นอกจากความผูกผันระหว่างแม่ลูกที่เกิดขึ้นในช่วงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้ว นมแม่ยังเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยในช่วง 6 เดือนแรก เพราะในนมแม่อุดมไปด้วยวิตามิน โปรตีน และไขมัน รวมทั้งยังมีแอนติบอดีที่ช่วยเรื่องของการสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในทารกอีกด้วย คุณแม่ส่วนใหญ่จึงมักมองหา อาหารเสริมเพิ่มน้ำนม เพื่อให้มีน้ำนมเพียงพอกับลูกน้อยตลอด 6 เดือน หรือจนถึง 1 ปี

American Academy of Pediatrics (AAP) และ the American College of Obstetricians and Gynecologists ได้แนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกน้อยด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องให้ลูกกินน้ำ น้ำผลไม้อะไรเพิ่มเติม
จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกได้รับนมเพียงพอแล้ว
สิ่งที่จะทำให้คุณแม่ทราบได้ว่าลูกได้รับน้ำนมอย่างเพียงพอ คือ การน้ำหนักตัวของทารกที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ทารกแรกคลอดอาจมีน้ำหนักตัวที่ลดลงได้เช่นกันในช่วงสัปดาห์ที่สองและสัปดาห์ที่สาม รวมถึงปริมาณของปัสสาวะต่อวันก็สามารถบอกได้เช่นกัน
วิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่
หากคุณแม่ต้องการทราบวิธีเพิ่มน้ำนม ลองทำตามคำแนะนำทั้ง 14 วิธีนี้สิ! แล้วลองนำกลับไปใช้กับตัวคุณและลูกน้อย แต่หากคุณแม่เริ่มมีอาการที่ผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับเหมือนเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากที่สุดของคุณแม่ในช่วงแรกคลอด แต่การพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะความเหนื่อยล้าส่งผลต่อปริมาณน้ำนมแม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เวลาที่ลูกน้อยนอนหลับคุณแม่ควรหาเวลานอนหรืองีบบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่เมื่อคุณแม่ตื่นขึ้นมาจะได้มีแรงในการเลี้ยงลูกได้อย่างดีด้วย
2. พยายามให้ลูกดูดบ่อยๆ
ช่วง 2 - 3 สัปดาห์แรกหลังคลอด เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการสร้างน้ำนม ในช่วงเวลานี้คุณแม่ต้องพยาพยามเอาลูกเข้าเต้าทุก 2 ชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ เพราะทุกครั้งที่ลูกดูดนมจะช่วยไปกระตุ้นการผลิตน้ำนมของคุณแม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งลูกดูดมากเท่าไหร่ นมแม่ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
3. ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอ
เนื่องจากทารกต้องกินนมแม่ทุกชั่วโมง คุณแม่อาจใช้เครื่องปั๊มนมปั๊มในระหว่างที่ไม่ได้ให้นมลูก เพราะเครื่องปั๊มนมจะเลียนแบบการดูดนมของทารกขณะให้นม หากคุณแม่ปั๊มบ่อย ๆ ประมาณ 8-10 ครั้งต่อวันจะช่วยเพิ่มน้ำนมได้ และหลังจากที่คุณแม่ปั๊มนมแล้วควรรีบนำนมเก็บเข้าตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งทันที เพือ่เป็นการเก็บรักษานมแม่ให้มีอายุนานขึ้น
4. นวดหน้าอกเบา ๆ
การนวดหน้าอกเบา ๆ เป็นการกระตุ้นน้ำนมแม่สำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูกน้อยบ่อย ๆ เพื่อให้นมแม่ไหลพุ่ง ไม่อุดตัน เพราะหากน้ำนมคุณแม่ไหลน้อยอาจทำให้ลูกน้อยผล็อยหลับไปก่อนที่จะกินนมจนอิ่ม ทำให้ลูกน้อยรับนมไม่เพียงพอได้
5. หลีกเลี่ยงให้ลูกกินจุกหลอก
หากเป็นไปได้คุณแม่ควรให้ลูกกินนมจากเต้าเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าลูกได้ลองกินนมจากขวดอาจทำให้ลูกอิ่มจนไม่สามารถดูดนมจากเต้าของแม่ได้ ลูกก็จะดูดนมได้น้อยลง ดังนั้น คุณแม่ต้องพยายามปั๊มนมเพื่อกระตุ้นน้ำนมอยู่เสมอหากลูกไม่ได้ดื่มนมจากเต้า
6. ทานอาหารที่เหมาะสม
แม่ให้นมควรทานอาหารที่ดีที่เหมาะสมในแต่ละวัน โดยต้องเป็นมื้ออาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ หากคุณแม่หิวบ่อยควรทานผลไม้แทนอาหารจานด่วนหรือฟาสต์ฟู้ด เพราะแม่ให้นมจะกินมากกว่าปกติ 500 แคลอรี่ต่อวัน อีกทั้งไม่ควรลดน้ำหนักในช่วงนี้ เพราะอาจทำให้น้ำนมลดตามไปด้วย
7. กินอาหารเรียกน้ำนม
อาหารและสมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ได้ สำหรับในประเทศไทย เช่น หัวปลี ขิง ส่วนในต่างประเทศที่นิยมกินกัน เช่น ลูกซัด ซึ่งลูกซัดมีการบริโภคกินอย่างแพร่หลายในแม่ให้นมของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเริ่มแพร่หลายในเมืองไทยในรูปแบบของยาเม็ด ทางด้านประเทศจีน กินสมุนไพรตังกุยและอินผลัมเพื่อบำรุงร่างกาย และลดการอุดตันของน้ำนม สำหรับเมนูอาหารบำรุงน้ำนมยอดนิยม เช่น เมล็ดเจีย หอยเป๋าฮื้อ แกงเลียง น้ำขิง ฟักทองต้ม ไก่ต้มน้ำปลา ซุปไก่ตุ๋นมันฝรั่ง ผัดกระเพรา ต้มจืดตำลัง เป็นต้น
8. ดื่มน้ำเยอะ ๆ
แม่ให้นมควรดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละประมาณ 2 ลิตร โดยน้ำที่กินนั้นอาจจะเป็นน้ำผลไม้ นม หรือน้ำซุปก็ได้ เพราะการดื่มน้ำมาก ๆ จะเข้าไปช่วยทดแทนน้ำนมแม่ที่สูญเสียไป เพราะ 88% ของเต้านมจะเป็นน้ำนั่นเอง ในช่วงแรกน้ำนมแม่อาจมาน้อยเพียง 50 มล. แต่ถ้าคุณแม่มีการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอน้ำนมแม่จะสามารถเพิ่มได้สูงสุดวันละ 750 มล.ต่อวันเลยทีเดียว
9. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้น้ำนมหด
ผักหรือผลไม้บางชนิดที่คุณแม่ชอบกินอาจทำให้น้ำนมหดได้ เช่น ฝรั่ง แตงโม มังคุด โหระพา กระหล่ำปลี ตับหมู เป็นต้น และควรเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นฉุนอย่างกระเทียมและหัวหอมเพราะอาจทำให้รสชาติของน้ำนมแม่เปลี่ยนไปได้
10. ทานวิตามินต่อเนื่อง
หากคุณแม่ได้กินวิตามินขณะตั้งครรภ์มาก่อนแล้ว พอคุณแม่คลอดลูกสามารถกินวิตามินต่อเนื่องได้ เพื่อเป็นการบำรุงร่างกายของแม่ให้นม และควรทานแคลเซียมเพิ่มหากคุณแม่ไม่ชอบดื่มนม เพราะร่างกายของแม่ให้นมต้องการแคลเซียมวันละ 1000 มก.ต่อวัน
11. งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
สิ่งเหล่านี้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจเข้าไปอยู่ในนมแม่ได้ แต่ถ้าคุณแม่เป็นคนที่ติดกาแฟหรือชา สามารถกินได้แต่ไม่ควรเกิน 200 มก.ต่อวัน เพราะอาจทำให้ลูกน้อยรู้สึกกระสับกระส่าย ไม่ยอมนอนได้ สำหรับบุหรี่ควรงดไปเลยเพราะส่งผลเสียต่อลูกน้อยโดยตรง ทำให้ลูกท้องร่วง อาเจียน ชีพจรเต้นเร็ว และกระสับกระส่ายได้
12. อย่าเครียด
ความเครียดสามารถทำให้น้ำนมหดได้ ยิ่งแม่กดดัน หรือมีความเครียดสะสมทั้งจากการเลี้ยงลูก ครอบครัว หรือเรื่องงาน สิ่งเหล่านี้เกิดผลเสียกับน้ำนมแม่ทั้งสิ้น หากเป็นไปได้ควรหาเวลาพักผ่อนเพื่อคลายเครียดลงบ้าง
13. กินรกแกะแบบเม็ด
การกินรกแกะมีมาหลานหลายศตวรรษ และมักมีการใช้ในแพทย์แผนจีน เพราะมีความเชื่อที่ว่า รกมีประโยชน์มากมาย ช่วยลดอาการซึมเศร้าหลังคลอด และเพิ่มปริมาณน้ำนมได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาตร์ว่าการกินรกมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร แถมยังมีราคาที่สูงมากอีกด้วย
14. ปรึกษาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
หากคุณแม่มีปัญหาเรื่องน้ำนมอาจขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นมบุตร หรือการเพิ่มน้ำนม หรือคุณหมอ เพราะปัจจัยที่ทำให้น้ำนมน้อยของแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกัน และบางครั้งอาจเกิดจากความผิดปกติของเต้านมของคุณแม่เอง การขอเข้ารับการปรึกษาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
5 อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมแม่
- Organic Mother's Milk - เพิ่มน้ำนมได้ง่ายและรวดเร็ว
- Mommy Booster น้ำหัวปลีผสมพรุนและขิง - บำรุงน้ำนมและช่วยเรื่องขับถ่าย
- UpSpring Milkflow Fenugreek + Blessed Thistle - สมุนไพรบำรุงน้ำนมแม่อย่างธรรมชาติ
- Fenucaps Plus (ฟีนูแคป) - อาหารเสริมกระตุ้นน้ำนม
- มัมมี้ลิเชียสจูซ ชุดทดลอง - เครื่องดื่มบำรุงน้ำนมแม่ที่มีหลายรสชาติ
1. Mommy Booster น้ำหัวปลีผสมพรุนและขิง
เครื่องดิ่มน้ำผสมหัวปลีออร์แกนิค ผลิตจากหัวปลีออร์แกนิคจากสวนเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดนครปฐม ไม่มีการเติมน้ำตาล และสารกันบูด มีส่วนช่วยในการบำรุงน้ำนม กระตุ้นน้ำนมของคุณแา ทำให้น้ำนมไหลดี ทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย และยังช่วยให้ลูกน้อยเรอได้ง่าย ท้องไม่อืดอีกด้วย แนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำหัวปลีก่อนปั๊มนมหรือให้นมลูกน้อยประมาณ 15-30 นาที อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

