TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

พ่อแม่ 10 แบบที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข คุณเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?

บทความ 13 นาที
พ่อแม่ 10 แบบที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข คุณเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?

พ่อแม่ไม่ใช่เซฟโซน! ลูกไม่มีความสุข เพราะการเลี้ยงดูของพ่อแม่ 10 แบบที่พบบ่อย เช็กเลย! คุณเป็นแม่พ่อแม่แบบนี้หรือเปล่า?

การเป็นพ่อแม่นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย เป็นธรรมดาที่บางครั้งก็อาจมีวิธีการเลี้ยงดูที่ส่งผลต่อความสุขของลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ บทความนี้จะนำเสนอ 10 รูปแบบของพ่อแม่ที่พบบ่อย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของลูก พ่อแม่ที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข

สำรวจตัวเองด่วน! ลูกไม่มีความสุข เพราะพ่อแม่ 10 แบบนี้ ใช่คุณหรือเปล่า?

  1. พ่อแม่ที่ควบคุมหรือใช้อำนาจ

พ่อแม่แบบนี้ มักมีกฎระเบียบที่เข้มงวด คาดหวังให้ลูกเชื่อฟังโดยไม่ต้องตั้งคำถาม ตัดสินใจแทนลูกโดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นของลูก ลงโทษลูกอย่างรุนแรงเมื่อลูกทำผิด

ลักษณะของพ่อแม่ที่ควบคุมหรือใช้อำนาจกับลูก

  • ชอบสั่งการและกำหนดกฎเกณฑ์ มักมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดสำหรับลูกๆ และคาดหวังให้ลูกๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นหรือความต้องการของลูก เช่น กำหนดเวลาเข้านอน การแต่งกาย กิจกรรมต่างๆ ของลูกอย่างเคร่งครัด
  • ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็นหรือความรู้สึกของลูกๆ ตัดสินใจแทนลูกโดยไม่ปรึกษา เช่น ห้ามลูกทำกิจกรรมบางอย่าง ออกไปกับเพื่อน ไปเที่ยว
  • ขาดความไว้วางใจ มักไม่ไว้ใจลูกๆ ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด จำกัดอิสระของลูก เช่น ตรวจสอบโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ติดตามความเคลื่อนไหวของลูก
  • ใช้อารมณ์ เช่น การตะโกน ด่าทอ ข่มขู่ ลงโทษลูก เพื่อควบคุมพฤติกรรมของลูก
  • มักเปรียบเทียบ เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกด้อยค่า
  • คาดหวังสูง กดดันให้ลูกเรียนเก่ง กดดันให้ลูกประสบความสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบควบคุมจะรู้สึกขาดความมั่นใจ กลัวการแสดงออก มีปัญหาในการตัดสินใจ และมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อแม่

  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกอาจรู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม ลูกไม่มีความสุข กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ ลูกอาจมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีปัญหาทางพัฒนาการ ลูกอาจมีปัญหาการเรียนรู้ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา หรือทักษะทางสังคม
  • ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง ลูกอาจติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ รับฟังความคิดเห็น ความรู้สึกของลูก พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล
  • ตั้งกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม กำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวัย และอธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • ให้ความไว้วางใจ ไว้ใจลูก ให้ลูกมีอิสระ รับผิดชอบต่อตัวเอง
  • ใช้วิธีการเชิงบวก กระตุ้น ชมเชย ให้รางวัล แทนการลงโทษ
  • เลี้ยงลูกด้วยความรัก แสดงความรัก ความอบอุ่น ให้ลูกรู้สึกปลอดภัย
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดู หรือจิตแพทย์ หากมีปัญหาในการเลี้ยงลูก

 

  1. พ่อแม่ที่ตามใจ

พ่อแม่ที่อนุญาตให้ลูกทำทุกอย่างที่ต้องการ ไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูก ไม่เคยตั้งกฎระเบียบหรือคาดหวังอะไรจากลูก ไม่เคยลงโทษลูกเมื่อลูกทำผิด

