X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้

บทความ 8 นาที
7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้

ในยุคที่โลกเปลี่ยน ถ้าอยากให้ลูกอยู่รอดได้ "การคิดเป็น คิดได้" คิดแบบ Logical Thinking สำคัญมาก มาดู 7 วิธีสอนลูกให้รู้ผิดถูก รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้ ในสังคมโลกกันค่ะ

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย การสอนลูกให้มี Logical Thinking คิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ซึ่งการสอนลูกให้อยู่เป็น คิดได้ คิดวิเคราะห์ คิดเปรียบเทียบผลดีผลเสียอย่างรอบคอบ นับเป็นด่านแรกที่ป้องกันลูกจากภัยต่างๆ ทุกๆ ด้วยตนเอง มาดู 7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้ ในยุคที่โลกเปลี่ยน ไปพร้อมกันค่ะ

สอนให้ลูกมี Logical Thinking

▲▼สารบัญ

  • ข้อดีของการ สอนลูกให้มี Logical Thinking
  • “ให้” และ “สอน” ลูกน้อย ตามช่วงวัย สร้าง Logical Thinking รู้ถูกผิด อยู่เป็น คิดได้  
  • “ให้” ในสิ่งที่ลูกต้องการ “ตามวัย” เมื่อต้องออกไปเผชิญโลก
  •  “สอน” และช่วยเหลือลูกน้อยตามช่วงวัยอย่างเหมาะสม
  • 7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้
  • 1. ตั้งคำถาม
  • 2. เล่นสนุกแล้วต้องได้ประโยชน์ด้วย
  • 3. อธิบายเหตุผล ให้ลูกรู้ถูกผิด
  • 4. ปลูกฝัง Empathy ให้ลูกรู้จักเห็นใจผู้อื่น
  • 5. สอนลูกให้รู้จักหน้าที่ และมีวินัย
  • 6. สอนให้ลูกรู้จักรับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
  • 7. ต้องมีความสม่ำเสมอ

ข้อดีของการ สอนลูกให้มี Logical Thinking

Advertisement

การปลูกฝังเรื่อง Logical Thinking ให้ลูกนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็กค่ะ โดยเฉพาะช่วงวัย 2-3 ขวบ ที่กำลังช่างคิด ช่างสงสัย อยากรู้ อยากลอง และมีพฤติกรรมที่ท้าทายหลากหลาย ซึ่งข้อดีของการสอนลูกให้มี Logical Thinking มีดังนี้

  • พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา การรู้จักคิดอย่างมีเหตุผลจะช่วยให้ลูกสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ และหาทางแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มความมั่นใจในตนเอง เมื่อลูกสามารถคิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง จะทำให้มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
  • เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดแบบมีเหตุผล มี Logic เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลและในอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ
  • สร้างภูมิคุ้มกันให้กับข้อมูลที่ผิด ในยุคที่ Fake News ต่างๆ แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว การคิดวิเคราะห์ คิดเป็น คิดอย่างมีเหตุมีผล จะช่วยให้ลูกสามารถแยกแยะข้อมูลที่ถูกต้องน่าเชื่อถือออกจากข้อมูลที่ผิดพลาดได้

สอนให้ลูกรู้หน้าที่

“ให้” และ “สอน” ลูกน้อย ตามช่วงวัย สร้าง Logical Thinking รู้ถูกผิด อยู่เป็น คิดได้  

การจะสร้าง Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้ ในยุคที่โลกเปลี่ยน ให้แก่ลูกน้อยนั้น ไม่ใช่ว่าจะสอนกันได้แบบปุบปับ นึกอยากสอนเมื่อไรก็พูด สอน จัดแจง ตามใจได้นะคะ แต่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องค่อยๆ ให้ลูกเริ่มเรียนรู้ตามศักยภาพของช่วงวัยค่ะ เรามีเทคนิคการ “ให้” และ “สอน” เพื่อสร้าง Logical Thinking มากฝาก ดังนี้ค่ะ

