เทคนิคสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูก ตามช่วงอายุ
เทคนิคสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูก พ่อแม่สามารถเริ่มสอนลูก ฝึกระเบียบวินัยให้กับลูกได้ตั้งแต่เล็กๆ เพราะพื้นฐานการฝึกที่ดีย่อมส่งผลดีไปยังอนาคต หากพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นเด็กที่รู้จักเหตุผล สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่มีนิสัยที่ดื้อรั้น ไม่ฟังใคร ไม่ก้าวร้าวหรือชอบเถียง สิ่งเหล่านี้พ่อแม่สามารถสอนลูกได้ โดยมีวิธี ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. วิธีสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูก อายุ 6 – 12 เดือน
สำหรับทารกในวัยนี้ นอกจากกินกับนอนแล้ว พ่อแม่ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกน้อยได้เล่นตามวัยให้มากที่สุด และถ้าลูกน้อยของคุณในวัยประมาณ 10 เดือน อยู่ๆ ไม่ยอมกินนมขวด ปาขวดทิ้ง หรือไม่เอาขวดเลย นั่นแสดงว่าอาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะให้ลูกได้เริ่มดื่มนมจากแก้วค่ะ ซึ่งเป็นหนึ่งในพัฒนาการของทารกค่ะ
สำหรับการสร้างวินัยเชิงบวกให้กับทารกวัย 6 – 12 เดือน พ่อแม่อาจมองว่าลูกยังเด็กเกินไปหรือเปล่า วัยนี้จะรู้เรื่องอะไร แต่จริงๆ แล้วเด็กเริ่มเรียนรู้แล้วว่าพ่อแม่ไม่ได้ตามใจเขาเสมอไป ทำให้ลูกงอแงบ่อยๆ และเขาจะก็ได้เรียนรู้วิธีที่จะปลอบโยนหรือปลอบใจตัวเองตัวเองเมื่อถูกพ่อแม่ขัดใจหรือทำอะไรไม่ได้ดั่งใจด้วยค่ะ
ดังนั้น การเสริมสร้างวินัยเชิงบวกให้กับเด็กจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ได้แก่
- ใช้เวลาด้วยกันเงียบๆ
- ให้ลูกเล่นของเล่นที่มีความปลอดภัยสำหรับเด็กวัยนี้
- เบี่ยงเบนความสนใจลูก
- ทำให้ลูกไขว้เขว
2. วิธีสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูก อายุ 12 – 24 เดือน
เด็กวัยนี้ เป็นวัยที่เริ่มรู้เรื่อง เริ่มอยากรู้อยากเห็น ฉะนั้น คุณพ่อคุณเองจะต้องคอยดูแลและสอนลูกอย่างใกล้ชิด และใจเย็น
มาถึงวัยหัดเดิน ขยับขึ้นมาอีกขั้นจากวัยทารก เด็กช่วงวัยนี้จะเริ่มที่จะพยายามควบคุมตัวเอง พาตัวเองที่จะออกไปสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยขาของตัวเอง พ่อแม่จะเห็นว่าลูกจะเริ่มไม่ค่อยอยู่นิ่งเหมือนเมื่อก่อน ทั้งยังมีพัฒนาการทางความรู้สึกนึกคิดของตัวเองมากขึ้นด้วย ทำให้เด็กมักจะแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด โมโหร้าย และเรียกร้องความสนใจได้ง่าย บางคนอาจซน อยู่นิ่งไม่ได้จนทำให้พ่อแม่อารมณ์เสียได้บ่อยครั้ง แต่ทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมเพียงของเด็กเท่านั้นเองค่ะ
ด้วยความที่เด็กเป็นช่วงที่ขี้สงสัย อยากสำรวจ อยากทำอะไรเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่บางครั้งก็พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ปีนป่ายต้นไม้ ปีนเฟอร์นิเจอร์ สิ่งที่คุณแม่คุณพ่อทำได้คือ การจับตาดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด และอย่าปล่อยให้ลูกอยู่เพียงลำพังอย่างเด็ดขาด
การเสริมแรงทางบวกด้วยวิธีการลงโทษแบบไทม์เอ๊าท์ (time out) อาจจะยังไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้ เพราะอาจจะทำให้เด็กรู้สึกถึงความวิตกกังวลเวลาถูกแยก และกลัวการทอดทิ้งมากขึ้นค่ะ แต่แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีเหล่านี้แทน ได้แก่
- ทำบ้านให้มีความปลอดภัยกับเด็ก
- ให้ข้อเสนอที่เป็นตัวเลือกให้กับลูกเมื่อมีการลงโทษ
- เบี่ยงเบนความสนใจลูก
- ทำให้ลูกไขว้เขว