ลักษณะของพ่อแม่ที่ตามใจลูก

  • ไม่ค่อยตั้งกฎเกณฑ์ มักไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับลูก ปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
  • ไม่ค่อยลงโทษ แม้ว่าลูกจะทำผิด ไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูก ไม่ยอมให้ใครมาว่าลูก แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
  • ตามใจลูก ซื้อของขวัญให้ลูกบ่อยๆ โดยไม่ต้องมีเหตุผล ให้เงินลูกเยอะๆ โดยไม่ต้องทำงานอะไร
  • ปกป้องลูก ทำทุกอย่างแทนลูก เช่น แต่งตัว อาบน้ำ กินข้าว แก้ปัญหาให้ลูก โดยไม่สอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
  • ขาดความรับผิดชอบ ไม่ดูแลเอาใจใส่ลูก ปล่อยให้ลูกดูแลตัวเอง

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบตามใจจะขาดการควบคุมตนเอง ไร้ความรับผิดชอบ ไม่สามารถอดทนรอคอยอะไรได้ มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสังคม

  • ลูกเอาแต่ใจ ไม่รู้จักพอ ไม่เคารพผู้อื่น
  • ลูกไม่มีวินัย ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่
  • ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
  • ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวัย และอธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • ลงโทษอย่างเหมาะสม เมื่อลูกทำผิด
  • สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ และสิ่งของของตัวเอง
  • ส่งเสริมให้ลูกมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้จักตัดสินใจด้วยตัวเอง
  • ใช้เวลากับลูก ใช้เวลากับลูก พูดคุย เล่นกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

ลูกไม่มีความสุข

  1. พ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย

พ่อแม่แบบนี้มักไม่ค่อยใส่ใจลูก ไม่ค่อยใช้เวลากับลูก ไม่ค่อยมีการพูดคุยหรือเล่นกับลูก ไม่ค่อยรับรู้ถึงความต้องการของลูก

ลักษณะของพ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย

  • ไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ มักไม่สนใจว่าลูกทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร มักทิ้งลูกไว้ตามลำพัง โดยไม่มีใครดูแล
  • ไม่ตอบสนองความต้องการของลูก ทั้งความต้องการทางร่างกาย และความต้องการทางจิตใจ เช่น ไม่ให้อาหารลูก ปล่อยให้ลูกหิว
  • ไม่ค่อยสอนลูก ไม่สอนให้ลูกเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ส่งลูกไปโรงเรียน ปล่อยให้ลูกไม่ได้เรียนหนังสือ
  • ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ไม่เล่นกับลูก ไม่พูดคุยกับลูก ไม่พาลูกไปพบแพทย์ เมื่อลูกป่วย
  • ไม่ค่อยควบคุมดูแล ปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ เช่น ไม่ให้เสื้อผ้าลูกใส่ ปล่อยให้ลูกเปลือย หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย จะรู้สึกเหงา รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกไร้ค่า ลูกไม่มีความสุข และมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยง

  • ลูกขาดการพัฒนา ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคม
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกมีปัญหาทางกฎหมาย เช่น ถูกจับกุม หรือกระทำผิดกฎหมาย

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ให้ความรู้แก่พ่อแม่ เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ความสำคัญของการดูแลเอาใจใส่ลูก และผลกระทบของการปล่อยปละละเลย
  • ให้การสนับสนุนแก่ครอบครัว ที่ประสบปัญหาในการเลี้ยงดูลูก เช่น บริการเลี้ยงเด็ก เงินช่วยเหลือ หรือคำปรึกษา
  • ดำเนินการตามกฎหมาย ในกรณีที่พบว่ามีการปล่อยปละละเลยเด็ก จนส่งผลเสียต่อเด็ก

 

  1. พ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น

พ่อแม่แบบนี้มักเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง เพื่อน หรือเด็กคนอื่นๆ มักชี้ให้เห็นจุดด้อยของลูกอยู่เสมอ ไม่เคยชมเชยหรือให้กำลังใจลูก คาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่น

