5 เมนูแก้วมังกร อร่อย หวานฉ่ำ ช่วยเพิ่มความสดชื่น แถมมีประโยชน์เพียบ!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วันนี้ทางเราจะมานำเสนอ เมนูแก้วมังกร ผลไม้ที่มีรสหวาน ฉ่ำ ที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่น และอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นทั้งขนมและเครื่องดื่ม ใครที่ไม่อยากทานแก้วมังกรในรูปแบบผลไม้สด ๆ สามารถลองนำสูตรเมนูที่เรานำมาฝาก ไปทำทานกันได้จ้า รับรองว่าจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน ไปดูพร้อมกันเลยจ้า ว่าจะมีเมนูอะไรน่าสนใจกันบ้าง

 

ทำความรู้จักแก้วมังกร

แก้วมังกรคือผลไม้ที่มีเนื้อขาวเปลือกแดงที่จะให้รสชาติหวานนิด ๆ อมเปรี้ยวหน่อย ๆ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น ซึ่งแก้วมังกรจะมีทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกัน คือ

  • แก้วมังกรเนื้อขาวเปลือกแดง มีรสชาติหวาน อมเปรี้ยว
  • แก้วมังกรเนื้อแดงเปลือกแดง มีรสชาติหวานกว่าแก้วมังกรแบบอื่น ๆ
  • แก้วมังกรเนื้อขาวเปลือกเหลือง ซึ่งจะมีรสชาติออกหวาน

 

ประโยชน์ของแก้วมังกร

  • แก้ดับกระหาย แก้วมังกรถือว่าเป็นผลไม้ที่จะช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ ยิ่งถ้านำไปแช่เย็นไว้และเอามาทานจะให้ความรู้สดชื่นสุด ๆ
  • บำรุงผิวสุขภาพดี แก้วมังกรจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินต่าง ๆ ทำให้ผิวชุ่มชื้น แก้วมังกรจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะมาก และถ้ายิ่งทานแก้วมังกรมาก ๆ ก็จะยิ่งทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นดูสุขภาพดี
  • ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน แก้วมังกรจะมีสารในกลุ่มโอลิแซกคาไรด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกส์  และยังมีส่วนประกอบของวิตามิน C ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคท้องผูก โรคภูมิแพ้ หรือผื่นตามผิวหนัง เป็นต้น
  • ช่วยบำรุงหัวใจ แก้วมังกรจะเต็มไปด้วยไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และรักษาการไหลเวียนโลหิตในร่างกายให้สมดุล

บทความเพิ่มเติม : 5 เมนูอะโวคาโด จะสายไหนก็อร่อยไปพร้อม ๆ กับมีสุขภาพที่ดีได้

เมนูแก้วมังกร ลอยแก้ว

วัตถุดิบ

  • แก้วมังกร 500 กรัม
  • น้ำตาลทราย 400 กรัม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร
  • น้ำคั้นจากดอกอัญชัน 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำ

  1. ทำน้ำดอกอัญชัน ใช้แบบสดหรือแห้งก็ได้ โดยใส่น้ำร้อนจากนั้นพักไว้
  2. และนำดอกอัญชันที่แช่น้ำไว้มาคั้น และใส่น้ำมะนาวลงไปเพื่อเปลี่ยนน้ำอัญชันเป็นสีม่วง
  3. ใส่น้ำเปล่า น้ำตาลทราย และเกลือ ลงไปในหม้อ คนให้ละลายก่อนตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง ต้มให้เดือด จากนั้นเทน้ำดอกอัญชันที่คั้นไว้ลง และต้มให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟและพักให้เย็น
  4. ทำน้ำเกลือแช่แก้วมังกร โดยเทน้ำเปล่าใส่ถ้วยและผสมเกลือลงไป และคนให้เกลือละลาย
  5. หั่นแก้วมังกร และทำการปอกเปลือกออก แล้วหั่นแก้วมังกรขนาด 1.5 เซน และนำแก้วมังกรไปแช่ในน้ำเกลือที่เตรียมไว้ 10 นาที
  6. จากนั้นตักแก้วมังกรไปแช่ในน้ำอัญชัน จากนั้นก็เอาไปแช่ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง
  7. ตักเสิร์ฟใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็งเล็กน้อย พร้อมทานได้เลย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิดีโอจาก : บ้านมะลิแฟมิลี่

เมนูขนมแก้วมังกร

วัตถุดิบ

  • แก้วมังกรปั่น   350 มิลลิลิตร
  • กะทิ  250 มิลลิลิตร
  • นม 50 มิลลิลิตร
  • แป้งข้าวโพด  50 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า  10 กรัม
  • แป้งมันสำปะหลัง  10 กรัม
  • น้ำตาล   1/2 ถ้วย
  • เกล็ดมะพร้าว

