ลูกไม่กล้าแสดงออก ทำอย่างไรดีลูกขี้อาย มาเสริมสร้าง Self-Esteem ให้ลูกกัน
หลาย ๆ ครอบครัวคุณพ่อคุณแม่อาจจะประสบปัญหาในตอนที่ลูกขี้อาย ลูกไม่กล้าแสดงออก คุณพ่อคุณแม่อาจจะหนักใจ ทำอย่างไรดีให้ลูกกล้าพูดกล้าแสดงออก เพราะเด็กหลาย ๆ คน ความขี้อายก็ส่งผลกระทบกับพวกเขา ไม่ว่าจะการเรียนและความสัมพันธ์ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูก ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรเอาใจใส่และพยายามผลักดันให้ลูกใช้ศักษภาพในด้านให้อย่างดีที่สุด วันนี้ TheAsianparent Thailand ขอนำวิธีเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองมาแบ่งปันให้คุณพ่อคุณแม่กัน
ลูก ไม่กล้า แสดงออก
Self-Esteem หรือ ความเห็นคุณค่าในตัวเอง คือ ความคิดเห็นที่มีต่อตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต รวมถึงการรับมือกับอารมณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยผู้ที่มี Self-Esteem สูงนั้นจะมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ในทางกลับกัน การมี Self-Esteem ต่ำจะส่งผลให้รู้สึกแย่และมีมุมมองความคิดต่อตัวเองในแง่ลบ ซึ่งเป็นเหตุให้ขาดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ และรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเผชิญหน้ากับปัญหาหรือความท้าทายในชีวิต
ความภาคภูมิใจในตนเอง คือ ความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับตัวคุณ การเห็นคุณค่าในตนเองที่ดีจะช่วยให้เด็กลองสิ่งใหม่ ๆ กล้ารับความเสี่ยงและแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี มันเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเรียนรู้และการพัฒนาแก่ลูก ๆ ของคุณ
การนับถือตนเองหรือการเห็นคุณค่าในตัวเองนั้นเกี่ยวกับ การชอบตนเอง แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมั่นใจเกินไป แค่เชื่อในตัวเองและรู้ว่าคุณทำได้ดีแค่ไหนก็เพียงพอ สำหรับเด็กความนับถือตนเองมาจาก
ลูก ไม่ กล้า แสดงออก
- รู้ว่าพวกเขาเป็นที่รักและพวกเขาอยู่ในครอบครัวและชุมชนที่ให้ความสำคัญกับพวกเขา
- ใช้เวลาอย่างมีคุณค่าและมีประโยชน์ร่วมกับเด็ก ๆ
- ได้รับการสนับสนุนให้ลองสิ่งใหม่ ๆ ค้นหาสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีและให้คำยกย่องสำหรับสิ่งที่สำคัญต่อพวกเขา
ลูกไม่กล้าแสดงออก เกิดผลเสียอย่างไร
เด็กที่มีนิสัยขี้อาย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เงียบขรึม อ่อนแอ ไม่มีเพื่อน มักจะตกเป็นเป้าหมายของการถูกเพื่อนรังแก เช่น การทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด การพูดจาล้อเรียน การทำร้ายร่างกาย รีดไถเอง แย่งสิ่งของ กีดกันไม่ให้เข้าร่วมกลุ่ม และการกลั่นแกล้งกันผ่านสื่อออนไลน์
นายธวัชชัย พาชื่น ผู้จัดการโครงการไม่รังแกกัน มูลนิธิแพธทูเฮลท์ กล่าวว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนั้น เกิดได้ทั้งการพูดและการกระทำ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเด็ก และเด็กก็จะเกิดการซึมซับความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว และยังไม่ยอมบอกครูหรือพ่อแม่ด้วย แต่เลือกที่จะใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยตนเองกับเพื่อน หรือยอมให้เพื่อนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
ลูกไม่ กล้า แสดงออก
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ได้กล่าวไว้ว่า “ก่อนที่จะมีเซลฟ์เอสตีม เด็ก ๆ หรือคนทุกคนต้องมีเซลฟ์ (self) ก่อน ซึ่งหมายถึงการมีตัวตนในทางจิตวิทยาว่าเราเป็นใคร ทำอะไรอยู่ และการควบคุมตัวตนให้อยู่ในร่องรอยได้จะเกิดเซลฟ์เอสตีมดี คือความภูมิใจในความสามารถที่ตัวเองทำได้ ซึ่งการสร้างตัวตนของเด็กจะเกิดขึ้นตั้งแรกเกิดจนกระทั่งอายุ 3 ขวบ พอหลัง 3 ขวบลูกจะเริ่มสร้างตัวตนที่ชัดเจนพอสมควร และจะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งการได้มองเห็นหรือมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง” พ่อแม่จึงมีผลกับ self esteem ของลูกเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งสำคัญคือการที่พ่อแม่ต้องตระหนักถึง “ตัวตน” ของตัวเองด้วยว่า พ่อแม่คือคนที่ใกล้ชิดลูกมากและเป็นคนที่ลูกรักมากที่สุด สิ่งที่ลูกพยายามแสดงให้เห็นก็เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ ดังนั้นการเลี้ยงดูของพ่อแม่ในช่วง 3-4 ขวบปีแรกจึงมีอิทธิพลต่อการรับรู้ถึงความมีคุณค่าในตนเองของลูก
ประการต่อมาคือ ทัศนคติของพ่อแม่ที่มีต่อตัวลูก พ่อแม่ต้องมีความเชื่อว่าลูกสามารถทำได้ เป็นเด็กดีและน่ารัก ซึ่งจะทำให้เด็กยอมรับในตัวตนที่พ่อแม่สร้างความมั่นใจให้ หลาย ๆ สิ่งที่พ่อแม่คิดและเชื่อจะกลายเป็นสิ่งที่ลูกเชื่อด้วย คล้ายกับกระจกสะท้อน เช่น ถ้าพ่อแม่คอยบอกว่าลูกเป็นเด็กดื้อ ซน หรือเกียจคร้าน ลูกก็จะซึมซับในตัวตนตรงนั้น แม้จะเป็นการพูดแบบไม่มีเจตนา แต่เมื่อถูกตอกย้ำบ่อย ๆ ก็จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองเป็นอย่างที่พ่อแม่ว่า ดังนั้นคำพูดที่เกิดจากพ่อแม่จึงมีผลที่มาสะท้อนต่อลูกมาก
ลูกไม่ กล้าแสดง ออก
การเสริมสร้าง Self-Esteem ในเด็กวัยเรียนระดับประถมศึกษา
ที่โรงเรียนเด็ก ๆ อาจเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้น สิ่งนี้สามารถทำให้ Self-Esteem ของลูกตกลง พวกเขาอาจรู้สึกว่ามีความสามารถน้อยกว่าคนอื่นเป็นครั้งแรก กฎใหม่และการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อาจเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเด็กบางคน
นี่คือวิธีที่คุณสามารถช่วยได้
- มอบความรักและมอบกอดที่แสนพิเศษในตอนท้ายของวันที่โรงเรียน
- มุ่งเน้นจุดแข็งของลูกและความพยายามที่เธอทำไว้ ให้คุณชื่นชมลูกของคุณในสิ่งที่เธอทำได้ดีและให้เธอรู้ว่าคุณภูมิใจในตัวเธอสำหรับสิ่งที่เธอพยายามทำมากแค่ไหน
- สอนลูกของคุณเกี่ยวกับการเล่นที่ยุติธรรม เขาต้องการโอกาสที่จะชนะและแพ้
- ฝึกให้ลูกของคุณผ่านสถานการณ์ทางสังคมที่ยุ่งยาก ตัวอย่างเช่น “ลองส่งยิ้มใหญ่ ๆ เมื่อคุณต้องการเล่นกับคนอื่น ๆ และคนอื่นจะอยากเล่นกับคุณถ้าคุณดูมีความสุข” คุณสามารถลองเล่นบทบาทเหล่านี้กับลูกของคุณก่อน
- ให้ลูกของคุณมีโอกาสลองทำกิจกรรมใหม่และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
- ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโรงเรียนและบ้าน โดยการพูดคุยกับครูเพื่อดูว่าลูกของคุณเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ที่โรงเรียน นอกจากนี้ยังเป็นการดีที่จะมีส่วนร่วมในโรงเรียน ถ้าคุณทำได้และแสดงความสนใจในการเรียนและการบ้านของเด็ก ๆ
- ระวังสัญญาณของปัญหาการเรียนรู้ และการรังแก หรือปัญหาสังคมอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อ Self-Esteem ของเด็ก ๆ
ลูก ไม่ กล้าแสดง ออก
วิธีทำให้ลูกกล้าแสดงออก
1. ปล่อยให้ลูกทำในสิ่งที่ต้องการ
2. พยายามให้ลูกเล่นกับคนอื่น
3. อย่าบังคับลูกน้อย
4. ทำให้เด็กมั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถ
5. ส่งเสริมให้ลูกไปทำกิจกรรม
6. สร้างความมั่นใจให้ลูก
Source : raisingchildren , raisingchildren , thaipbs , theechocenter
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่? ของเล่นมีกระดิ่ง เสียงกรุ๊งกริ๊ง เสริมสร้างพัฒนาการกล้ามเนื้อให้ลูก
3 วิธีเด็ดเสริมสร้างภูมิต้านทานให้คุณแม่ท้อง รับมือสู้วิกฤติไวรัสอย่างมีสติ ตระหนักแต่ไม่ตระหนก
90 ประโยคที่ควรพูดกับลูก ประโยคให้กำลังใจ เสริมสร้างพัฒนาการทางบวก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!