ลักษณะของพ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น

  • มักพูดเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง เพื่อน หรือเด็กคนอื่นๆ เช่น พูดว่า “ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนพี่”
  • มักยกตัวอย่างเด็กเก่ง เด็กดี มาเปรียบเทียบกับลูก เช่น พูดว่า “เพื่อนหนูได้ที่หนึ่งแล้ว หนูได้แค่นี้เองเหรอ”
  • มักเน้นย้ำจุดด้อยของลูก เช่น พูดว่า “หนูดูสิ เด็กคนนั้นเขาตั้งใจเรียนแค่ไหน หนูไม่ตั้งใจเลย”
  • มักคาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนผู้อื่น เช่น พูดว่า “ถ้าหนูเก่งเหมือนลูกเพื่อนแม่ แม่จะดีใจมาก”
  • มักไม่ชื่นชมความพยายามของลูก เช่น พูดว่า “หนูทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง”

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกพ่อแม่เปรียบเทียบมักรู้สึกด้อยค่า ขาดความมั่นใจ มีปัญหาในการยอมรับตัวเอง มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อแม่

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • เลิกเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น หันมาจดจ่อกับพัฒนาการของลูก ชื่นชมความพยายามของลูก
  • พูดคุยให้กำลังใจลูก บอกลูกว่ารักลูก ยอมรับในตัวลูก
  • เน้นย้ำจุดเด่นของลูก ชื่นชมความสามารถของลูก
  • ตั้งความคาดหวังที่เหมาะสม ไม่กดดันลูกมากเกินไป
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

 

  1. พ่อแม่ที่กดดันลูก

พ่อแม่แบบนี้มีคาดหวังจากลูกสูง มุ่งมั่นให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต กดดันให้ลูกเรียนเก่ง ทำกิจกรรมต่างๆ หรือประพฤติตัวดี ไม่พอใจเมื่อลูกไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

ลักษณะของพ่อแม่ที่กดดันลูก

  • คาดหวังสูง ต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ เช่น บังคับให้ลูกเรียนพิเศษ เรียนหนัก ติวเข้ม
  • ไม่พอใจกับผลงานของลูก มักตำหนิ ติเตียน หรือลงโทษลูก เช่น ตรวจสอบการบ้านของลูก ติเตียน แก้ไข งานของลูก
  • เน้นย้ำจุดด้อยของลูก ไม่ค่อยชื่นชมความพยายามของลูก เช่น เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น พูดว่าทำไมไม่เก่งเหมือนคนอื่น
  • ควบคุมชีวิตลูก ตัดสินใจแทนลูก ไม่ให้ลูกมีอิสระ เช่น กำหนดเป้าหมายให้ลูก คาดหวังให้ลูกต้องได้คะแนนดี สอบเข้าโรงเรียนดัง
  • ใช้อารมณ์ ตะโกน ด่าทอ ข่มขู่ ลูก ไม่ให้ลูกเล่น บอกว่าเสียเวลา ต้องเรียนหนังสือ

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกพ่อแม่กดดันจะรู้สึกเครียด รู้สึกกดดัน ลูกไม่มีความสุข มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาในการตัดสินใจ

  • ลูกมีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ
  • ลูกมีปัญหาทางสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ
  • ลูกมีปัญหาทางพฤติกรรม เช่น เกเร หนีเรียน ติดสารเสพติด
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกฆ่าตัวตาย ในกรณีร้ายแรง ลูกอาจฆ่าตัวตาย

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ปรับเปลี่ยนความคิด ลดความคาดหวัง มองลูกในแง่ดี ยอมรับในตัวลูก
  • พูดคุยกับลูก รับฟังความรู้สึก ความคิดเห็น ของลูก
  • สนับสนุนลูก ชื่นชมความพยายาม ให้กำลังใจ ลูก
  • ให้ลูกมีอิสระ ตัดสินใจด้วยตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

 