2. Organic Mother's Milk
อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ ช่วยกระตุ้นการไหลของน้ำนมได้ดี เหมาะสำหรับแม่ให้นมที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมน้อย เต้านมคัด หรือน้ำนมไม่มา ผลิตจากส่วนผสมที่ปลอดสารพิษ 100% ปราศจากคาเฟอีน มีส่วนผสมของสมุนไพรเช่น Fennel, Anise (ที่ช่วยให้ชามีรสหวานธรรมชาติ ), Coriander และ Funugreek และได้รับรองมาตรฐาน USDA

3. Fenucaps Plus (ฟีนูแคป)
ผลิตจากสมุนไพร 100% ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำให้น้ำนมแม่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นหลังจากกินต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ควบคู่กับการปั๊มนมหรือให้ลูกดูดทุก ๆ 2-3 ชม. นานครั้งละ 30 นาที เพื่อกระตุ้นกลไกการเพิ่มน้ำนมของร่างกายด้วย เพราะถ้าคุณเเม่ไม่ให้ลูกดูดนมเลย หรือไม่ค่อยได้ปั๊มนมตามรอบ น้ำนมอาจไม่ได้รับการกระตุ้นที่มากพอ สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้พืชตะกูลถั่ว และมีประวัติว่าเป็นโรคหอบหืดไม่แนะนำให้ทาน

4. UpSpring Milkflow Fenugreek + Blessed Thistle
สมุนไพรเข้มข้นที่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ ประกอบด้วยสมุุนไพรจากธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ เฟนูกรีก พืชไม้มีหนาม และโป๊ยกั๊ก ที่ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำนมได้เป็นอย่างดี ส่วนผสมใน Milkflow จะทำงานร่วมกับร่างกายเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนให้เพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยต่อแม่ให้นม เนื่องจากปราศจากนม ปราศจากถั่วเหลือง ไม่มี GMO และมังสวิรัติ 100% แนะนำให้คุณแม่ดื่มอย่างสม่ำเสมอ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP

5. Mommylicious Juice มัมมี้ลิเชียสจูซ ชุดทดลอง
เครื่องดื่มน้ำหัวปลี และน้ำขิงบำรุงน้ำนมเพื่อคุณแม่ มีส่วนช่วยบำรุงน้ำนม และมีสรรพคุณช่วยดูแลสุขภาพของคุณแม่อีกด้วย เครื่องดื่มของมัมมี้ลิเชียสจูซ มีหลากหลายรสชาติ คุณแม่สามารถเลือกดื่มได้ตามความชอบ ได้แก่ น้ำหัวปลีสดเข้มข้น น้ำหัวปลีเข้มข้นผสมโปยกั๊ก น้ำขิงสดเข้มข้น น้ำขิงสดผสมน้ำผึ้งมะนาว โดยแต่ละรสล้วนมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำนม ช่วยให้น้ำนมแม่ไหลเวียนดี และยังช่วยป้องกันท่อน้ำนมอุดตันอีกด้วย แนะนำให้คุณแม่ดื่มก่อนปั๊มนมประมาณ 45-60 นาที โดยคุณแม่สามารถเลือกดื่มแบบเย็นเพื่อความสดชื่น หรือแบบร้อนหากต้องการกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำนม

การเปรียบเทียบราคา ณ วันที่ 4 ต.ค. 2564
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รวมเมนูหลังคลอด บำรุงน้ำนม ลดน้ำหนัก พุงยุบ กินอะไรเพิ่มน้ำนม ให้ลูกได้รับสารอาหารเต็ม ๆ
ท่าบริหารเพิ่มน้ำนม / 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 60
ถุงเก็บน้ำนม น่าใช้! รวม 5 อันดับถุงเก็บน้ำนม พร้อมวิธีการเลือกซื้อให้ได้ของดีโดนใจ
ที่มา 1