ผักผลไม้ที่แม่ให้นมห้ามกินมีไหม
คุณแม่ให้นมหลายท่านอาจสงสัยว่าจะมีผักหรือผลไม้ หรืออาหารบางชนิดที่คุณแม่จะทานไม่ได้ระหว่างให้นมหรือไม่ เราจะมาทำความเข้าใจเพื่อคลายความสงสัยต่างๆ ว่าแท้จริงแล้ว ผักผลไม้ที่แม่ให้นมห้ามกินมีไหม กินแล้วน้ำนมจะหดอย่างที่ใครๆ บอกหรือเปล่ากันค่ะ
ผักผลไม้ที่คนท้องมักเข้าใจผิด
กลุ่มผัก-ผลไม้และอาหาร ที่คุณแม่มักจะเข้าใจผิดว่าทานไม่ได้ในช่วงที่ให้นมลูกเพราะอาจเกิดอันตรายต่อลูกมีดังนี้ค่ะ
- ผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เพราะกลัวลูกจะท้องเสีย
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด หรือมีกรดเยอะ เพราะกลัวลูกจะปวดท้อง
- ผักและถั่วบางชนิดที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะเยอะกว่าปกติ เพราะกลัวลูกจะท้องอืดแน่นท้องและร้องกวน
- อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม เพราะกลัวลูกจะเหม็นน้ำนมแม่และไม่ยอมทาน
- ผักหรือผลไม้บางชนิดอาจจะทานแล้วน้ำนมลดลงได้
- ซึ่งความกลัวหรือกังวลดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใดนะคะ
ความเข้าใจที่ถูกต้อง
- เมื่อคุณแม่ทานอาหารเข้าไป แบคทีเรียในลำไส้จะสร้างแก๊สจากปฏิกิริยาต่อไฟเบอร์ที่อยู่ในอาหารนั้นในลำไส้ ซึ่งทั้งไฟเบอร์และแก๊สนั้นไม่สามารถถูกดูดซึมเข้าไปในลำไส้ได้ จึงไม่สามารถผ่านเข้าไปในนมแม่จนถึงลูก จึงไม่ได้ทำให้ลูกเกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง หรือท้องเสีย
- ผักและผลไม้รสเปรี้ยวจัดและมีกรดที่คุณแม่ทานไม่ได้มีผลต่อนมแม่ และไม่ได้เปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรดหรือด่างของเลือดคุณแม่หรือนมแม่แต่อย่างใด
- น้ำมันที่อยู่ในอาหารบางชนิด เช่น กระเทียม ซึ่งมีกลิ่นแรงและมีรสชาติจำเพาะ สามารถผ่านเข้าไปในน้ำนมแม่ได้ ทารกที่ทานนมแม่ก็จะได้รับรู้ถึงรสชาติและกลิ่นของอาหารนั้น โดยกลิ่นที่ผ่านเข้าไปมักจะไม่ได้มากมายเหมือนทารกได้ทานอาหารนั้นเองและไม่ได้ทำให้น้ำนมแม่มีกลิ่นเหม็นจนถึงขั้นทารกทานนมไม่ได้นะคะ
- ไม่ได้มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าผักหรือผลไม้ชนิดใดที่ทำให้ปริมาณน้ำนมของคุณแม่ลดลงค่ะ
ดังนั้นคุณแม่ให้นมไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้แต่อย่างใดค่ะ ทั้งนี้กลับยิ่งเป็นข้อได้เปรียบของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเมื่อคุณแม่ทานอาหารที่ หลายลูกก็จะได้รับรสอาหารต่างๆผ่านทางนมแม่ อีกทั้งน้ำมันจากอาหาร เช่น กระเทียมและพริก อาจทำให้เกิดกลิ่นส่งผ่านไปยังน้ำนมคุณแม่ได้ ซึ่งทำให้ทารกได้รับกลิ่นและรสชาติเหล่านี้เช่นกัน
ผักผลไม้ที่แม่ให้นมห้ามกินมีไหม จริงไหมที่กินแล้วนมหด กินทุเรียนแล้วนมเหม็น
แม่กินอาหารที่หลากหลายดีต่อทารกอย่างไร
เมื่อถึงเวลาที่ทารกต้องเริ่มทานอาหารตามวัยในช่วงอายุ 4-6 เดือนขึ้นไป ทารกที่ทานนมแม่ซึ่งคุณแม่ทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลายชนิดก็จะยอมรับรสชาติอาหารใหม่ๆได้ง่ายและรวดเร็วกว่าทารกที่ทานนมผงมาตลอด ซึ่งไม่เคยได้รับรสชาติอาหารที่แปลกใหม่ผ่านนมแม่มาก่อนเลย ดังนั้นทารกที่ทานนมแม่โดยที่คุณแม่ทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย จะเพิ่มโอกาสในการยอมทานอาหารต่างๆได้ง่าย ลดโอกาสเกิดปัญหาทานอาหารยากเพราะเขาคุ้นเคยกับรสชาติและกลิ่นของอาหารชนิดต่างๆผ่านทางน้ำนมแม่มาเรียบร้อยแล้วนั่นเองค่ะ
สรุปก็คือหากอาหารที่คุณแม่ให้นมทานเป็นอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่และไม่ได้มีสารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเจือปนก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อทารกที่ทานนมแม่แต่อย่างใดค่ะ
ข้อควรระวังของแม่ให้นม
ข้อควรระวังคือ หากคุณแม่ทานอาหารที่รสจัดมากๆ คุณแม่เองก็อาจปวดท้องได้ หากคุณแม่ทานผักและถั่วบางชนิดที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะเยอะกว่าปกติคุณแม่ก็อาจจะท้องอืด แน่นท้องได้ หากคุณแม่ทานผลไม้ที่ให้พลังงานและน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียนก็อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องของโรคอ้วนหรือเบาหวานได้ คุณแม่ให้นมจึงควรทานอาหารที่มีประโยชน์ให้หลากหลายในปริมาณที่พอเหมาะพอดีนะคะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง อาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการสมองของทารกที่คนท้องต้องรู้!
เมนูอาหารคนท้องเป็นเบาหวาน ตัวอย่างตารางอาหาร สำหรับเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ลดน้ําตาลในคนท้อง
คนท้องดื่มน้ํากี่ลิตร คนท้องกินน้ําเย็นดีไหม คนท้องกินน้ำมากเป็นไรไหม แม่ท้องต้องกินน้ำกี่แก้วต่อวัน
รวม เมนูแม่หลังคลอด ต้องกิน ลดเจ็บ เพิ่มน้ำนม ฟื้นฟูร่างกายได้เร็ววันดีคืน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!