การที่เต้านมคัดและเป็นก้อน แต่ไม่สามารถปั๊มนมออกได้ เป็นปัญหาที่มีหลายสาเหตุและต้องการการจัดการอย่างรอบคอบเพื่อให้น้ำนมไหลออกมาได้ดีขึ้น นี่คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุ “ คัดเต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออก ” ที่เป็นไปได้และวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม
ปั๊มนมไม่ออก เกิดจากสาเหตุอะไร
การปั๊มนมที่ไม่ออกมีสาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อกระบวนการผลิตน้ำนมของร่างกายขณะให้นมให้แก่ทารก ต่อไปนี้คือสาเหตุที่ทำให้การปั๊มนมไม่ออกได้ มีดังต่อไปนี้
สภาวะเครียดหรือความกังวลที่สูงขึ้นอาจมีผลต่อการปลดปล่อยฮอร์โมนที่สำคัญสำหรับการผลิตน้ำนม เช่น ฮอร์โมนอ๊อกซิโตอิฟ (Oxytocin) และฮอร์โมนโปรลัคติน (Prolactin) ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของเต้านม การเครียดหรือความวิตกกังวลสามารถทำให้ปั๊มนมมีประสิทธิภาพลดลงหรือไม่สามารถปั๊มนมได้เต็มที่
การใช้เครื่องปั๊มนมที่ไม่เหมาะสมหรือการใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้การปั๊มนมมีประสิทธิภาพลดลง การเลือกใช้เครื่องปั๊มนมที่เหมาะสมและการปรับเทคนิคให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การปั๊มนมมีผลลัพธ์ที่ดี
การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนม การรับประทานน้ำอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดี
บางครั้งอาจมีสภาวะทางสุขภาพที่ทำให้การผลิตน้ำนมลดลง เช่น การติดเชื้อหรือโรคที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านการผลิตน้ำนมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีและการปั๊มนมมีผลลัพธ์ที่ดี
บทความที่น่าสนใจ: เผยเคล็ดลับ! เทคนิคเพิ่มน้ำนม และจัดตารางการปั๊มนมสำหรับ Working Mom!
คัดเต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออก เกิดจากสาเหตุอะไร
อาการคัดเต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออก น่าจะเกิดจากท่อน้ำนมอุดตัน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคุณแม่ให้นมบุตร โดยการที่ท่อน้ำนมอุดตันนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การระคายเคืองในท่อน้ำนมสามารถเกิดจากการไม่พอใจหรือความผิดปกติในการถ่ายน้ำนม ทำให้น้ำนมสะสมในท่อน้ำนมและสร้างอุดตัน นอกจากนี้ การระคายเคืองอาจเกิดจากการให้นมที่ไม่ถูกวิธีหรือการไม่ได้ให้นมบ่อยพอ ทำให้น้ำนมไม่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
การติดเชื้อในท่อน้ำนมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการอุดตัน เช่น เชื้อแบคทีเรียที่เข้าทำลายท่อน้ำนมหรือการติดเชื้อจากแผลหรือแผลขนาดเล็กในหน้าอก การติดเชื้อเหล่านี้อาจทำให้เกิดการอักเสบและการอุดตันของท่อน้ำนม นอกจากนี้ อาจมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ติดเชื้อ
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายสามารถทำให้ท่อน้ำนมตึงและเกิดอุดตันได้ เช่น การใช้ฮอร์โมนในการคุมกำเนิด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงหลังคลอด หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน
-
การใช้เครื่องปั๊มน้ำนมไม่ถูกวิธี
การใช้เครื่องปั๊มน้ำนมที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้น้ำนมสะสมและทำให้เกิดอุดตันได้ เช่น การใช้แรงดูดที่แรงเกินไปหรือการใช้เครื่องปั๊มที่ไม่สะอาด นอกจากนี้ การใช้เครื่องปั๊มที่ไม่ตรงกับขนาดเต้านมอาจทำให้ท่อน้ำนมไม่สามารถถ่ายน้ำนมออกมาได้หมด
บทความที่น่าสนใจ: ทำความรู้จัก เครื่องปั๊มนม ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมเกลี้ยงเต้ามากขึ้น
เทคนิคการใช้เครื่องปั๊มน้ำนมอย่างถูกวิธี