วิธีทำ

  1. หั่นแก้วมังกรเป็นชิ้น ๆ และนำไปปั่นให้ละเอียด
  2. นำแป้งข้าวใส่ลงไปในกระทะ ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวเจ้า จากนั้นคนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาล และเทนมลงไป และตามด้วยกะทิ และคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน และนำแก้วมังกรที่ปั่นไว้เทใส่ลงไป และคนให้เข้ากันอีกครั้ง
  3. และนำไปตั้งไฟ ใช้ไฟกลางในการคน พยายามคนตลอดเวลา คนจนส่วนผสมเหนียวข้น ก็ยกลงจากเตา และนำไปพักไว้ให้อุ่น
  4. นำกระดาษไขมารองพื้นลงในกล่อง และเทส่วนผสมที่ทำไว้ทั้งหมดใส่ลงไป ปิดฝาและนำไปแช่ตู้เย็น 2 ชั่วโมง
  5. จากนั้นนำขนมออกจากกล่อง และทำการตัดแบ่งเป็นชิ้นตามความชอบ และนำไปคลุกกับเกล็ดมะพร้าว
  6. จัดเสิร์ฟใส่จาน พร้อมทานได้เลย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิดีโอจาก : Thaimom Cooking

เมนูวุ้นแก้วมังกร เมนูแก้วมังกร

วัตถุดิบ 

  • แก้วมังกร
  • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  • วุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ทัพพี
  • น้ำแดงเฮลบลูบอย 1 ทัพพี

วิธีทำ

  1. เทน้ำเปล่าใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นก็ใส่ผงวุ้นลงไป และคนให้เข้ากัน และทิ้งไว้ 10 นาที
  2. จากนั้นทำการปอกแก้วมังกร และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
  3. นำวุ้นที่พักไว้มาทำการต้มจนกว่าวุ้นจะละลายหมด ระหว่างนั้นก็เติมน้ำตาลลงไป และคนจนน้ำตาลละลาย และใส่น้ำแดงลงไปเพื่อเพิ่มสี และคนอีกครั้ง จากนั้นก็ปิดไฟ และพักให้วุ้นเย็นตัวลง
  4. นำแก้วมังกรที่หั่นไว้ ใส่ลงไปในพิมพ์วงกลม และนำน้ำวุ้นที่ต้มไว้มาตักใส่พิมพ์ และรอให้วุ้นเซตตัว
  5. จัดเสิร์ฟใส่จาน พร้อมทานได้เลย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิดีโอจาก : หยุดแล้ว ทำอะไรดี

 

เมนูแก้วมังกร สมูทตี้

วัตถุดิบ

  • แก้วมังกร 100 กรัม
  • นมสด 100 มิลลิลิตร
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 130 กรัม
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
  • น้ำแข็ง

วิธีทำ

  • นำน้ำแข็งเทใส่ลงไปในโถปั่นและตามด้วยแก้วมังกร นมสด น้ำผึ้ง และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ จากนั้นก็ทำการปั่นให้เนียนละเอียด
  • จากนั้นก็เทใส่แก้ว พร้อมดื่มได้เลย

 

 

วิดีโอจาก : ครัวอร่อยมาก Aroimaak Kitchen

 

เมนูไอติมแก้วมังกร

วัตถุดิบ

  • แก้วมังกร 1 ลูก
  • นมโค 500 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทรายขาว 7 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. นำแก้วมังกรใส่ลงไปในโถปั่น และเทนมใส่ลงไป จากนั้นก็ทำการปั่นให้เนื้อเนียนละเอียด
  2. นำแป้งข้าวโพดเทใส่ลงในกระทะ ตามด้วยน้ำแก้วมังกรที่ทำการปั่นเตรียมไว้ เทใส่ลงไปครึ่งนึง จากนั้นก็คนแป้งข้าวโพดให้ละลาย และเทน้ำแก้วมังกรส่วนที่เหลือตามลงไป
  3. จากนั้นก็นำมาทำการเคี้ยว ใช้ไฟกลาง และต้องคนตลอดเวลา และใส่น้ำตาลทรายขาวลงไปและคนให้ละลาย และปิดเตาได้เลย
  4. และนำมาเทใส่ในภาชนะ และพักไว้ให้เย็น จากนั้นก็นำมาเทใส่ถ้วย และนำไปแช่ช่องฟรีซ 6 – 7 ชั่วโมง หรือ 1 คืน เพื่อให้เนื้อไอติมแข็งตัว
  5. พอครบตามเวลาแล้ว ก็นำออกมาและให้ใช้มีดหรือส้อมจิ้ม ๆ ให้เนื้อไอติมแยกตัวออกมา จิ้มให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อที่จะนำเนื้อไอติมไปปั่นให้ละเอียด
  6. จากนั้นก็นำมาใส่โถเครื่องปั่น และทำการปั่นให้ละเอียด  และนำมาเทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้  และทำการหั่นแก้วมังกรเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็ก ๆ เพื่อนำไปใส่รวมกับไอติมที่ปั่นไว้ คนส่วนผสมให้เข้ากันและนำไปแช่ช่องฟรีซ 6 – 7 ชั่วโมง หรือ 1 คืน เพื่อให้เนื้อไอติมแข็งตัว
  7. พอครบตามเวลาแล้ว ก็นำไอติมออกมาและพักไว้ 10 – 15 นาที จากนั้นก็นำที่ตักไอติมมาตักเสิร์ฟใส่จาน พร้อมทานได้เลย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิดีโอจาก : พี่บิ๊ก พากิน

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 

แจกสูตร 5 เมนูข้าวโพด ทำกินง่ายได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม !

5 เมนูแอปเปิ้ล แสนอร่อย ถูกใจลูกน้อย ทำง่าย แถมดีต่อสุขภาพ !!

รวมสูตร เมนูแตงกวา เมนูเฮลตี้มีดีกว่าที่คุณคิด !

ที่มา : sgethai

บทความโดย

Suttida Butdeewong