การแพ้นมวัว และแพ้อาหารในเด็ก เป็นยังไงบ้าง? สิ่งที่พ่อแม่หลายคนควรรู้! สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังพบเจอกับปัญหาเหล่านี้ และยังไม่รู้ว่าเราจะต้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นยังไงดี ไม่ต้องห่วงนะ เพราะวันนี้เราได้นำข้อมูลดี ๆ มาให้คุณแม่หายข้องใจกันแล้ว มารู้วิธี การแพ้นมวัว และแพ้อาหารในเด็ก กันนะคะ
(รูปภาพจาก shutterstock.com)
สาเหตุที่ทำให้ลูกแพ้นมหรือแพ้อาหารต่าง ๆ เกิดจากอะไร
การแพ้นมวัวอาจจะเกิดขึ้นกับกรรมพันธุ์ ซึ่งอาจจะหมายความว่าคนในบ้านเคยมีประวัติเป็นภูมิแพ้ในเรื่องอื่น ๆ มาก่อน อาทิเช่น ภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้เป็นผื่น เป็นต้น และถ้ากรณีที่คนในบ้านเคยมีประวัติเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว แน่นอนว่าลูกของเราก็อาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ด้วยเช่นกัน หรือบางคนอาจจะเป็นภูมิแพ้ในเรื่องของอาหาร โดยจากการวิจัยพบว่าส่วนใหญ่แล้วจะให้เด็กเริ่มทานข้าวได้ประมาณ 4 – 6 เดือน สาเหตุที่ไม่ให้เริ่มเร็ว เพราะลำไส้เด็กยังไม่พร้อมที่จะย่อย และเมื่ออาหารเข้าไปในร่างกายก็จะมีการดูดซึม ทำให้ลูกของเราแพ้อาหารขึ้นมาได้ หรืออีกกรณีคือคุณแม่ยังไม่เคยกินนมวัวเลย แต่ในช่วงตั้งท้องคุณแม่กลับอยากดื่มนมวัวขึ้นมา แถมยังดื่มในปริมาณที่มาก แน่นอนว่าสิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ลูกของเราสร้างสารชนิดหนึ่งขึ้นมา ทำให้เด็กออกมามีโอกาสแพ้นมวัวได้ ส่วนใหญ่จะเกิดกับคุณแม่ที่ไม่เคยดื่มนมวัวเลย หรือนาน ๆ ทีจะดื่มนมวัวนั่นเอง
บทความที่เกี่่ยวข้อง : ทำอย่างไร? เมื่อ ลูกแพ้เกสรดอกไม้ พ่อแม่ควรจัดการยังไงดี
(รูปภาพจาก shutterstock.com)
เด็กแพ้อาหารจะมีอาการยังไงบ้าง
การแพ้อาหารมีหลายแบบมาก ๆ ในกรณีของเด็กที่แพ้นมวัวส่วนใหญ่จะเป็นการแพ้แบบมีผื่นขึ้นตามตัว หายใจครืดคราด หรือถ่ายเป็นมูกเลือดออกมา ยกตัวอย่างเช่น ลูกกินไข่แล้วมีผื่นขึ้น โดยถ้าใครที่กำลังพบว่าลูกมีอาการเหล่านี้อยู่เราก็อาจจะสังเกตว่าลูกหยุดกินไข่แล้วผื่นหายไหม หรือว่าทุกครั้งที่กินไข่ผื่นก็จะขึ้นเหมือนเดิม สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าลูกของเรากำลังมีอาการแพ้ไข่อยู่ แล้วอย่างนี้ลูกของเราจะกินโดนัทหรือเบเกอรี่ได้ไหมนะ? แน่นอนว่าถ้าส่วนประกอบที่ทำจากไข่หรือมีส่วนผสมของไข่อยู่ในนั้น เราก็อาจจะให้ลูกงดทานไปก่อน หรือคุณแม่บางคนอาจจะสังเกตอาการแพ้ของลูกด้วยการสังเกตว่าเวลาที่เราป้อนไข่ลูก แล้วไข่ไปโดนหน้าลูก ลูกกลับมีผื่นขึ้นบริเวณแก้ม แต่พอสิ่งอื่น ๆ มาโดนบริเวณหน้ากลับไม่เป็นอะไรเลย นั่นก็แสดงว่าลูกของเรามีโอกาสแพ้ไข่ได้เช่นเดียวกันค่ะ
เด็กเล็ก ๆ ถ้ามีผื่นขึ้นเราต้องดูยังไงว่าลูกของเราแพ้อาหาร