การใช้เครื่องปั๊มน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่ต้องการเก็บน้ำนมให้ลูกหรือต้องการกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การปั๊มน้ำนมอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณแม่สามารถเก็บน้ำนมได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่เต้านม เช่น การอักเสบของเต้านม (Mastitis) หรือการอุดตันของท่อน้ำนม นี่คือรายละเอียดขั้นตอนและคำแนะนำในการใช้เครื่องปั๊มน้ำนมอย่างถูกวิธี
1. การเตรียมความพร้อม
- ล้างมือให้สะอาด: ก่อนใช้เครื่องปั๊มน้ำนม ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเปล่าหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่มือของเรา
- ตรวจสอบและทำความสะอาดอุปกรณ์: ตรวจสอบเครื่องปั๊มน้ำนมและส่วนประกอบต่าง ๆ ให้แน่ใจว่าสะอาดและถูกประกอบอย่างถูกต้อง ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทุกครั้งก่อนและหลังการใช้งาน
2. การปั๊มน้ำนม
- การเลือกสถานที่และตำแหน่งในการปั๊มน้ำนม: เลือกสถานที่ที่เงียบสงบและสะดวกสบาย เพื่อให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย
- นั่งในท่าที่สบายและผ่อนคลาย โดยหลังตรงและใช้หมอนรองหลังหากจำเป็น
3. ติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำนม
- ประกอบชิ้นส่วนเครื่องปั๊มตามคู่มือการใช้งานอย่างถูกต้อง
- วางถ้วยปั๊มบนเต้านมให้พอดีและแนบสนิท โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างระหว่างถ้วยปั๊มกับเต้านม เพื่อประสิทธิภาพในการปั๊มน้ำนม
4. การปรับความแรงของเครื่องปั๊มน้ำนม
- เริ่มต้นด้วยระดับความแรงต่ำสุดและค่อย ๆ เพิ่มความแรงตามความสะดวกสบาย
- หลีกเลี่ยงการปรับความแรงสูงเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บที่เต้านมและอาจทำให้เกิดการอักเสบได้
5. ระยะเวลาในการปั๊มน้ำนม
- ปั๊มน้ำนมแต่ละข้างประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าน้ำนมจะหยุดไหล
- สามารถสลับข้างปั๊มได้หากจำเป็น โดยให้ปั๊มน้ำนมข้างหนึ่งในขณะที่พักข้างหนึ่ง เพื่อให้เต้านมทั้งสองข้างได้รับการกระตุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
6. หลังการปั๊มน้ำนม
- การทำความสะอาดอุปกรณ์ ล้างและฆ่าเชื้อส่วนประกอบของเครื่องปั๊มน้ำนมทุกครั้งหลังใช้งาน โดยใช้สบู่และน้ำอุ่นในการล้าง และนำไปต้มในน้ำเดือดหรือใช้เครื่องฆ่าเชื้อเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- การเก็บรักษาน้ำนม ควรเก็บน้ำนมในขวดหรือถุงเก็บน้ำนมที่สะอาดและมีฝาปิดแน่น เพื่อป้องกันการปนเปื้อน เขียนวันที่และเวลาที่ปั๊มน้ำนมบนขวดหรือถุงเพื่อความสะดวกในการใช้งานภายหลัง ควรเก็บน้ำนมในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งตามคำแนะนำเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนม
การปั๊มน้ำนมอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้คุณแม่สามารถเก็บน้ำนมได้มากขึ้น แต่ยังช่วยรักษาสุขภาพของเต้านมและส่งเสริมการผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย
วิธีนวดเต้าก่อนปั๊มนม
การนวดเต้าก่อนการปั๊มนมมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น ท่อน้ำนมอุดตันหรือเต้านมอักเสบ การนวดที่ถูกวิธีสามารถทำให้กระบวนการปั๊มนมมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่คือขั้นตอนที่ละเอียดและคำแนะนำเพิ่มเติม
การเตรียมตัวและทำให้ร่างกายผ่อนคลาย
- หาที่นั่งหรือพื้นที่ที่สะดวกสบาย: เลือกที่นั่งที่มีพนักพิงหรือหมอนรองหลังให้คุณนั่งได้สบาย หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดังหรือมีสิ่งรบกวน
- การหายใจลึก: หายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูกและหายใจออกช้า ๆ ผ่านปาก ทำซ้ำประมาณ 5-10 ครั้ง การหายใจลึกจะช่วยลดความเครียดและทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย
การเตรียมเต้านม
