น้ำนมแม่ คือ สุดยอดสารอาหารของลูกน้อย ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูก ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า นมแม่มีส่วนสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองของลูกโดยตรง และยังพบว่า ในน้ำนมแม่มี MFGM อยู่ในปริมาณมากอีกด้วย และเราจะมาไขความลับว่า เพราะอะไรเด็กที่ดื่มนมแม่ส่วนใหญ่จึงเป็นเด็กฉลาดและมีพัฒนาการดี? ไปพร้อมกัน
ความฉลาดสัมพันธ์กับ สารอาหารในนมแม่ จริงหรือ?
เพื่อค้นหาคำตอบ เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับ MFGM (Milk Fat Globule Membrane) สารอาหารในน้ำนมแม่ที่มีงานวิจัยหลายชิ้นกล่าวว่ามีความความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูกน้อย
MFGM คืออะไร?
![MFGM คือสารอาหารในนมแม่ มีส่วนประกอบของ สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟไลปิด และแกงกลิโอไซด์](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2019/07/MFGM-Component-Edit.jpg?width=700&quality=10)
MFGM (Milk Fat Globule Membrane) หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนม เป็นสารอาหารที่พบได้ในน้ำนมแม่ ทำหน้าที่ห่อหุ้มอนุภาคไขมันนมให้คงรูปอยู่ได้ ใน MFGM ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอิลีน ฟอสโฟไลปิด แกงกลิโอไซต์ เป็นต้น
มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า สารอาหารที่พบใน MFGM มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของลูก เพราะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) ช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์สมอง และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น หากลูกได้รับ MFGM อย่างเพียงพอ จะช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ ของลูกน้อยให้เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก
จากการค้นพบ MFGM ทำให้เรารู้ว่า สฟิงโกไมอีลินเป็นเพียงหนึ่งในส่วนประกอบของ MFGM ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเส้นใยประสาทให้เแข็งแรง และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณกระแสประสาทได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นสฟิงโกไมอีลินจึงมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสมองและเซลล์ประสาทให้ทำงานและตอบสนองได้ดีขึ้นควบคู่ไปกับสารอาหารอื่น ๆ ใน MFGM
นอกจาก MFGM จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกวัยทารก และช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายอีกด้วย
มีผู้เชี่ยวชาญกล่าวเกี่ยวกับ MFGM ไว้อีกจำนวนมาก อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เจฟฟรีย์ เคลกฮอร์น มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า มีผลวิจัยเกี่ยวกับ MFGM หลายชิ้น ระบุว่า MFGM คือ สิ่งที่มีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมอง โดยมีการศึกษาในเด็กก่อนวัยเรียน ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง – 6 ขวบ พบว่า เด็กที่ได้รับนมเสริม MFGM จะมีระยะเวลาในการป่วย หรือใช้ยาปฏิชีวนะน้อยกว่าเด็กที่ทานนมที่ไม่มีส่วนผสมของ MFGM ซึ่งผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ที่มีบทบาทโดยตรงต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาการสมองของลูกน้อย
ส่วน รศ.นพ.สรายุทธ สุภาพรรณชาติ หัวหน้าภาควิชากุมารแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้กล่าวไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 21593 ตีพิมพ์วันที่ 5 มีนาคม 2560 หน้า 14 ว่า สมองของเด็กพัฒนาสูงสุดในช่วงตั้งครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาทางสมอง MFGM ช่วยในกระบวนการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ยิ่งเซลล์สมองมีการเชื่อมต่อมากขึ้น และเร็วขึ้นเท่าไร การพัฒนาสมองของเด็กก็จะเพิ่มขึ้นมากตามลำดับ
ทางด้าน รศ.นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 21593 ตีพิมพ์วันที่ 5 มีนาคม 2560 หน้า 14 ว่า ในน้ำนมแม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบสูงที่สุด และสมองก็ประกอบไปด้วยไขมันถึง 60% ดังนั้นเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบในนมแม่อย่าง MFGM จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูก
ด้วยข้อมูลข้างต้นทำให้เราได้รู้ว่า ความฉลาดมีความสัมพันธ์กับสารอาหารในนมแม่อย่างไม่ต้องสงสัย
ความสัมพันธ์ระหว่าง MFGM กับ IQ, EQ ในช่วง 5 ปีแรก
ช่วง 1,000 วันแรกของลูก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูกน้อยอย่างมาก เพราะ 80% ของสมองเติบโตสูงสุดใน 2 ขวบปีแรก และ 90% เติบโตสูงสุดใน 5 ปีแรก เพราะเหตุนี้การดูแลให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนจึงมีความสำคัญอย่างมาก คุณแม่ควรให้ลูกดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน หลังจากนั้นควรให้นมแม่ต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปี
โดย รศ.นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ ยังได้กล่าวเสริมไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 21593 ตีพิมพ์วันที่ 5 มีนาคม 2560 หน้า 14 อีกว่า มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าเด็กที่ได้รับนมที่เสริม MFGM และ DHA จะมีการพัฒนาความฉลาดได้อย่างเต็มระบบ นอกเหนือจากด้านสติปัญญานั่น คือ ความฉลาดทางอารมณ์ บทบาทของโภชนาการช่วยส่งผลในการเชื่อมต่อเซลล์สมองมีประสิทธิภาพ เมื่อสมองทำงานได้ดี เด็กมีสมาธิจดจำประมวลข้อมูลต่าง ๆ ได้ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสู่การพัฒนาที่ดีในแง่ทัศนคติและพฤติกรรมของเด็กในอนาคต ซึ่งเราต้องยอมรับว่า ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เด็กที่ทั้งคิดเก่งและคิดดีมีความก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี โดยมีคุณพ่อคุณแม่สนับสนุนอย่างเหมาะสมทั้งด้านโภชนาการและการเลี้ยงดู รวมถึงการปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี จะช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จในชีวิตและก้าวไปไกลกว่าในโลกอนาคต
พันธุกรรมสำคัญ แต่แม่สามารถสนับสนุนให้ลูกมี IQ และ EQ ที่เหนือกว่า ด้วยสารอาหารในนมแม่
ถึงแม้ปัจจัยหนึ่งของความฉลาดจะขึ้นอยู่กับ “พันธุกรรม” แต่ยังมีทฤษฎี “กระบวนการเหนือพันธุกรรม” หรือ Epigenetic อธิบายว่า โภชนาการและสิ่งแวดล้อม มีผลต่อการแสดงออกของเด็กๆ ให้ต่างจากพ่อแม่ได้ ทั้งในด้านพัฒนาการและพฤติกรรม
![MFGM คือ สารอาหารในนมแม่](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2018/07/MFGM-01.jpg?width=700&quality=10)
คุณหมอพงษ์ศักดิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เด็กแรกเกิดจะมีเซลล์สมองกว่า 100,000 ล้านเซลล์ แต่จะค่อยๆ ลดลงหากขาดการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง หากเด็กๆ ได้รับนมแม่ ซึ่งเป็นโภชนาการที่ดีที่สุด ก็จะมีพัฒนาการที่ดีได้ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหาร ครบถ้วนทั้ง 3 กลุ่ม คือ
- สารอาหารหลัก (Macronutrients) ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ร่างกายต้องการในปริมาณมาก
- สารอาหารรอง (Micronutrients) ได้แก่ วิตามิน และเกลือแร่ ร่างกายต้องการน้อย แต่จำเป็นและขาดไม่ได้ เพราะช่วยให้กลไกการทำงานต่างๆ คงความสมดุล
- สารอาหารชีวภาพ (Bioactive Compounds) ได้แก่ MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ และนมวัว มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์สมองและการเชื่อมต่อประสาท ส่วนทอรีนมีความสำคัญต่อพัฒนาการของระบบประสาท ช่วยในการมองเห็น ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม เป็นตัวควบคุมน้ำในเซลล์สมอง และเชื่อว่าเป็นตัวนำกระแสประสาทในสมองอีกด้วย
อยากให้ลูกฉลาด เสริมประสิทธิภาพสมองด้วย MFGM
![สารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในนมแม่ เช่น MFGM, DHA และ ARA](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2019/07/MFGM-Brain-Connection.jpg?width=700&quality=10)
ในช่วงขวบปีแรก เด็ก ๆ ต้องการสารอาหารในนมแม่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้เติบโตสมวัย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภูมิคุ้มกัน หลังจาก 1 ขวบ ร่างกายจะต้องการสารอาหารมากขึ้น เด็ก ๆ จำเป็นต้องทานอาหารที่มีความหลากหลาย และเสริมด้วยนมที่มี MFGM เพราะในช่วง 1,000 วันแรก สมองของเด็ก ๆ จะมีการพัฒนามากที่สุด คุณแม่ควรดูแลโภชนาการของลูกน้อย ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมตามช่วงวัย เพื่อกระตุ้นให้สมองมีการพัฒนาตลอดเวลา
ดังนั้น หากอยากให้ลูกรัก เฉลียวฉลาด ก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์ สามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ลูกควรได้รับ MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ควบคู่ไปกับการหมั่นฝึกฝนสมองให้เกิดการคิดวิเคราะห์ เพื่อกระตุ้นให้เซลล์สมองเกิดการเชื่อมตลอดเวลา
เรียนรู้เพิ่มเติมว่า MFGM คืออะไร คลิกที่นี่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
MFGM คืออะไร มีส่วนช่วยในพัฒนาการเด็กได้อย่างไร
มัดรวมประโยชน์ของ “แลคโตเฟอร์ริน” สารอาหารยืนหนึ่ง เรื่องสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก
ผลวิจัยล่าสุด MFGM สุดยอดสารอาหาร เพื่อ IQ /EQ ที่เหนือกว่าของลูกน้อยในวัย 5 ขวบ
10 อาหารบำรุงสมองใน 1,000 วันแรก ให้ลูกกินอะไร แล้วลูกฉลาด พัฒนาการสมองไว
ที่มา : pubmed.ncbi, rama.mahidol
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!