ก่อนอื่นเลยเราอาจจะต้องดูการกระจายตัวของผื่นก่อนว่า ผื่นที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นบริเวณไหนบ้าง ถ้าอยากรู้ว่าลูกแพ้อาหารหรือแพ้สิ่งแวดล้อม เราอาจจะต้องถ่ายรูปเก็บไว้ พร้อมกับทำการจดบันทึกไว้ว่าก่อนที่ลูกของเราจะมีอาการเหล่านี้ได้นั้น ลูกกินอะไรเข้าไปบ้าง หรือช่วงนั้นมีอากาศเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า เพราะถ้าเราทำแบบนี้เป็นประจำ เราก็อาจจะจับสังเกตได้ว่าลูกของเราแพ้อะไรนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไม? ลูกเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง วิธีรักษาลูกเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ลูกเป็นผื่นคันทั้งตัว
(รูปภาพจาก shutterstock.com)
คำถามที่คุณแม่หลายคนอยากรู้เกี่ยวกับการแพ้นมวัวของเด็กมีอะไรบ้างมาดูกัน
- ถ้าอยากรู้ว่าลูกแพ้อาหารอะไร นอกจากวิธีการสังเกตแล้ว มีอะไรบ้างนะ
คุณแม่อาจจะให้กินสิ่งนั้นซ้ำอีกรอบหนึ่งเพื่อดูว่าลูกมีอาการแพ้จริง ๆ หรือเปล่า หรือทางที่ดีเราก็อาจจะพาลูกไปหาคุณหมอเพื่อจะได้รู้ว่า อาหารที่ลูกทานเข้าไปนั้น ลูกของเรามีอาการแพ้จริง ๆ ไหม และถ้าลูกมีอาการแพ้อาหารเหล่านั้นจริง ๆ เราก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกทานอาหารเหล่านั้นไปเลย พร้อมกับหาอาหารที่ดีมีประโยชน์มาทดแทนค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แพ้ถั่ว มีอาการอย่างไร? รู้ได้อย่างไรว่าลูกของเราแพ้ถั่ว จัดการทำยังไง
- เราจำเป็นต้องพาลูกไปตรวจดูไหมมีอาการแพ้จริงหรือเปล่า
ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ควรที่จะพาลูกไปตรวจ ทั้ง ๆ ที่ลูกยังไม่มีอาการแพ้อาหารเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องให้ลูกมีอาการเหล่านี้ก่อน ถึงพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อที่จะได้ลูกว่าอาการที่ลูกเป็นนั้น เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ในทางกลับกันถ้าเราพาลูกไปตรวจทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีอาหารอะไรเลย คุณหมอก็อาจจะไม่สามารถตอบได้ว่าลูกของเราแพ้อะไรกันแน่นั่นเอง
- การแพ้อาหารจะส่งผลต่อพัฒนาการเจริญเติบโตของลูกได้ไหม
ถ้ากรณีที่แพ้แบบผื่นสิ่งนี้จะไม่กระทบต่อพัฒนาการของลูก ส่วนกรณีที่ลูกแพ้อาหารขั้นรุนแรง อาทิเช่น ขับถ่ายเป็นเลือด ขับถ่ายเหลว สิ่งนี้ก็มีโอกาสกระทบต่อพัฒนาการของเด็กอยู่บ้าง แต่เปอร์เซ็นต์ก็ค่อนข้างน้อยเหมือนกัน
- การแพ้น้ำตาลแลคโตสในนมนับเป็นการแพ้นมวัวไหม
ถ้าพูดถึงทางการแพทย์จะไม่นับว่าการแพ้น้ำตาลแลคโตสแล้วจะแพ้นมวัว เพราะว่าการแพ้นมวัวในกรณีของแพทย์จะเป็นการแพ้โปรตีนในนมวัวมากกว่า เพราะน้ำตาลแลคโตสจะเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย ดังนั้นการแพ้น้ำตาลแลคโตสจึงไม่ถือว่าเป็นการแพ้นมวัวนั่นเองค่ะ
