เมื่อลูกน้อยก้าวเข้าสู่วัย 5 ขวบ พ่อแม่หลายท่านอาจเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ลูกดูเหมือนจะมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น และแสดงออกอย่างชัดเจนผ่านการ “เถียง” ซึ่งอาจสร้างความหนักใจให้กับพ่อแม่ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม การเถียงของลูกน้อยวัย 5 ขวบนั้น ไม่ได้เป็นเพียงพฤติกรรมที่น่าปวดหัว แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่สำคัญที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ บทความนี้จะพาพ่อแม่ทุกท่านไปสำรวจและทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ ลูกชอบเถียง ซึ่งมีทั้งปัจจัยด้านพัฒนาการตามวัย และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เรายังมีแนวทางการรับมือและวิธีการปรับพฤติกรรมลูกน้อยให้ดีขึ้น เพื่อให้การเถียงของลูกน้อยเป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

พัฒนาการของ วัย 5 ขวบ ทำไม? ลูกชอบเถียง ลูกเถียงเก่ง
ลูกน้อยอยู่ในช่วงวัย 3-5 ขวบ เป็นวัยที่มีความเป็นตัวของตัวเองมาก พัฒนาการทั้งทางร่างกายและทางภาษาก็ก้าวหน้ามากขึ้น มีการพัฒนาทักษะในการรับรู้ทางความคิด สติปัญญา และความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังไม่รู้หรือไม่เข้าใจความควรไม่ควรในบทบาทของตัวเองนัก ลูกน้อยวัยนี้จึงมัก “อยากทดลองทำ” อะไรหลายๆ อย่างเพื่อทดสอบพลังของตัวเอง และสังเกตผลลัพธ์ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งการแสดงออกทางพฤติกรรมของลูกจะเป้นอย่างไร มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานอารมณ์ของลูก ประกอบกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างการเลี้ยงดูของพ่อแม่ด้วยค่ะ ในช่วงที่พัฒนาการสำคัญหลายด้านกำลังเติบโตนี้เอง ทำให้วัย 5 ขวบมีพฤติกรรม “เถียงเก่ง” ลูกชอบเถียง ด้วย
|
ทำไม ลูกชอบเถียง พัฒนาการด้านต่างๆ ของ วัย 5 ขวบ
|
พัฒนาการด้านความคิด |
- เริ่มมีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น
- แยกแยะและเข้าใจความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องต้องการแสดงออกถึงความคิดเห็นของตนเอง
- อาจใช้การเถียงเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร
|
พัฒนาการด้านภาษา |
- คำศัพท์ในคลังสมองมากขึ้น
- สามารถสื่อสารความคิดและความต้องการของตนเองได้อย่างชัดเจน
- ถามและตอบคำถามที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ เช่น สามารถให้เหตุผลเมื่อถูกถามว่าทำไม
- การเถียงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการสื่อสารที่ลูกนำมาใช้
|
พัฒนาการด้านสังคม |
- เริ่มให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับผู้อื่น
- ต้องการเป็นที่ยอมรับและต้องการมีบทบาทในการตัดสินใจ
- การเถียงจึงเป็นวิธีหนึ่งที่เด็กใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองก็มีความคิดเห็นที่สำคัญ
|
พัฒนาการด้านอารมณ์ |
- เริ่มมีความเข้าใจในอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น
- อาจใช้การเถียงเพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ไม่พอใจ หรือต้องการเรียกร้องความสนใจ
|
นอกจากพัฒนาการตามวัยแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้วัย 5 ขวบเป็น ลูกชอบเถียง ลูกเถียงเก่ง ได้แก่
