งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่านมแม่มีส่วนสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองของลูก ทั้งยังมีการค้นพบด้วยว่า MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ และเด็กที่ทานนมแม่ส่วนใหญ่ฉลาดและมีพัฒนาการดีเพราะอะไร ? เรามาไขความลับข้อนี้ พร้อมกันค่ะ
ความฉลาดสัมพันธ์กับ สารอาหารในนมแม่ จริงหรือ ?

รศ.ดร.นพ. ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า นมแม่เป็นโภชนาการที่มีสารอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโตสำหรับลูกน้อยครบถ้วน ประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์กว่า 200 ชนิด เป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีน และ ไขมัน ที่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ล่าสุดได้มีการค้นพบMilk Fat Globule Membrane หรือ MFGM คือ เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบได้ในนมแม่ ผลิตจากต่อมน้ำนม ทำหน้าที่ห่อหุ้มอนุภาคไขมันนมให้คงรูปอยู่ได้
MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนชีวภาพกว่า 150 ชนิด อาทิ สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟไลปิด และ แกงกลิโอไซด์ ที่มีส่วนช่วยสร้างปลอกหุ้มเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) เพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-ส่งสัญญาณประสาท ช่วยในเรื่องการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ให้ลูกน้อยฉลาด แข็งแรง พร้อมเรียนรู้อย่างเต็มที่
ส่วน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ. เจฟฟรีย์ เคลกฮอร์น มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า มีผลวิจัยเกี่ยวกับ MFGM หลายชิ้น ระบุว่า MFGM คือ สิ่งที่มีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมอง โดยมีการศึกษาในเด็กก่อนวัยเรียน ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง – 6 ขวบ พบว่า เด็กที่ได้รับนมเสริม MFGM จะมีระยะเวลาในการป่วย หรือใช้ยาปฏิชีวนะน้อยกว่าเด็กที่ทานนมที่ไม่มีส่วนผสมของ MFGM ซึ่งผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ที่มีบทบาทโดยตรงต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาการสมองของลูกน้อย
ทางด้าน รศ.นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า กว่า 85% ของการพัฒนาสมอง เริ่มขึ้นช่วงตั้งครรภ์จนถึง 3 ขวบ โดยสมองจะมีการเชื่อมต่อเป็นโครงข่ายเส้นใยประสาทนับล้านๆ โครงข่าย เพื่อให้เกิดการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การได้รับสารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในนมแม่ อย่าง MFGM DHA และ ARA ซึ่งจำเป็นต่อโครงสร้างพื้นฐานของ สมอง จอประสาทตา และสำคัญมากในการเชื่อมต่อเซลล์สมองของเด็กตั้งแต่แรกเกิด ช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะต่างๆ อย่างรวดเร็วเมื่อเติบโตขึ้น
พันธุกรรมสำคัญ แต่แม่สามารถสนับสนุนให้ลูกก้าวล้ำได้ด้วย สารอาหารในนมแม่
ถึงแม้ปัจจัยหลักของความฉลาดจะขึ้นอยู่กับ “พันธุกรรม” แต่ยังมีทฤษฎี “กระบวนการเหนือพันธุกรรม” หรือ Epigenetic อธิบายว่า โภชนาการและสิ่งแวดล้อม มีผลต่อการแสดงออกของเด็กๆ ให้ต่างจากพ่อแม่ได้ ทั้งในด้านพัฒนาการและพฤติกรรม

คุณหมอพงษ์ศักดิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เด็กแรกเกิดจะมีเซลล์สมองกว่า 100,000 ล้านเซลล์ แต่จะค่อยๆ ลดลงหากขาดการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง หากเด็กๆ ได้รับนมแม่ ซึ่งเป็นโภชนาการที่ดีที่สุด ก็จะมีพัฒนาการที่ดีได้ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหาร ครบถ้วนทั้ง 3 กลุ่ม คือ
- สารอาหารหลัก (Macronutrients) ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ร่างกายต้องการในปริมาณมาก
- สารอาหารรอง (Micronutrients) ได้แก่ วิตามิน และเกลือแร่ ร่างกายต้องการน้อย แต่จำเป็นและขาดไม่ได้ เพราะช่วยให้กลไกการทำงานต่างๆ คงความสมดุล
- สารอาหารชีวภาพ (Bioactive Compounds) ได้แก่ MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ และนมวัว มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์สมองและการเชื่อมต่อประสาท ส่วนทอรีนมีความสำคัญต่อพัฒนาการของระบบประสาท ช่วยในการมองเห็น ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม เป็นตัวควบคุมน้ำในเซลล์สมอง และเชื่อว่าเป็นตัวนำกระแสประสาทในสมองอีกด้วย
อยากให้ลูกฉลาด เสริมประสิทธิภาพสมองด้วย MFGM

ในช่วงขวบปีแรก เด็กๆ ต้องการสารอาหารในนมแม่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้เติบโตสมวัย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภูมิคุ้มกัน แต่หลังจาก 1 ขวบขึ้นไปแล้ว ร่างกายจะต้องการสารอาหารมากขึ้น เด็กๆ จำเป็นต้องทานอาหารที่มีความหลากหลาย และเสริมด้วยนมที่มี DHA และ MFGM รวมทั้ง กรดไขมันจำเป็น อย่าง โอเมก้า 3 และในขณะนั้น สมองของเด็กๆ ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาสูงสุด (1 – 3 ขวบ) ด้วย นอกจากแม่ๆ จะเข้มงวดกับเรื่องของโภชนาการแล้ว ควรสนับสนุนให้เด็กๆ ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะกับช่วงวัย เพื่อกระตุ้นให้สมองมีการพัฒนาตลอดเวลา
ดังนั้น หากอยากให้ลูกรัก เฉลียวฉลาด ก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์ สามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ควรได้รับ MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ควบคู่ไปกับการหมั่นฝึกฝนสมองให้เกิดการคิดวิเคราะห์ เพื่อกระตุ้นให้เซลล์สมองเกิดการเชื่อมต่อตลอดเวลานั่นเอง
เรียนรู้เพิ่มเติมว่า MFGM คืออะไร คลิกที่นี่
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!