- อยากทราบว่าลูกในครรภ์ถ้าแพ้นมวัวจะมีอาการอย่างไร
แน่นอนว่าการที่เราจะลูกว่าลูกของเราแพ้นมวัวหรือไม่นั้น เราจะต้องคลอดลูกออกมาก่อนถึงจะรู้ว่าลูกแพ้หรือไม่ นอกจากนี้เราอาจจะต้องให้ลูกมีอาการเหล่านี้ก่อนถึงจะรู้ว่าลูกของเรา มีอาการแพ้นมวัวจริงๆ ไม่ควรพาเขาไปตรวจก่อนที่ยังไม่มีอาการ เพราะผลตรวจที่ออกมานั้นอาจมีการคลาดเคลื่อนได้
- ถ้าลูกอายุ 9 เดือนทานอาหารน้อยมาก เราสามารถให้ลูกดื่มนมแทนได้ไหมคะ
ไม่ควรจะดีกว่า ทางที่ดีเราอาจจะต้องฝึกให้ลูกทานข้าวให้มากขึ้น และให้ลูกดื่มนมให้น้อยลง เพื่อที่จะได้ทานข้าวได้เยอะ ๆ แน่นอนว่าเมื่อเด็กโตขึ้นร่างกายเขาก็ควรที่จะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ดังนั้นถ้าลูกไม่ยอมทานข้าว เราก็อาจจะปรับเมนูอาหารและฝึกให้ลูกทานข้าวจะดีกว่าค่ะ
- ลูกอายุ 6 เดือน พึ่งกินนมผงได้ 2 เดือนแล้ว แต่ลูกมีอาการอาเจียนออกมา ถือว่าเป็นการแพ้นมไหม
โดยรวมให้เราทำการสังเกตก่อนว่า อาเจียนของลูกเป็นสีอะไร ถ้าเป็นสีชมพูเราก็อาจจะทำการสังเกตต่อว่าสิ่งที่เขากินเข้าไปนั้นมีลักษณะเป็นยังไง ทำไมถึงอาเจียนออกมาเป็นสีนี้ได้ และถ้าลูกของเราอาเจียนออกมาเป็นฟองสีชมพูทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กินอะไรที่มันมีแดงหรือชมพูเข้าไปเลย นั่นแสดงว่าลูกของเราอาจจะเป็นแผลในกระเพาะหรือโรคกระเพาะได้ เพราะฉะนั้นคุณแม่ก็อาจจะต้องพาลูกไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาได้อย่างถูกวิธีค่ะ
- กรณีที่เด็ก 1 เดือน กินนมแม่แล้วท้องเสีย เราควรมีวิธีการแก้ไขยังไง
ในช่วงอายุเด็กแรกเกิดมาจนถึง 1 เดือน จากการที่เด็กขับถ่ายบ่อยถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ซึ่งอาจจะขับถ่ายประมาณ 6 – 8 ครั้งเลยก็ว่าได้ และในช่วง 2 เดือนขึ้นไประบบขับถ่ายของเด็กก็จะกลับมาเป็นปกติ แต่ถ้ากรณีที่ลูกถ่ายผิดปกติ ถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นฟอง กินนมทีไรขับถ่ายออกมาตลอด ดังนั้นคุณแม่อาจจะดูว่าลูกของเราดูดนมส่วนไหนมากกว่ากัน โดยน้ำนมในเต้าของเราจะมีอยู่ส่วน 2 ส่วนด้วยกัน คือส่วนหน้ากับส่วนหลัง ถ้าลูกของเราดูดนมส่วนหน้ามากเกินไป สิ่งนี้ก็อาจจะไปกระตุ้นทำให้ลูกของเราขับถ่ายออกมาได้ เพราะนมส่วนหน้าจะมีน้ำตาลผสมอยู่เป็นจำนวนมาก และถ้าคุณแม่คนไหนกำลังพบเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่ เราก็อาจจะพยายามให้ลูกดูดนมให้หมดจนเกลี้ยงเต้า หรืออาจจะบีบนมส่วนหน้าเก็บไว้ให้ลูกกินในยามที่ท้องผูก แล้วให้ลูกดูดนมส่วนหลังแทนนะคะ
- ถ้าลูกมีการขับถ่ายยาก เมื่อขับถ่ายออกมามีลักษณะเหนียว เราควรทำอย่างไรดี
จริง ๆ แล้วเด็กที่มีอายุประมาณ 1 เดือนที่กินนมแม่เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องถ่ายทุกวันก็ได้ เพราะในนมแม่จะมีกากของเสียค่อนข้างน้อยทำให้มีการดูดซึมง่าย และไม่จำเป็นต้องขับถ่ายทุกวัน ดังนั้นการที่เราคิดว่าลูกขับถ่ายยาก อาจจะเป็นเพราะเด็กยังไม่รู้ว่าเขาจะต้องขับถ่ายยังไง สิ่งนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติค่ะ
