารกแล้ว เด็กในช่วงวัยของเด็กเล็กก็มักจะประสบปัญหาท้องผูกเช่นกัน โดยมีสาเหตุหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่หลากหลาย ในช่วงของการเปลี่ยนจากการดื่มนมแม่เป็นการเริ่มทานอาหารประเภทอื่นนอกจากนั้น เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รับประทานอาหารชนิดอื่น ซึ่งความหลากหลายของอาหารนั้นสามารถสร้างความเครียดให้กับทารกได้ด้วยความเคยชิน และอาจส่งผลทำให้ท้องผูกได้
- ภาวะขาดน้ำ การขาดน้ำของทารกอาจทำให้พวกเขาท้องผูกได้ เนื่องจากระบบย่อยอาหารต้องการน้ำในปริมาณที่มากพอ เพื่อให้ลำไส้นั้นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น
- ไม่ได้ขยับร่างกาย การออกกำลังกาย หรือการขยับตัวไปมาของทารกนั้นมีส่วนช่วยทำให้กระบวนการของระบบย่อยอาหารนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากทารกนั้นไม่ได้มีการขยับร่างกายก็อาจส่งผลทำให้พวกเขาท้องผูกได้เช่นกัน
บทความที่น่าสนใจ : 7 สัญญาณ ทารกขาดน้ำ ลูกน้อยขาดน้ำสังเกตอย่างไรมาดูกัน
โดยคุณสามารถสังเกตอาการ และท่าทางของทารกได้หากคุณกำลังสงสัยว่าทารกของคุณนั้นกำลังตกอยู่ในภาวะท้องผูก โดยพวกเขาจะปรากฏอาการดังต่อไปนี้
- ทารกจะอุจจาระเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
- อุจจาระแข็ง และเป็นเม็ดเล็ก ๆ เหมือนอึแพะ รวมถึงส่งกลิ่นเหม็นกว่าปกติ
- ทารกจะเบื่ออาหาร ไม่อยากทานอาหาร หรือทานได้แต่น้อย
- บริเวณหน้าท้องของพวกเขาจะพอง และแข็งขึ้นเหมือนกับลูกบอลเป่าลม
- มีอาการคลื่นไส้ และอาเจียน
นอกจากอาการเหล่านี้ที่บ่งชี้อาการท้องผูกในทารกได้แล้ว ยังมีอาการอื่นร่วมด้วย แต่เป็นในกรณีที่ลูกของคุณอยู่ในขั้นท้องผูกแบบรุนแรง ซึ่งหากพบอาการดังต่อไปนี้ ให้รีบพาไปพบแพทย์ในทันที
- อุจจาระเป็นเลือด
- อุจจาระขนาดใหญ่
- อุจจาระแข็ง และเป็นเม็ดเหมือนก้อนกรวด
- ปวดท้องรุนแรงขณะถ่ายอุจจาระ
บทความที่น่าสนใจ : อึ ทารก บอกอะไรได้บ้าง อึแบบไหนลูกแข็งแรง
น้ำลูกพรุน คืออะไร
น้ำลูกพรุน คือน้ำผลไม้ที่สกัดจากลูกพลัมแห้ง หรือที่เรามักเรียกว่า ลูกพรุน ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำตาลเชิงซ้อนจำนวนมากที่ร่างกายของเราไม่สามารถดูดซึมได้ โดยน้ำตาลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังลำไส้เล็กของเด็ก ๆ และดึงน้ำออกจากผนังลำไส้ และทำการรวมตัวกัน ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปยังลำไส้ใหญ่ ในกระบวนสุดท้ายที่ลำไส้ใหญ่ น้ำตาลและน้ำเหล่านี้จะช่วยทำให้อุจจาระที่แข็งตัว จนทำให้เด็ก ๆ ท้องผูกนั้นอ่อนตัวลง และช่วยทำให้เด็ก ๆ สามารถขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น โดยแพทย์ต่างพูดว่า น้ำลูกพรุนสำหรับทารก ไม่เพียงแต่จะเหมาะสมกับทารกเท่านั้น แต่ยังเหมาะสมกับเด็กที่กำลังอยู่ในวัยที่กำลังเติบโตอีกด้วย
ประโยชน์ของน้ำลูกพรุนสำหรับทารก
นอกจากในน้ำลูกพรุนจะมีน้ำตาลเชิงซ้อนแล้ว ยังประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ อาทิ ธาตุเหล็ก แมงกานีส และโพแทสเซียม รวมถึงยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและคาร์โบไฮเดรต และวิตามินมากมาย อย่างวิตามินบี 6 ไนอาซิน ไรโบฟลาวิน วิตามินเค และวิตามินซี โดยทำให้ลูกพรุนนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายทารก และเด็กวัยกำลังเติบโตดังต่อไปนี้
- ยาระบายธรรมชาติ อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าสารประกอบที่อยู่ภายในลูกพรุนนั้นสามารถช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของทารกนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเกิดท้องผูกในทารกได้
- ต้านมะเร็ง เนื่องจากในลูกพรุนนั้นประกอบไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินหลากหลายชนิด รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดตากอนุมูลอิสระตั้งแต่ยังเด็ก และทำให้ร่างกายสามารถต่อป้องกันเซลล์มะเร็งเมื่ออายุมากขึ้นได้
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด น้ำลูกพรุนสามารถช่วยชะลอการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ใยเด็กได้ เนื่องจากน้ำตาลเชิงซ้อนในลูกพรุนจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดนั้นอยู่ในระดับที่สูงจนเกินไป ช่วยให้ทารก และเด็กเล็กควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตั้งแต่ยังอายุไม่มาก