- การใช้ความร้อน: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น (ไม่ร้อนจนเกินไป) หรือเจลทำความร้อนที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเต้านม วางบนเต้านมประมาณ 5-10 นาที ความร้อนจะช่วยขยายเส้นเลือดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้ท่อน้ำนมคลายตัวและเปิดได้ง่ายขึ้น
- การใช้เจลหรือครีมนวด: เลือกใช้เจลหรือครีมนวดที่ปลอดภัยและออกแบบมาเฉพาะสำหรับการนวดเต้านม เพื่อให้การนวดลื่นไหลและไม่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง
การนวดเต้านม
- การนวดแบบวงกลม: ใช้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างจับเต้านมและทำการนวดเบา ๆ โดยเริ่มจากฐานเต้านมแล้วค่อย ๆ เคลื่อนไหวเป็นวงกลมรอบ ๆ เต้านม ทำเป็นวงกลมจากภายในไปยังภายนอก เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของเต้านม
- การนวดแบบจังหวะ: นวดเต้านมในลักษณะการกดเบา ๆ และปล่อยเป็นจังหวะ เริ่มจากฐานของเต้านมแล้วค่อย ๆ นวดไปยังหัวนม การนวดแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำนมและกระตุ้นต่อมน้ำนมให้ทำงาน
การนวดตรงท่อน้ำนม
- การค้นหาท่อน้ำนมที่อุดตัน: ใช้ปลายนิ้วกดเบา ๆ และทำการนวดตามท่อน้ำนมที่รู้สึกว่ามีก้อนหรือรู้สึกว่ามีท่อน้ำนมอุดตัน ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ในการกดและนวดเบา ๆ เพื่อช่วยเปิดท่อน้ำนม
- การนวดท่อน้ำนมทั้งหมด: นวดทั้งท่อน้ำนมโดยใช้ปลายนิ้วในการกดและนวดเบา ๆ จากฐานเต้านมไปยังหัวนม เพื่อให้การไหลเวียนของน้ำนมเป็นไปอย่างราบรื่น นวดทุกส่วนของเต้านมเพื่อแน่ใจว่าไม่มีท่อน้ำนมอุดตันที่อาจจะพลาดไป
การดึงนม
- การดึงนมเบา ๆ: ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือจับรอบหัวนมแล้วดึงเบา ๆ ในลักษณะการดึงเหมือนการดึงเชือก การดึงเบา ๆ จะช่วยกระตุ้นการปล่อยน้ำนม ควรทำเบา ๆ และระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บที่หัวนม
- การกระตุ้นด้วยการบีบ: บีบเบา ๆ รอบหัวนมเพื่อกระตุ้นให้ท่อน้ำนมปล่อยน้ำนมออกมา การบีบแบบนี้จะช่วยให้การปั๊มนมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสลับข้าง
- นวดทั้งสองข้าง: ทำการนวดทั้งสองข้างของเต้านมเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด การนวดสลับข้างจะช่วยกระตุ้นให้การผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นทั้งสองข้าง และช่วยให้ท่อน้ำนมไม่อุดตัน
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่ปั๊มนม
คุณแม่ควรทำการนวดเป็นประจำ และควรทำการนวดเต้านมอย่างน้อย 10-15 นาทีก่อนการปั๊มนม เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด นอกจากนี้ควรรักษาความชุ่มชื้นโดยดื่มน้ำเพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและส่งเสริมร่างกายให้พร้อมสำหรับการผลิตน้ำนม แต่อย่างไรก็ตามอย่าละเลยข้อควรระวังสำหรับคุณแม่ปั๊มนม โดยคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการนวดหนัก หลีกเลี่ยงการนวดหนักเกินไปเพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือการอักเสบ การนวดเต้าก่อนปั๊มนมอย่างถูกต้อง สามารถช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม ลดปัญหาน้ำนมอุดตัน และทำให้การปั๊มนมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ให้บริการสุขภาพเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม
ที่มา: my.clevelandclinic.org, blog.lactapp.es, mayoclinichealthsystem.org
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
แจก! ตารางปั๊มนม สำหรับคุณแม่มือใหม่ ปั๊มแบบไหนไม่ระบมเต้านม
เผยทริค! ปั๊มนมยังไงให้ถูกวิธี น้ำนมแม่สามารถเก็บได้นานแค่ไหน?
แนะนำ 8 เครื่องปั๊มนมไฟฟ้ายอดนิยม ปี 2024 ตอบโจทย์คุณแม่ที่มีเวลาน้อย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!