ซึมเศร้าหลังคลอด สัญญาณอันตรายที่ต้องรู้ จะรับมือยังไง? เมื่อเป็นแม่แล้วไม่แฮปปี้!

lead image

อาการเศร้าหลังคลอด ที่คุณแม่หลายคนต้องพบเจอ ไม่ใช่สิ่งที่จะละเลยได้ สังเกตสัญญาณ แล้วเตรียมพร้อมรับมือกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในมุมมองของสังคมทั่วไปนั้น การเป็น “แม่” น่าจะต้องมาพร้อมกับความสุขอย่างที่สุดในชีวิต แต่รู้ไหมคะว่าในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการเป็นแม่ ทั้งทางร่างกาย ฮอร์โมน และบทบาทหลังคลอดลูกน้อย อาจทำให้คุณแม่บางคนต้องเผชิญกับความรู้สึกที่ต่างออกไปจากคำว่า “ความสุข” อย่างสิ้นเชิง นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า “ซึมเศร้าหลังคลอด” ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และไม่ใช่ความผิดของใคร แต่เป็นสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลและเอาใจใส่อย่างถูกต้อง เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรู้  บทความนี้จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจสาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อค้นพบวิธีรับมืออย่างเหมาะสม

ซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร

ซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression) คือความรู้สึกที่คุณแม่รู้สึกว่าในการดูแลเด็กคนหนึ่งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างช่างท่วมท้น รับมือไม่ไหว จึงอาจเกิดอารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล นอนไม่หลับ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดตั้งแต่ 2-3 วันแรกและยาวไปจน 2 สัปดาห์ หากอาการไม่หายและรุนแรงมากขึ้น อาจมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดต่อเนื่อง หรือภาวะโรคจิตหลังคลอด ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่รุนแรงแต่พบได้น้อย

ทั้งนี้ โดยสถิติแล้ว ผู้หญิง 1 คน ใน 10 คนเลยค่ะที่จะทุกข์ทรมานจากอาการ ซึมเศร้าหลังคลอด หรือประมาณ 10-20% ของหญิงหลังคลอด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับสารเคมีในสมองที่ลดลง ส่วนใหญ่มีอาการในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอด และอาการรุนแรงสุดในช่วง 3 เดือนแรก โดยมีความเสี่ยงทำร้ายตัวเอง รวมถึงการฆ่าตัวตายด้วย ซึ่งเมื่อไม่กี่วันนี้เอง มีกรณีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวท่านหนึ่ง หลังคลอดลูกแฝดไม่นานนัก ได้กระโดดจากชั้น 18 ของโรงพยาบาลเสียชีวิต โดยจากการสันนิษฐานในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากความเครียด วิตกกังวล และอารมณ์เศร้าหลังการคลอด

อย่างไรก็ตาม ภาวะซึมเศร้าไม่ได้ส่งผลแง่ลบต่อคุณแม่เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อลูกน้อยที่เพิ่งเกิดมาด้วย ซึ่งภาวะแทรกซ้อนของอาการซึมเศร้าหลังคลอด อาจมีดังนี้

  • คุณแม่ที่ ซึมเศร้าหลังคลอด มีความคิดทำร้ายลูกตัวเองสูงถึง 41%
  • คุณแม่อาจไม่มีความรู้สึกผูกพันกับลูก อาจทำให้เกิดปัญหาครอบครัวในภายหลัง
  • คุณแม่บางคนอาจมีภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง หรือเป็นโรคซึมเศร้าได้ในอนาคต หากไม่ได้รับการรักษา
  • คุณพ่อบางคนมักมีแนวโน้มที่จะมีภาวะซึมเศร้า ไม่ว่าคุณแม่จะมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดหรือไม่ก็ตาม หากคุณแม่มีภาวะซึมเศร้า ความเสี่ยงที่คุณพ่อจะมีอาการซึมเศร้าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
  • ลูกน้อยวัยแรกเกิดที่อยู่ในความดูแลของคุณแม่ที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และไม่ได้รับการรักษา มักเป็นเด็กงอแงง่าย นอนหลับยาก กินยาก ร้องไห้ไม่หยุด และอาจมีปัญหาเรื่องพัฒนาการทางด้านภาษาด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สัญญาณอันตราย ซึมเศร้าหลังคลอด อาการที่แม่ต้องสังเกต

อารมณ์เศร้า รู้สึกเศร้า หดหู่ สิ้นหวัง ร้องไห้บ่อย หรือร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ
วิตกกังวล กังวลมากเกินไปเกี่ยวกับลูก หรือเรื่องต่างๆ
อ่อนไหว หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แม้จะได้พักผ่อนเพียงพอ
นอนไม่หลับ นอนหลับยาก หลับๆ ตื่นๆ หรือตื่นเร็วกว่าปกติ หรือบางคนนอนต่อเนื่องยาวนาน
เบื่ออาหาร กินได้น้อยลง หรือไม่มีความอยากอาหาร
ไม่มีสมาธิ จดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้ยาก หลงลืมง่าย
รู้สึกไร้ค่า รู้สึกผิด โทษตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ดีพอ
สูญเสียความสนใจ หมดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ
คิดทำร้ายตัวเองหรือลูก ในกรณีรุนแรง อาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายลูก

ทำไม? แม่จึงมีภาวะ ซึมเศร้าหลังคลอด

การดูแลลูกน้อยให้เติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดี เป็นเด็กที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ล้วนเป็นหน้าที่รับผิดชอบอันใหญ่หลวงของคุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องปรับตัวอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจของตัวเอง ตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด การต้องดูแลลูกที่ยังเป็นทารกอย่างใกล้ชิดจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คุณแม่หลังคลอดมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไปมากถึง 3 เท่า ซึ่งสาเหตุของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดนั้นยังไม่แน่ชัด แต่อาจเป็นไปได้ดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

หลังคลอด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน จะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อสารเคมีในสมอง และอารมณ์ อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด รวมทั้งระดับฮอร์โมนไทรอยด์ที่ลดลงจะทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเฉื่อยชา เศร้าซึม

  • ความเครียด

ความกังวลในการดูแลทารกแรกเกิด เมื่อพักผ่อนหรือนอนหลับไม่เพียงพอ จะทำให้ความสามารถในการทำกิจวัตรต่าง ๆ ที่อาจดูว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นลดลง ผู้ป่วยอาจรู้สึกไม่มีอำนาจควบคุมหรือไม่เห็นคุณค่าในตนเอง รวมไปถึงความเครียดเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว และปัญหาการเงินที่อาจเกิดขึ้นด้วย

  • การปรับตัว

คุณแม่ต้องปรับตัวกับบทบาทใหม่ การดูแลลูก การนอนน้อย ความรับผิดชอบที่มากขึ้น ทัศนคติ และความคาดหวังต่อการตั้งครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • สิ่งแวดล้อมและคนใกล้ชิด

เช่น สถานภาพการสมรส ความสัมพันธ์กับคนรัก เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือไม่ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมถึงฐานะทางการเงิน เป็นต้น

  • มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

  • มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด หรือโรคอารมณ์สองขั้ว
  • การตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อมหรือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
  • ผ่านเหตุการณ์ตึงเครียดในชีวิต เช่น ตกงาน ป่วย หรือมีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
  • ให้กำเนิดบุตรหลายคน เช่น แฝดสอง แฝดสาม
  • มีปัญหาเรื่องการให้นมลูกน้อย
  • มีปัญหาการเงินหรือปัญหาชีวิตคู่
  • ที่บ้านไม่มีใครที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้

ซึมเศร้าหลังคลอด รับมือยังไง? เมื่อเป็นแม่แล้วไม่แฮปปี้!

ยอมรับความรู้สึก ยอมรับว่าตัวเองกำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และไม่โทษตัวเอง
พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามหาเวลาพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ แม้จะเป็นเรื่องยาก
ดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบาๆ อาบน้ำอุ่น ผ่อนคลาย ทำกิจกรรมที่ชอบ
ขอความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เช่น สามี ครอบครัว เพื่อน
พูดคุย ระบายความรู้สึกกับคนใกล้ชิด หรือเข้าร่วมกลุ่มคุณแม่หลังคลอด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากอาการไม่ดีขึ้น หรือรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เมื่อไรควรพบแพทย์?

คุณแม่ที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดควรพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการข้างต้น หรือว่ามีอาการต่อไปนี้ โดยไม่ควรผัดผ่อนหรือเลื่อนนัดแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • มีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันหรือดูแลบุตร
  • คิดเรื่องการทำร้ายตัวเองและลูก
  • อาการไม่ดีขึ้นหลังผ่านไป 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ การรักษาภาวะซึมเศร้าหลังคลอด แพทย์อาจใช้วิธี “จิตบำบัด” ซึ่งการได้พูดคุยกับแพทย์หรือนักวิชาการสุขภาพจิต จะช่วยให้คุณแม่ได้ระบาย และผ่อนคลายความวิตกกังวล สามารถร่วมกันหาวิธีเพื่อรับมือกับสถานการณ์และอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม

เมื่อรู้ปัญหาและสาเหตุแล้ว เชื่อว่าคุณแม่จะสามารถป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยต้องอาศัยการวางแผน ความร่วมมือจากครอบครัว การดูแลซึ่งกันและกัน เพราะการเป็น “แม่” ไม่จำเป็นต้อง “แฮปปี้” ตลอดเวลา และการยอมรับความรู้สึก พร้อมขอความช่วยเหลือ คือจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพใจที่ดี เพื่อให้คุณแม่ ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และกลับมามีความสุขกับการเลี้ยงลูกน้อยได้อีกครั้งค่ะ

 

 

ที่มา : th.rajanukul.go.th , www.samitivejhospitals.com , www.medparkhospital.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรื่องควรรู้! เซ็กส์หลังคลอด ประจำเดือนไม่มา มีอะไรกับแฟน จะท้องไหม?

ฉีดยาคุมแล้วผิวคล้ำขึ้น จริงไหม ? 8 วิธีจัดการปัญหาผิว แม่หลังคลอด

ทารกมองเห็นตอนไหน จะรู้ได้ยังไงว่าลูกมองเห็น พัฒนาการสายตาแบบไหนผิดปกติ

บทความโดย

จันทนา ชัยมี