  1. พ่อแม่ที่บ่นหรือตำหนิลูก

พ่อแม่แบบนี้มักบ่นหรือตำหนิลูกอยู่เสมอ มองเห็นแต่ข้อเสียของลูก ไม่เคยชมเชยหรือให้กำลังใจลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ

ลักษณะของพ่อแม่ที่บ่นหรือตำหนิลูก

  • มักพูดบ่น ตำหนิ ติเตียน ลูกอยู่เสมอ เช่น พูดว่า “ทำไมไม่ทำการบ้านให้เสร็จ”
  • มักมองข้ามจุดดีของลูก เน้นย้ำแต่จุดด้อย เช่น พูดว่า “ทำไมได้คะแนนแค่นี้”
  • มักเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น เช่น พูดว่า “ทำไมไม่เก่งเหมือนเพื่อน”
  • มักไม่ค่อยชื่นชมความพยายามของลูก เช่น พูดว่า “ไม่เคยทำอะไรให้ดีสักอย่าง”
  • มักใช้อารมณ์ ตะโกน ด่าทอ ลูก เช่น พูดว่า “ดูสิเพื่อนเขาทำได้ ทำไมหนูทำไม่ได้”

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกต่อแม่บ่นหรือตำหนิเป็นประจำ จะรู้สึกด้อยค่า ขาดความมั่นใจ มีปัญหาในการยอมรับตัวเอง มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร พูดคุยกับลูกด้วยความใจเย็น ใช้วาจาสุภาพ อธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • พูดเน้นจุดดีของลูก ชื่นชมความพยายาม ให้กำลังใจ ลูก
  • เลิกเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น ทุกคนมีความแตกต่างกัน
  • รับฟังความรู้สึกของลูก  เข้าใจปัญหาของลูก
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

พ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก

  1. พ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก

พ่อแม่แบบนี้มักทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ใช้คำพูดที่รุนแรงต่อกัน ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย

ลักษณะของพ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก

  • มักทะเลาะกันบ่อยครั้ง เสียงดัง เช่น ตะโกนใส่กัน
  • มักใช้คำพูดรุนแรง ด่าทอ หรือประชดประชันกัน เช่น ด่าทอด้วยคำหยาบคาย
  • มักทำร้ายร่างกายกัน ต่อหน้าลูก เช่น ทำร้ายร่างกายกัน ขว้างปาสิ่งของใส่กัน
  • มักไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร เช่น พูดจาดูถูก เหยียดหยามกัน และมักไม่เคยขอโทษลูก หลังจากทะเลาะกัน

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่พ่อแม่ชอบทะเลาะกันต่อหน้าลูกมักรู้สึกเครียด รู้สึกกังวล มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาพฤติกรรม

  • ลูกมีความเครียด วิตกกังวล หวาดกลัว นอนไม่หลับ กินไม่ได้
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น โกรธ เกลียด ชัง รู้สึกไม่ปลอดภัย
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกมีปัญหาการเรียน ตั้งใจเรียนไม่ดี ผลการเรียนตก
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้อื่น เก็บตัว ไม่ไว้ใจใคร

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • พยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก
  • พูดคุยกันอย่างใจเย็น หาทางออกร่วมกัน โดยไม่ต้องให้ลูกได้ยิน
  • อธิบายให้ลูกเข้าใจ ว่าพ่อแม่ไม่ได้ทะเลาะกันเพราะลูก และลูกไม่ใช่สาเหตุของปัญหา
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
  • ขอโทษลูก บอกลูกว่ารักลูก และจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก

 

  1. พ่อแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก

พ่อแม่แบบนี้มักไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของลูก ไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของลูก มักมองข้ามความต้องการของลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ 

