ตาตุ่ม แทบจะเป็นส่วนที่หลายคนมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง ! ไม่ให้ความสนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ค่อยดูแลบำรุงเท่าที่ควร เพราะคิดว่าเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีใครเห็นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจ แต่ก็ยังเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่กำลังรู้สึกหนักใจกับปัญหาตาตุ่มด้าน ตาตุ่มดำอีกไม่น้อย และ อยากให้ตาตุ่มกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ! วันนี้ TAP จะมาแนะนำ วิธีแก้ตาตุ่มด้าน ตาตุ่มดำ ให้กลับมาเรียบเนียนน่ามองอีกครั้ง ที่สำคัญ คือทำได้ง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ยุ่งยากแน่นอน ! ถ้าอยากรู้ว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยเสกตาตุ่มที่พังให้กลับมาดูดีได้อีกครั้งตามไปดูพร้อมกันได้เลย !
สาเหตุที่ทำให้ตาตุ่มด้าน ตาตุ่มดำ เพราะ ?
1. นั่งพื้นในท่าเดิมเป็นเวลานาน
อย่างเช่น การนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ ในขณะที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่มีเบาะรองนั่งจึงทำให้เกิดแรงกดทับที่ตาตุ่มจนมีปัญหาตาตุ่มดำ ตาตุ่มด้านตามมาได้นั่นเอง
2. ใส่รองเท้ารัดจนเกินไป
กรณีหลัก ๆ ที่ทำให้ตาตุ่มดำด้าน ส่วนใหญ่มักมาจากการที่ใส่รองเท้ารัดจนเกินไป จึงทำให้บริเวณตาตุ่มถูกเสียดสีกับขอบรองเท้าจนเกิดปัญหาตาตุ่มดำด้านมีเนื้อแข็ง ๆ ไม่เรียบเนียน
3. วิ่ง หรือ เดินนาน ๆ ก็ทำให้ตาตุ่มด้านได้
การวิ่ง หรือ เดินนาน ๆ ก็สามารถทำให้มีปัญหาตาตุ่มด้านได้เช่นกัน เพราะการวิ่ง หรือ เดิน จะทำให้เกิดแรงเสียดสีระหว่างขอบรองเท้ากับบริเวณตาตุ่ม โดยเฉพาะคนที่ชอบวิ่ง หรือ เดินออกกำลังกายแต่ใส่ถุงเท้าไม่หุ้มข้อ หรือ ตาตุ่ม จะยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหาตาตุ่มดำด้านได้มากเป็นพิเศษ
4. ขาดการใส่ใจในการบำรุง
ตาตุ่มก็ต้องการได้รับการดูแลเหมือนส่วนอื่น ๆ ในร่างกายเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่คนมักจะละเลยการทาโลชั่น หรือ ทาแบบผ่าน ๆ ไม่ได้ใส่ใจ ขาดการสครับผิว จนเกิดการทับถมจนเป็นปัญหาต่าง ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 โลชั่นบำรุงผิวขาว ใส เรียบเนียน โลชั่นบำรุงผิวขาวสูตรเร่งด่วน ต้องไปตำกันแล้ว
TAP แนะนำ 5 วิธีแก้ตาตุ่มด้าน ตาตุ่มดำ ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
1. วิธีแก้ตาตุ่มด้าน แช่น้ำอุ่น
การแช่น้ำอุ่นจะช่วยทำให้ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออก และ เนื้อบริเวณตาตุ่มจะนุ่ม และ นิ่มลง ลดความแข็ง ด้านของผิวบริเวณตาตุ่มทำให้เซลล์ที่ตายแล้วค่อย ๆ หลุดออก โดยการแช่ในน้ำอุ่นที่สูงท่วมถึงตาตุ่มเป็นเวลาประมาณ 20 – 25 นาที อาจจะใส่เกลือ 1 ช้อนชา และ มะนาว 1 ลูก ผสมให้เข้ากันจะสามารถช่วยลดกลิ่นเท้า ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้ทำสปา
2. วิธีแก้ตาตุ่มด้าน ทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้น
วิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ และ ทุกคนควรที่จะทำ คือการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ทาครีมทุกส่วนในร่างกายอย่างเท่า ๆ กัน เพื่อให้ผิวทั่วทั้งร่างกายเรียบเนียน กระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังบริเวณตาตุ่ม หรือ อาจจะใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก เพื่อเผยผิวหนังใหม่ที่เรียบเนียนแข็งแรง
3. วิธีแก้ตาตุ่มด้าน เลือกใส่รองเท้าที่มีขนาดพอดี
อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้ตาตุ่มด้าน ตาตุ่มดำ เกิดจากรองเท้าคับ หรือ แน่นจนเกินไป ดังนั้นต้องเริ่มแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือเลือกใส่รองเท้าที่มีขนาดพอดีไม่แน่นจนเกินไป เพื่อลดแรงเสียดสีระหว่างขอบรองเท้ากับผิวหนังบริเวณตาตุ่ม
4. สครับ หรือ ขัดผิว
อย่างน้อยควรสครับผิว หรือ ขัดผิวอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก โดยเน้นขัด หรือ สครับ บริเวณตาตุ่มมากเป็นพิเศษ แต่ต้องทำอย่างเบามือ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้
Tips : ใช้สครับมะขาม หรือ หินสำหรับขัดผิว จะช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณตาตุ่มกลับมาเรียบเนียน หายดำด้าน ได้ดีขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการนั่งพื้นในท่าเดิมนาน ๆ
การนั่งพับเพียบ หรือ ขัดสมาธิ ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดแรงกดทับจนเกิดผิวหนังด้าน วิธีที่จะช่วยได้ คือการนั่งบนเก้าอี้ หรือ หาเบาะรองนั่งนุ่ม ๆ มารองนั่ง เพื่อลดแรงกดทับที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดปัญหาตาตุ่มดำ ตาตุ่มด้านนั่นเอง
ข้อควรระวังหากมีปัญหาตาตุ่มด้าน
- ไม่ควรตัด หรือ เล็ม ผิวหนังที่ด้านออกด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เกิดแผลจนเกิดการติดเชื้อได้
- ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ลอกผิวที่มีสารเคมี เพราะอาจจะทำให้ผิวหนังอักเสบจนเกิดอาการบาดเจ็บ
- ถ้าหากผิวหนังหนา และ ด้านจนเกินไป สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ
เอาล่ะ ! สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาตาตุ่มด้าน ตาตุ่มดำ ลองนำวิธีเหล่านี้ที่เราเอาฝากไปทำตามดูได้เลย รับรองว่าสาว ๆ จะกลับมามีตาตุ่มที่เนียน นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่ดำ และ หายด้านได้อย่างแน่นอน !
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แชร์เคล็ดลับ ! ขจัดปัญหา ข้อศอกด้าน ข้อศอกดำ ให้กลับมาเนียนนุ่ม
เคล็ดลับ ! หลังเนียน เผยหลังใส ไม่ลายเป็นแผนที่โลก
วิธีแก้สิวอักเสบ รักษาอย่างไรให้หายไว ไม่กลับมาเป็นซ้ำ !
ที่มา : pobpad, ladyissue
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!