- ลูกอายุ 8 เดือนสามารถทานผลไม้หรือแก้วมังกรได้ไหม
สามารถทานได้ตามปกติเลยค่ะ เพราะเด็กอายุประมาณ 6 – 8 เดือนก็สามารถที่จะทานผลไม้ได้แล้ว แต่เราอาจจะต้องระวังเพียงแค่ว่า ผลไม้ที่เราจะให้ลูกทานเข้าไปนั้น เป็นผลไม้ที่มีเนื้อแข็งหรือเป็นเม็ดเล็กๆ หรือไม่ เพราะลูกของเราอาจจะยังเคี้ยวไม่ละเอียดและเสี่ยงต่อการติดคอได้เลย
- อาหารที่คุณแม่กินเข้าไป แล้วเรายังให้นมลูกอยู่ ลูกมีโอกาสท้องเสียได้ไหม
มีโอกาสที่จะท้องเสียอยู่บ้าง แต่จะเป็นบางกรณีเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณแม่สามารถทานอาหารได้ตามปกติ เพียงแต่ว่าเราอาจจะหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้โทษมาก ๆ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และสารปรอท เป็นต้น นอกนั้นก็สามารถทานได้ตามปกติเลย
(รูปภาพจาก shutterstock.com)
ความเชื่อที่คุณแม่หลายคนต้องรู้
1. ให้ลูกทานกล้วยบดช่วง 6 เดือน แล้วลูกจะแข็งแรงจริงไหมนะ
ขอบอกเลยว่าไม่เสมอไปค่ะ เพราะเราต้องดูว่าลูกของเรานั้นร่างกายเขาพร้อมดูดซึมสารอาหารแล้วหรือยัง แน่นอนว่าถ้าเราให้เขาทานกล้วยเข้าไปในปริมารมาก ทั้งที่ระบบย่อยอาหารยังไม่ได้ดูดซึมมาก สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ลูกของเรามีเกิดลำไส้อุดตันและท้องผูกขึ้นมาได้เลย เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราควรให้ลูกกินนมเราจะดีที่สุดค่ะ
2. ถ้าลูกตาแดงแล้วใช้น้ำนมคุณแม่หยอดตาแล้วหาย จริงหรือไม่
สิ่งนี้อาจจะยังไม่จริงเสมอไป เพราะในนมแม่จะมีสารที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคได้เพียงบางตัวเท่านั้น ทางที่ดีเมื่อลูกของเรามีอาการตาแดงหรืแระคายเคืองเราควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะดีกว่า
เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะคลายข้อสงสัยให้กับคุณแม่หลายท่านเลยใช่ไหมคะ และสำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญเหล่านี้อยู่ ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปนะคะ แค่เราสังเกตอาการลูกและทำการรักษาอย่างนี้วิธี ปัญหาเหล่านี้ก้จะหมดไปค่ะ แอดขอเอาใจช่วยคุณแม่ทุกคนนะคะ
บทความที่น่าสนใจ : อาหารเสริมเพิ่มน้ำนม รวมสุดยอดวิธีเพิ่มน้ำนม สำหรับคุณแม่น้ำนมน้อย
วิธีกระตุ้นน้ำนม ให้มีน้ำนมเยอะ ๆ แม่มือใหม่กลัวนมน้อย ลูกไม่พอกิน
ถุงเก็บน้ำนม น่าใช้! รวม 5 อันดับถุงเก็บน้ำนม พร้อมวิธีการเลือกซื้อให้ได้ของดีโดนใจ
ที่มา : แพทย์หญิง พรนิภา ศรีประเสิรฐ กุมารแพทย์ เจ้าของเพจ เรื่องเด็ก ๆ by หมอแอม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!