- การต้องการแสดงออก ลูกต้องการแสดงให้เห็นว่าตนเองมีความคิดเห็นที่แตกต่างและต้องการได้รับการยอมรับ
- การเรียกร้องความสนใจ อาจใช้การเถียงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่รอบข้าง
- การเลียนแบบ ลูกอาจเลียนแบบพฤติกรรมการเถียงจากคนในครอบครัว หรือจากสื่อต่างๆ ที่มีโอกาสได้พบเห็น
- ความเครียด หรือความกดดัน อาจผลักให้ลูกแสดงพฤติกรรมการเถียงออกมาเมื่อรู้สึกเครียด หรือกดดันจากสถานการณ์ต่างๆ

6 วิธีรับมือ ลูกชอบเถียง ลูกเถียงเก่ง
เมื่อไรก็ตามที่ลูกน้อยเริ่ม “เถียง” หรือ “ต่อรอง” อาจเป็นพฤติกรรมที่กระตุกต่อมโกรธของคุณพ่อคุณแม่ จนตอบสนองลูกชอบเถียงกลับไปด้วยอารมณ์ หลายครั้ง… อาจจบลงด้วยความรุนแรงทางวาจา หรือร่างกาย เพื่อให้ลูกหยุดเถียง ซึ่งไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องค่ะ เนื่องจากอาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวในระยะยาวได้ แต่การจะยอมให้ลูกเถียงได้แบบไม่มีอะไรกั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเช่นกัน วันนี้เลยจะพามาดู วิธีรับมือลูกชอบเถียง ลูกเถียงเก่ง แบบเข้าใจ ไม่กระทบพัฒนาการลูกกันค่ะ
-
ใจเย็นและอดทน
พ่อแม่ควรใจเย็นและอดทนต่อพฤติกรรมการเถียงของลูกน้อย พยายามทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ ลูกชอบเถียง ลูกเถียงเก่ง และตอบสนองอย่างใจเย็น รู้เท่าทันความรู้สึกของตนเอง ไม่ใช่อารมณ์กับลูก แต่ต้องนิ่งให้เป็น รับฟังลูกก่อนเพื่อทำความเข้าใจแม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม
-
ตั้งใจรับฟัง อย่างเข้าใจ
พ่อแม่ควรรับฟังความคิดเห็นของลูกน้อยอย่างตั้งใจ แม้ว่าจะเป็นความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความคิดตัวเองก็ตาม เพื่อให้เข้าใจมุมมองและทางเลือกของลูกที่อาจไม่ตรงกับสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ อย่าละเลยการเคารพตัวตนและทางเลือกของลูก โดยเฉพาะเรื่องของรสนิยม การแต่งกาย ความชื่นชอบ ฟังสิ่งที่ลูกมองต่างจากเราให้มากพอ พร้อมๆ กับอธิบายมุมมองของพ่อแม่ในเรื่องเดียวกันด้วย
-
มีขอบเขต มีกฎบ้านที่ชัดเจน
พ่อแม่ควรกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนว่าการเถียงแบบไหนที่ยอมรับได้ เถียงแบบไหนไม่เหมาะสม เช่น การเถียงต้องไม่มีคำหยาบ เถียงโดนไม่ใช้เสียงตะคิก ตะโกน กรีดร้อง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ทำร้ายคนอื่น และไม่ทำลายข้าวของ ต่อรองได้แต่ต้องมีเหตุผลรองรับ ไม่ใช่เถียงไปเรื่อยแบบไร้ขอบเขต ซึ่งกฎที่ตั้งขึ้นนี้ต้องบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกัน
-
สอนให้ลูกน้อยรู้จักการใช้เหตุผล
ควรสอนให้ลูกน้อยรู้จักการใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็น รวมถึงยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องสะท้อนให้ลูกได้รับรู้ว่าการใช้คำพูดหรือการสื่อสารของเรามีผลต่อความรู้สึกนึกคิดของคนที่ได้รับฟังเสมอ สิ่งที่พูดออกไปโดยใช้แต่อารมณ์ ขาดการไตร่ตรอง สามารถสร้างความเจ็บปวดภายในใจของคนฟังได้ ถ้ามีใครเถียงลูกแบบไม่มีเหตุผล ลูกก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน เป็นต้น
-
เป็นแบบอย่างที่ดี
พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงความคิดเห็นและการโต้แย้งอย่างมีเหตุผล เช่น เวลาที่พูดคุยกันเองคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ เพราะพ่อแม่ที่ชอบใช้อารมณ์ และเถียงกันบ่อยๆ ลูกเลียนแบบแน่นอนค่ะ
-
ให้กำลังใจและชื่นชม
เมื่อลูกน้อยแสดงพฤติกรรมที่ดี หรือสามารถควบคุมการเถียงของตนเองได้ พ่อแม่ควรให้กำลังใจและชื่นชมเพื่อสร้างแรงกระตุ้นเชิงบวกแก่ลูกน้อยค่ะ

|
วิธีปลูกฝัง ลูกชอบเถียงให้ รู้จักใช้เหตุผล
|
ใช้คำถามนำ |
แทนที่จะบอกให้ลูกน้อยทำหรือไม่ทำอะไร ลองใช้คำถามนำเพื่อให้ลูกน้อยคิดและหาเหตุผลด้วยตนเอง |
ยกตัวอย่าง |
ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเพื่อให้ลูกน้อยเข้าใจถึงผลลัพธ์ของการกระทำต่างๆ |
สอนคำศัพท์ |
สอนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เหตุผล เช่น “เพราะว่า”, “ดังนั้น” , “ถ้า” , “แต่” |
เล่นเกม |
เล่นเกมที่ส่งเสริมการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ เช่น เกมตัวต่อ เกมทายคำ ความสนุกจากเกมจะทำให้ลุกซึมซับสิ่งที่พ่อแม่สอนได้ง่ายขึ้นค่ะ |
ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ให้ลูก ลดการเถียง
- สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและปลอดภัย บรรยากาศในครอบครัวที่อบอุ่นและปลอดภัย จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกมั่นใจที่จะแสดงออกถึงความคิดเห็นของตนเองได้ดีค่ะ
- ส่งเสริมกิจกรรมที่ลูกน้อยสนใจ การสนับสนุนให้ลูกน้อยทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจ สามารถเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง และลดความต้องการที่จะเรียกร้องความสนใจได้ การเถียงก็จะลดลงค่ะ
- เสริมทักษะทางสังคม การสอนทักษะทางสังคมที่จำเป็นให้กับลูกน้อย เช่น การฟัง การพูด การแบ่งปัน และการประนีประนอม ช่วยให้ลูกเข้าใจผู้อื่น มีการคิดอย่างมีเหตุผล และไตร่ตรองก่อนพูด

ตามหลักพัฒนาการแล้ว ลูกชอบเถียงนับได้ว่าเป็นเด็กที่ปฏิเสธเป็นนะคะ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ การพูดว่า “ไม่” คือความสามารถที่ช่วยสร้าง “ตัวตน” ของลูก เพราะลูกเรียนรู้ว่าคำพูด การกระทำ หรือเสียงร้อง ของตัวเองทำให้ลูกมีพลังแห่งการต่อรองกับพ่อแม่ เมื่อต้องการความมั่นใจ ความรู้สึกว่ามีอำนาจพอที่จะควบคุมสิ่งรอบข้างได้ ลูกจึงมักพูดคำว่า “ไม่” และเริ่มเถียง เริ่มร้องไห้ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แสดงว่าลูกมีความกล้ามากพอที่จะบอกความต้องการได้ สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือ สอนให้ลูกเถียงให้เป็น คุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือความเกรี้ยวกราด ภายใต้เงื่อนไขและกฎกติกาของบ้าน อย่าให้การเถียงของลูกผ่านไปเฉยๆ แต่ต้องสอนให้ลูกเถียงเป็น พูดความต้องการ และเจรจาให้เป็นด้วยค่ะ เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : www.praram9.com , www.thaipbskids.com , เลี้ยงลูกตามใจหมอ , www.phyathai.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เช็กสัญญาณเสี่ยง! ออทิสติกเทียม รีบแก้ไข ก่อนเป็นภัยคุกคามพัฒนาการลูก
6 เรื่องต้องห้าม! หยอกล้อเด็ก กระทบ Self-Esteem แหย่เด็กเล่น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ผลเสียจากการตะโกนใส่ลูก บาดแผลทางใจที่มองไม่เห็น
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!