บทความที่น่าสนใจ : อาหารที่ควรเลี่ยง กับเด็กที่เป็นเบาหวานประเภท 1 และ 2
- หัวใจแข็งแรง โพแทสเซียมที่มีอยู่ในลูกพรุนมีระดับสูงมากพอที่จะช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้คงที่ได้ ซึ่งส่งผลทำให้มั่นใจได้ว่าหัวใจของเด็ก ๆ นั้นจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดในช่วงวัยของการเจริญเติบโตนี้
- การป้องกันโรคโลหิตจาง ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของทารก โดยน้ำลูกพรุนนั้นมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งสามารถช่วยในการป้องกันโรคโลหิตจางได้ หากทารกนั้นขาดธาตุเหล็กจะนำไปสู่การหยุดการเจริญเติบโต รวมถึงจะมีอาการกระสับกระส่าย อ่อนเพลีย และเหนื่อยง่ายด้วย
- ควบคุมคอเลสเตอรอล กรดคลอโรจีนันในน้ำลูกพรุนสามารถช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ โดยจะไปช่วยในการดูดซึมไขมันจากอาหารที่ทารกได้ทานเข้าไป และลดระดับไขมันที่มีความหนาแน่นต่ำ หรือไขมันไม่ดี (LDL) ในร่างกาย
- ผมเงางาม วิตามินและแร่ธาตุในน้ำลูกพรุนจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายของทารกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยในการบำรุงรากผมให้แข็งแรง ทำให้ผมของทารกนั้นเงางาม และสุขภาพดี
- กล้ามเนื้อแข็งแรง โบรอนที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งในลูกพรุนนั้นมีส่วนช่วยในการซ่อมแซม บำรุง และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และกระดูกของเด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
- กำจัดสารพิษในร่างกาย ลูกพรุนมีเส้นใยที่สูง ซึ่งหากทานเข้าไปแล้วนอกจากจะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายแล้ว การดูดซึมน้ำออกจากผิวหนังลำไส้เล็กยังช่วยขจัดสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายในให้ออกมาพร้อมกันได้อีกด้วย
ทารกเริ่มดื่มน้ำลูกพรุนได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
ถึงแม้ว่าในต่างประเทศจะนิยมให้น้ำลูกพรุนแก่ทารกที่มีอาการท้องผูก แต่สำหรับประเทศไทยเราไม่ค่อยพบเท่าไหร่ แต่การให้น้ำลูกพรุนแก่ทารกนั้นจะต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสม และถึงวัยที่จะให้ได้ โดยการดื่มน้ำลูกพรุนสำหรับทารกนั้นสามารถดื่มได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป หรือถ้าจะให้ปลอดภัยมากที่สุดคือ 1 ปี ที่เป็นเช่นนั้นเพราะซอร์บิทอลที่อยู่ในลูกพรุนนั้นออกฤทธิ์เหมือนกับยาระบาย ซึ่งหากทารกมีอายุที่น้อยจนเกินไปอาจเกิดการระคายเคืองได้
น้ำลูกพรุนสำหรับทารก ดื่มได้บ่อยแค่ไหน?
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำสำหรับการดื่มน้ำลูกพรุนสำหรับทารกไว้ว่าไม่ควรเกิน 1 ออนซ์ต่อวัน และเมื่อเขาโตขึ้น หรืออยู่ในวัยเตาะแตะพวกเขาไม่ควรดื่มเกิน 4-6 ออนซ์ต่อวัน ซึ่งพวกเขาสามารถทานติดต่อกันได้เป็นระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้นในกรณีที่ทารก หรือเด็ก ๆ นั้นมีอาการท้องผูกรุนแรง ทั้งนี้ถึงแม้ว่าลูกพรุนจะช่วยในการระบายแต่ก็ต้องระมัดระวังการผสมน้ำลูกพรุนร่วมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่นอาจส่งผลทำให้พวกเขาท้องเสียได้ เนื่องจากน้ำตาลเชิงซ้อนในลูกพรุนจะทำการดึงน้ำออกมา และน้ำผลไม้ชนิดอื่นก็เช่นกันจึงทำให้อุจจาระของทารกกลายเป็นน้ำ และเกิดอาการท้องเสียนั่นเอง
ถึงแม้ว่าน้ำลูกพรุนจะเป็นยาระบายแบบธรรมชาติ แต่คุณจะต้องระวังในเรื่องของปริมาณในการดื่มของเด็ก ๆ ให้ดี เพราะจากการที่เด็ก ๆ ท้องผูก ถ่ายไม่ออกจะกลายเป็นอาการท้องร่วง และทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารนั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และแย่ลงได้
บทความที่น่าสนใจ :
ผักผลไม้ทำให้เด็กท้องอืด จริงหรือไม่? มีอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง
เมนูเด็กวัยหย่านม เมนูผักวัยหย่านม เด็กกินผักอะไรได้บ้าง
ผักผลไม้ 5 สี กินแล้วดีอย่างไร? เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี ประโยชน์เพียบ!!
ที่มา : worldfitforkids, Webmd, Healthline, Parenting.firstcry