ให้ข้อเสนอเป็นตัวเลือกเมื่อต้องการทำโทษลูก
3. วิธีสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูก อายุ 24 – 36 เดือน
เด็กวัยนี้จะเดินได้คล่องแล้ว และกำลังเรียนรู้การควบคุมร่างกายตัวเองอย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ ทั้งยังเริ่มที่จะสร้างบุคลิกของตัวเองขึ้นมา ทำให้คุณปวดหัวหนักกว่าเดิมไปอีก เพราะว่าลูกน้อยจะเริ่มค้นพบตัวเอง รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร มีความต้องการอะไร และเริ่มที่จะเรียกร้องความต้องการที่มากขึ้น บ่อยครั้งที่เด็กจะระเบิดอารมณ์ ร้องกรีดออกมาเมื่ออยากได้ในสิ่งที่ต้องการ
สิ่งที่พ่อแม่สามารถทำได้คือ ต้องอดทน พยายามเอาใจใส่ลูก ให้ความรัก คอยระมัดระวังควบคุมดูแลอย่างรอบคอบ คอยกำหนดขอบเขตไม่ให้ลูกกรีดร้องไปมากกว่านี้ อาจมีการตอบสนองสิ่งที่ลูกคาดหวังบ้าง แต่อย่างไรก็ตามควรอธิบายเหตุผลของการกระทำที่พ่อแม่ต้องทำเพื่อลงโทษลูกค่ะ หรืออธิบายถึงอารมณ์ของลูกให้ลูกได้ฝึกควบคุมตนเอง เช่น “หนูคงกำลังโกรธ แม่เข้าใจเลยที่หนูรู้สึกโกรธ เรามาเป่าไล่ตัวโกรธกันก่อน หายใจลึกๆ ฮึบ แล้วเป่าออกดังฟู่” วิธีการนี้จะสอนให้เด็กรู้จักอารมณ์และวิธีจัดการอารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น พ่อแม่ไม่ควรจัดการอารมณ์ของลูกด้วยการออกคำสั่ง และไม่ควรใช้วิธีเดิมๆ ซึ่งเป็นวิธีเชิงลบว่า “แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำแบบนี้ อย่ามาโมโหนะ” เพราะจะยิ่งทำให้อารมณ์เด็กพลุ่งพล่าน เพราะสมองส่วนอารมณ์ถูกกระตุ้นค่ะ
พ่อแม่ให้ลูกได้มีกิจกรรมงานบ้านร่วมกัน เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างวินัยได้เช่นกัน
สำหรับวิธีการเสริมแรงวินัยเชิงบวกให้กับลูกน้อยที่ดีที่สุด ได้แก่
- ทำบ้านให้มีความปลอดภัยกับเด็ก
- ให้ข้อเสนอที่เป็นตัวเลือกให้กับลูกเมื่อมีการลงโทษ
- เบี่ยงเบนความสนใจลูก
- ทำให้ลูกไขว้เขว
- กำหนดขอบเขตให้กับลูก
- อธิบายเหตุและผลของการกระทำนั้นๆ
- ใช้วิธีการลงโทษแบบไทม์เอ๊าท์ (time out) สั้นๆ
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้รางวัลลูกบ้างเมื่อลูกสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดี อาจมีการโอบกอดพูดคุยลูก หรือ อธิบายเหตุผลต่างๆ ให้ลูกฟังค่ะ และคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจวิธีนี้ต้องใช้เวลา อาจจะไม่ได้ผลในทันทีเหมือนกับการดุด่าหรือตีลูกนะคะ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ และ คอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่น รวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงาน และ ดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจ และ พร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอด เพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง The Asianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่ และ เด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และ กิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
source หรือ บทความอ้างอิง : parents.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีเลี้ยงลูกแบบคนฟินแลนด์ พ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างไรให้เก่ง ฉลาด แบบไม่บังคับ
สอนลูก 3 ขวบ เรื่องสำคัญที่ต้องฝึกลูก 3 ขวบ ลูกวัยอนุบาล ควรเรียนรู้เรื่องอะไร
15 พฤติกรรมเสี่ยงออทิสติกเทียม เจ้าตัวเล็กบ้านไหน ดูทีวี เล่นเกม ต้องอ่าน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!