ลักษณะของพ่อแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก

  • มักละเลยความต้องการทางอารมณ์ของลูก ไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร ไม่รับฟังเมื่อลูกต้องการพูดคุย เช่น พูดว่า “อย่าร้องไห้ เป็นเด็กผู้ชายต้องอดทน”
  • มักมองข้ามสัญญาณทางอารมณ์ของลูก มองข้ามความเศร้า ความโกรธ หรือความวิตกกังวลของลูก เช่น พูดว่า “เรื่องแค่นี้ทำไมต้องคิดมาก” พูดว่า “หนูคิดมากไปเอง”
  • มักไม่แสดงความรักความอบอุ่นต่อลูก ไม่กอด ไม่หอม ไม่บอกรัก ลูก
  • มักพูดจาทำร้ายจิตใจลูก พูดจาดูถูก ตำหนิ ติเตียน ลูก บ่อยครั้ง เช่น พูดว่า “หนูไม่ดีพอ”
  • มักไม่ค่อยมีเวลากับลูก ไม่เล่นกับลูก ไม่พาลูกไปเที่ยว เช่น พูดว่า “ไม่มีเวลาให้หนูหรอก”

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่พ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญ จะรู้สึกเหงา สูญเสียความนับถือตนเอง เก็บกดความรู้สึก หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก รับฟังเมื่อลูกต้องการพูดคุย แสดงความเห็นอกเห็นใจ
  • สังเกตสัญญาณทางอารมณ์ของลูก ว่าลูกกำลังรู้สึกอย่างไร
  • แสดงความรักความอบอุ่นต่อลูก กอด หอม บอกรัก ลูก
  • พูดคุยกับลูกด้วยความใจเย็น ใช้วาจาสุภาพ อธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พาลูกไปเที่ยว

 

  1. พ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง

พ่อแม่แบบนี้มักพยายามให้ลูกมีงานอดิเรก ความสนใจ หรืออาชีพเหมือนตัวเอง ไม่สนับสนุนให้ลูกทำความฝันของตัวเอง กดดันให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้ลูกรู้สึกสูญเสียตัวตน

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

ลักษณะของพ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง

  • มักเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น โดยเฉพาะกับตัวเอง เช่น พูดว่า “ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนพี่”
  • มักกำหนดเป้าหมายให้ลูก ตามที่ตนเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความชอบ ความถนัด ของลูก เช่น พูดว่า “หนูต้องเรียนหมอ เหมือนพ่อ”
  • มักกดดันให้ลูกประสบความสำเร็จ ตามที่ตนเองคาดหวัง เช่น พูดว่า “หนูต้องได้คะแนนเต็ม เหมือนแม่”
  • มักไม่พอใจกับผลงานของลูก ติเตียน ตำหนิ ลูกอยู่เสมอ เช่น พูดว่า “ทำไมหนูทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง”
  • มักควบคุมชีวิตลูก ตัดสินใจแทนลูก ไม่ให้ลูกมีอิสระ เช่น พูดว่า “หนูต้องฟังพ่อ แม่ รู้ดีที่สุด”

ผลกระทบต่อลูก

รู้สึกสับสนในตัวเอง รู้สึกขาดอิสระ มีปัญหาในการตัดสินใจ มีปัญหาความสัมพันธ์กับพ่อแม่

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกสูญเสียตัวตน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ยอมรับในตัวลูก ว่าลูกเป็นคนที่มีความแตกต่าง มีจุดดี จุดด้อย
  • ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูก สนับสนุนให้ลูกทำสิ่งที่ลูกชอบ
  • ปล่อยให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผ่านประสบการณ์ของตัวเอง
  • ชื่นชมความพยายามของลูก ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
  • ใช้เวลากับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

พ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก

  1. พ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก

พ่อแม่แบบนี้มักใช้คำพูดที่รุนแรง ทำร้ายร่างกายลูก ข่มขู่หรือคุกคามลูก ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย

ลักษณะของพ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก

  • ใช้อารมณ์รุนแรง โมโหง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำร้ายร่างกายลูก ตี ตบ เตะ ต่อย กักขัง จำกัดอิสระ ลูก
  • ไม่มีความอดทน รอคอย หรือใจเย็น กับลูก ทำร้ายจิตใจลูก ด่าทอ ตะโกน ข่มขู่ ดูถูก ล่วงละเมิด
  • มองโลกในแง่ร้าย คิดลบ มองลูกในแง่ร้าย ละเลย ไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลลูก ทอดทิ้ง ไม่รับผิดชอบลูก
  • มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคติดสุรา
  • เคยถูกทำร้าย เคยถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรุนแรง จึงนำมาใช้กับลูก

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกพ่อแม่ใช้ความรุนแรง มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาพฤติกรรม มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น มีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่น

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกเรียนไม่ดี ขาดสมาธิ ตั้งใจเรียนไม่ดี
  • ลูกมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สายด่วน ศูนย์ช่วยเหลือเด็ก
  • เข้ารับการบำบัด แก้ไขปัญหาทางอารมณ์
  • เรียนรู้วิธีการเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้อง
  • เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เลิกใช้ความรุนแรงกับลูก
  • ใช้เวลากับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

อ่านแล้วคิดว่า คุณเป็นพ่อแม่แบบไหน หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าวิธีการเลี้ยงดูของคุณ ส่งผลให้ ลูกไม่มีความสุข สามารถขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูเด็ก เพราะการเป็นพ่อแม่นั้นเป็นบทบาทที่สำคัญ เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็มีความสุขและคุ้มค่า พยายามเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ และความใส่ใจ เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิต

ที่มา :

DWF. Channel

หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก

สารพันปัญหาการเลี้ยงลูก

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2730434

https://pantip.com/topic/38227153

https://pantip.com/topic/42336360

https://pantip.com/topic/39905254

https://www.starfishlabz.com/blog/149-พ่อแม่ทะเลาะกันส่งผลอย่างไรกับลูกบ้าง

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต

แนะนำ 10 หมอจิตวิทยาเด็ก หมอจิตแพทย์เด็กที่ไหนดี รวมมาให้แล้ว

เลี้ยงลูกแบบไม่ดุ ได้ผลดีกว่า ทำไมการเลี้ยงลูกแบบเข้าใจถึงเป็นทางที่ดีกว่า

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • การเลี้ยงลูก
  • /
  • พ่อแม่ 10 แบบที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข คุณเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?
แชร์ :
  • ใจหล่น! แม่เจอ รูปลับในมือถือของลูก ควรทำยังไง? วิธีคุยไม่ให้ลูกอับอาย

    ใจหล่น! แม่เจอ รูปลับในมือถือของลูก ควรทำยังไง? วิธีคุยไม่ให้ลูกอับอาย

  • เห็นภาพแล้วเก็ทเลย คาร์ซีทช่วยชีวิต! รถพังยับ แต่ลูกปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!

    เห็นภาพแล้วเก็ทเลย คาร์ซีทช่วยชีวิต! รถพังยับ แต่ลูกปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!

  • พ่อแม่ติดมือถือ ทำให้ ลูกพูดช้า สมาธิสั้น จริงไหม?

    พ่อแม่ติดมือถือ ทำให้ ลูกพูดช้า สมาธิสั้น จริงไหม?

  • ใจหล่น! แม่เจอ รูปลับในมือถือของลูก ควรทำยังไง? วิธีคุยไม่ให้ลูกอับอาย

    ใจหล่น! แม่เจอ รูปลับในมือถือของลูก ควรทำยังไง? วิธีคุยไม่ให้ลูกอับอาย

  • เห็นภาพแล้วเก็ทเลย คาร์ซีทช่วยชีวิต! รถพังยับ แต่ลูกปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!

    เห็นภาพแล้วเก็ทเลย คาร์ซีทช่วยชีวิต! รถพังยับ แต่ลูกปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!

  • พ่อแม่ติดมือถือ ทำให้ ลูกพูดช้า สมาธิสั้น จริงไหม?

    พ่อแม่ติดมือถือ ทำให้ ลูกพูดช้า สมาธิสั้น จริงไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว