สภาพอากาศร้อน ทำให้ผู้หญิงหลายคน ผมมัน แม้เพิ่งสระผม ผมมันเยิ้ม ไม่ใช่แค่ทำให้ไม่สบายหนังศีรษะแล้ว ยังทำให้ขาดความมั่นใจอีกด้วย สาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาผมมันคืออะไร ไปดูกันเลย !
ผมมัน เกิดจากอะไร ?
ผมมัน หนังศีรษะมันเกิดจาก หนังศีรษะของเรามีต่อมน้ำมันธรรมชาติ ที่เรียกว่า ซีบัม ที่ป้องกันไม่ให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น หรือศีรษะแห้ง แต่หากซีบัมผลิตน้ำมันมากเกินไป ก็จะยิ่งทำให้ศีรษะมัน จึงเป็นสาเหตุ ของการเกิดผมมันนั่นเอง แต่การที่ปล่อยให้หนังศีรษะมัน อาจส่งผลให้เกิดรังแค และเสี่ยงต่อการติดเชื้อราบนหนังศีรษะได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เคล็ดลับดูแลเส้นผม ทำยังไงให้ผมยาวเร็ว มีน้ำหนัก จัดทรงสวย
ปัญหาผมมัน
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดผมมัน มีอะไรบ้าง ?
หากใครที่ชอบสระผมบ่อย ๆ หรือสระผมมากกว่าวันละ 1 ครั้ง ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมมันได้ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเส้นผมมัน ใครที่มีผมมันถ้าสระผมมากกว่าวันละ 1 ครั้งก็จะยิ่งทำให้ผมมันเข้าไปอีก ดังนั้นควรสระผมเพียงวันละ 1 ครั้ง หรือสระทุกวันตอนเช้า เพื่อไม่ให้เส้นผมมีความมันระหว่างวัน
การใช้ความร้อนโดนเส้นผมบ่อย ๆ ก็จะทำให้เส้นผมมันได้เช่นกัน เนื่องจากความร้อนนั้นจะกระตุ้นให้หนังศีรษะเอาน้ำมันออกมา ทำให้ผมเกิดความมันง่ายขึ้น
การหวีผมบ่อย ๆ จะเป็นการกระตุ้นให้หนังศีรษะเอาน้ำมันออกมา ควรหวีเฉพาะเวลาที่จำเป็น ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป และควรทำความสะอาดหวีให้สะอาดอยู่เสมอ
ไม่หวีผมบ่อย
-
ทำความสะอาดปลอกหมอนให้สะอาดอยู่เสมอ
ควรเปลี่ยนและทำความสะอาดปลอกหมอนทุกสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพของเส้นผม และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ต่อหนังศีรษะ
ควรใช้แชมพูในปริมาณที่น้อย และทำความสะอาด บริเวณรากผมและหนังศีรษะ จากนั้นใช้ปลายนิ้วนวด และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ไม่ควรเทแชมพูลงบนปลายผมโดยตรง และไม่ควรใช้เล็บเกาอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคือง และทำให้ต่อมซีบัมผลิตน้ำมันออกมามาก
ทุกครั้งหลังทำความสะอาดผมเสร็จ ควรล้างให้สะอาด ไม่ให้มีแชมพู หรือครีมนวดหลงเหลือ เพราะถ้าล้างไม่สะอาดก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมันง่ายยิ่งขึ้น
-
ใช้ครีมนวดแล้วตามด้วยแชมพู
ถึงจะฟังดูแปลก แต่ถ้าหากหนังศีรษะของคุณลอกเป็นขุน ให้ลงครีมนวดก่อน เพื่อช่วยกำจัดสารซักฟอกในแชมพู และขณะเดียวกันจะช่วยให้เส้นผมของคุณสะอาดขึ้น
การเกาอย่างรุนแรง จะเป็นการกระตุ้นต่อมน้ำมันบนหนังศีรษะ ไม่ควรใช้เล็บเกาอย่างรุนแรง ควรค่อย ๆ นวดอย่างเบา ๆ
ความมันและสิ่งสกปรกที่อยู่บนมือ จะเป็นตัวกระตุ้นน้ำมันบนหนังศีรษะได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งไปแตะผมมาก น้ำมันก็ยิ่งออกมาบ่อย ทำให้เส้นผมมีความมัน เป็นก้อน ทางที่ดีระหว่างวันไม่ควรจับผมบ่อย ๆ นะสาว ๆ
-
ใส่เกลือ หรือมะนาว ลงในแชมพู
สามารถนำเกลือหรือมะนาว มาช่วยให้ผมสะอาด และลดความมันของเส้นผม โดยมะนาว และเกลือ จะช่วยให้เส้นผมสะอาด ไม่มัน แต่อย่าใส่เกลือและมะนาวมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เส้นผมแห้งได้
-
กินหวาน กินเนื้อแดง นมเนย
การกินอาหารพวกนี้ จะทำให้เส้นผมของเรามันง่ายกว่าเดิม เนื่องจากอาการเหล่านี้จะส่งผลกับ ฮอร์โมน androgens ที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้ซีบัมผลิตน้ำมันออกมาเยอะเกินไป เลี่ยงได้เลี่ยงนะสาว ๆ
หากคุณมีปัญหาหนังศีรษะมัน ทำอย่างไรก็ไม่หายสักที ลองทุกวิธีแล้วไม่ได้ผม ลองปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญโดยตรง จะทำให้ได้รับการรักษาที่ตรงจุด
เลือกแชมพู
แชมพูสำหรับผมมัน เลือกอย่างไร ?
เนื่องจากแชมพูของผู้ใหญ่ มีสารเคมีและกลิ่นสังเคราะห์ผสม แต่แชมพูเด็กนั้นสารเคมีน้อย แชมพูเด็กจึงช่วยลดอาการผมมัน และลดปัญหาผมร่วงได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : แชมพูเด็ก เบบี้แชมพูสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี อ่อนโยนต่อลูก
-
เลือกใช้แชมพูที่ปราศจากซิลิโคน ซันเฟต
แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคน และซันเฟต จะทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย และยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นต่อมไขมัน ควรเลือกแชมพูที่ไม่มีส่วนผสมสาร 2 ชนิดนี้ และนอกจากนี้ ไม่ควรใช้ครีมนวดผมมากเกินไป ควรใช้ในปริมาณที่พอ และนวดบริเวณปลายผม
-
เลือกแชมพูที่ช่วยลดความมัน
เนื่องจาก ส่วนผสมของแชมพูเหล่านี้ จะช่วยลดการกระตุ้นของต่อมน้ำมันบนหนังศีรษะ และมีส่วนช่วยให้ เส้นผมเบาสบาย สดชื่น และบำรุงเส้นผมอีกด้วย
-
เลือกจากส่วนผสมจากธรรมชาติ
หากใช้แชมพูที่มีสารเคมีเป็นระยะเวลานาน อาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม ที่ทำจากธรรมชาติ และมีตัวช่วยในการบำรุงเส้นผม โดยเฉพาะว่านหางจระเข้ ตัวช่วยที่จะขจัดความมันบนเส้นผมของคุณ
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :
แพ้ยาสระผม มีสาเหตุจากอะไร แล้วจะมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง
อาหารป้องกันผมหงอก อาหารช่วยลดผมขาว ทำยังไงให้ผมสวย ป้องกันผมหงอกดูแก่ก่อนวัย
ผมเส้นเล็ก ทำอย่างไร? ให้ดูดีขึ้นสิ่งที่หลายคนมักสงสัย และตั้งคำถามอยู่บ่อยๆ
ที่มา : webtretho , kapook
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!