หน้าฝนนี้ เตรียมพร้อมรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ วัคซีนที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันคุณจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดถึง 4 สายพันธุ์ เสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกายของคุณและคนที่คุณรัก เผชิญหน้ากับหน้าฝนได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ อะไรบ้าง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่พบบ่อยที่สุดคือ วัคซีนสี่สายพันธุ์ (Quadrivalent Vaccine) ช่วยป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ 4 สายพันธุ์ โดยปกติจะเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ A 2 สายพันธุ์ และเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ B 2 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่รวมอยู่ในวัคซีนจะเปลี่ยนแปลงไปทุกปี ขึ้นอยู่กับเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดและคาดว่าจะพบมากที่สุด องค์การอนามัยโลก (WHO) จะเป็นผู้แนะนำสายพันธุ์ที่ควรใส่ในวัคซีนประจำปี และ4 สายพันธุ์ที่มักจะรวมอยู่ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีดังต่อไปนี้
- ไข้หวัดใหญ่ A (H1N1)
- ไข้หวัดใหญ่ A (H3N2)
- ไข้หวัดใหญ่ B (สายพันธุ์วิคตอเรีย)
- ไข้หวัดใหญ่ B (สายพันธุ์ยามากาตะ)
ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ หรือที่เรียกว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ มีข้อดีหลายประการเหนือวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ซึ่งเรามาคำตอบของเหตุผลที่ว่าทำไมการฉีดวัคซีน 4 สายพันธุ์จึงเป็นความคิดที่ดี
-
ป้องกันได้กว้างขวางกว่า
วัคซีน 4 สายพันธุ์ ป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ A สองสายพันธุ์และไวรัสไข้หวัดใหญ่ B สองสายพันธุ์ ในขณะที่วัคซีน 3 สายพันธุ์ ครอบคลุมเฉพาะไวรัส B เพียงสายพันธุ์เดียว ซึ่งหมายความว่า วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่อาจแพร่ระบาดในแต่ละฤดูกาลได้หลากหลายสายพันธุ์
-
ช่วยลดความรุนแรงของโรค
แม้ว่าคุณจะติดไข้หวัดใหญ่หลังจากได้รับวัคซีน 4 สายพันธุ์แล้วก็ตาม งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า คุณอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยและหายป่วยเร็วกว่าคนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
-
เป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มเสี่ยง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แนะนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์สำหรับทุกคนที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยเน้นให้ความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่สูง เช่น เด็กเล็ก สตรีตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
บทความที่น่าสนใจ: ไขข้อสงสัย ! เลือก ยาแก้หวัดเด็ก อย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย ?
ใครบ้างที่ควรฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
- เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือวางแผนตั้งครรภ์
- ผู้สูงอายุที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่ต้องใช้ยาแอสไพรินระยะยาว เนื่องจากยาแอสไพรินอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและลดความสามารถในการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดเลือดออกได้ง่าย ดังนั้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานประกอบการหรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานที่จัดงานรื่นเริง เป็นต้น
- บุคคลที่ทำงานด้านบริการ เช่น พนักงานขาย พนักงานแคชเชียร์ พนักงานบริการขนส่งสาธารณะ
- บุคคลที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง
ทำไมเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปีต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปีควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยเหตุผลหลายประการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่
ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กในช่วงอายุนั้นยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่และเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบ
2. ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในเด็กอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน การคายน้ำ (dehydration) และในบางกรณีอาจนำไปสู่การรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือแม้กระทั่งการเสียชีวิต
3. ลดการแพร่เชื้อ
เด็กมักจะมีการสัมผัสใกล้ชิดกับคนอื่นทั้งในบ้านและที่โรงเรียน การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไปยังเด็กคนอื่นและผู้ใหญ่รอบตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัว
4. ลดการขาดเรียนและการขาดงานของผู้ปกครอง
การป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ช่วยลดโอกาสที่เด็กจะต้องหยุดเรียน และลดภาระของผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กที่ป่วย ทำให้ไม่ต้องขาดงาน
5. ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีการทดสอบและวิจัยอย่างกว้างขวางเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก การฉีดวัคซีนเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
โดยทั่วไป วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ การได้รับวัคซีนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- ปวดบริเวณที่ฉีด: อาจรู้สึกปวด บวม แดง หรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีดวัคซีน
- อาการไข้: อาจมีไข้ต่ำๆ มักเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังการฉีด
- ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ: รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ มักหายเองได้ภายในเวลาไม่นาน
- อ่อนเพลีย: รู้สึกอ่อนเพลียหรือไม่มีแรง อาจเกิดขึ้น 1-2 วันหลังการฉีด
- ปวดหัว: อาจมีอาการปวดหัวเล็กน้อยถึงปานกลาง
ผลข้างเคียงที่ไม่พบบ่อยแต่รุนแรง
- ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis): แม้จะพบได้ยาก แต่บางรายอาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น ผื่นคัน หายใจลำบาก หรือลมพิษ ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเหล่านี้
- กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré syndrome, GBS): พบได้ยากมาก และยังไม่แน่ชัดว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุโดยตรง แต่ผู้ที่มีประวัติ GBS มาก่อนอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังการฉีด
บทความที่น่าสนใจ: อะดีโนไวรัส (Adenovirus) ทำลูกไข้สูง เป็นหวัด ตาแดง พ่อแม่ต้องระวัง!
สปสช. ชวนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี!
กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี! โดยวัคซีนครอบคลุมการป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ (an A/Victoria/2570/2019 (H1N1) pdm09-like virus, an A/Darwin/9/2021 (H3N2)-like virus; และ a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)-like virus.) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึง 31 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมดให้กับบุคคลกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ดังนี้
- เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 12 ปี
- ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้พิการ
- อ้วนมาก (BMI ≥ 35)
- โรคเลือดธาตุเหล็กพร่อง
โดยสามารถติดต่อไปยังโรงพยาบาลรัฐบาล คลินิกพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และสถานพยาบาลที่ร่วมโครงการกับ สปสช. พร้อมกับบัตรประชาชนหรือใบเกิด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: สายด่วน สปสช. 1330 ทั้งนี้สามารถจองฉีดวัคซีนล่วงหน้าผ่าน “แอปฯ เป๋าตัง” หรือ โทร.จองคิวผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 8 ได้ **ทั้งนี้หากผู้มีประสงค์ต้องการรับวัคซีนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ สามารถติดต่อกับโรงพยาบาลใกล้บ้านของท่านได้ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ อยู่ได้กี่ปี ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผลของวัคซีนจะมีระยะเวลาคุ้มครองประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ดังนั้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงจำเป็นต้องฉีดทุกปี เพื่อให้ได้รับการป้องกันจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในฤดูกาลนั้น ๆ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ราคา
ราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ได้รับบริการและประเภทของวัคซีนที่ใช้ โดยปกติแล้ว ราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจมีช่วงราคาอยู่ประมาณ 300-1,500 บาทต่อเข็ม
ที่มา: immunizebc.ca, ddc.moph.go.th, nhso.go.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ระบาดหนัก! ไวรัส hMPV ทำปอดอักเสบ คล้ายไข้หวัดใหญ่ เด็ก-ผู้สูงอายุต้องระวัง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่กับแม่ตั้งครรภ์ วัคซีนสำคัญกับเหตุผลที่ว่าทำไมจึงควรฉีด
อาการไข้หวัดใหญ่ อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ระวัง อาการเป็นอย่างไร