  • “ให้” ในสิ่งที่ลูกต้องการ “ตามวัย” เมื่อต้องออกไปเผชิญโลก

ช่วงวัยของลูกน้อย สิ่งที่ลูกต้องการตามวัย
0-2 ปี ต้องการความมั่นคงทางจิตใจ ต้องการความเชื่อมั่นว่าพ่อแม่จะอยู่ตรงนั้นในยามที่ลูกต้องการ เช่น เมื่อหิวนม แม่ให้นมกิน เวลารู้สึกไม่สบายตัว พ่อแม่ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ และเมื่อร้องไห้ พ่อแม่จะคอยโอบอุ้ม ปลอบโยน ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูก เพื่อสร้างพื้นฐานจิตใจที่มั่นคงให้ลูกก่อนเป็นอันดับแรก
3-5 ปี เริ่มเรียนรู้โลกภายนอกบ้าน พ่อแม่ควรพาลูกน้อยออกไปสัมผัส รับรู้ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่ไม่รู้จัก รวมทั้งต้องอยู่เคียงข้างในขณะที่ลูกกำลังเรียนรู้โลกใบกว้างด้วยค่ะ
6-8 ปี ลูกวัยนี้ต้องการต้นแบบให้ได้ทำตามค่ะ เริ่มมีการเรียนรู้สังคม การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ขณะเดียวกันก็เริ่มพัฒนาความชอบความสนใจของตนเองด้วย พ่อแม่จึงต้องเป็นแบบอย่างให้กับลูก ไม่ต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบหรอกค่ะ แต่เป็นคนที่รู้ว่าเราผิดพลาดได้ ยอมรับผิด ขอโทษ แก้ไข และเดินหน้าต่อไป อดทนและพยายามให้ลูกเห็น เพื่อลูกจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่พยายามเพื่อสิ่งที่ตนรัก และไม่กลัวการทำผิดพลาด

 

  •  “สอน” และช่วยเหลือลูกน้อยตามช่วงวัยอย่างเหมาะสม

ช่วงวัยของลูกน้อย สิ่งที่ควรสอนและให้ความช่วยเหลือ
เด็กเล็ก 3-5 ปี สอนหรือบอกลูกเป็นขั้นตอนอย่างละเอียด โดยคอยให้ความช่วยเหลือในแทบทุกขั้นตอน เช่น ให้ลูกหยิบน้ำให้ ควรบอกลูกว่า “ลูกหยิบแก้วออกมาวางก่อนนะ แล้วเปิดตู้เย็น แล้วหยิบขวดน้ำมาให้แม่”
วัย 6-10 ปี พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องกำกับหรือสอนลูกขั้นตอนเหมือนช่วงวัยเด็กเล็ก แต่ควรปล่อยให้ลูกได้ลงมือทำเอง แล้วผู้ช่วยกำหนดเป้าหมาย หรือบอกความคาดหวังว่าต้องการให้ลูกทำอะไร เช่น “แม่หิวน้ำจัง ลูกช่วยไปหยิบน้ำมาให้แม่หน่อยได้ไหมจ๊ะ” แล้วปล่อยให้ลูกจัดการด้วยตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ก็พอค่ะ

 

ทั้งนี้ การเปิดโอกาสให้ลูกได้ฝึกทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ตัดสินใจเอง บ่อยมากขึ้นตามช่วงวัย แม้จะเกิดข้อผิดพลาด ก็ยังสามารถมองเชิงบวกได้ว่าผิดพลาดตอนนี้ ดีกว่าไม่เคยผิดพลาดเลย แล้วไปผิดพลาดครั้งใหญ่ในยามที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ที่สำคัญ ลูกจะได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองด้วยค่ะ

เปิดโอกาสให้ลูกได้คิด แสดงความเห็น

7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้

ลูกจะมี Logical Thinking ไหม สามารถคิดเป็นเหตุเป็นผล รู้ผิดถูก รู้หน้าที่หรือเปล่า เริ่มจาก “Role Model” อย่างคุณพ่อคุณแม่ก่อนเลยค่ะ ที่จะต้องเป็นพ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดี มีคิดวิเคราะห์ให้ลูกเห็นอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการบังคับ แต่ให้ลูกคิด เลือก และลองทำ แล้วค่อยกระตุ้นสร้างการเรียนรู้ และสอนลูกให้มี Logical Thinking ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. ตั้งคำถาม

เป็นการกระตุ้นให้ลูกคิดและหาคำตอบด้วยตัวเอง เช่น ทำไมคนเราต้องกินข้าวนะ? ทำไมกลับจากโรงเรียนแล้วต้องทำการบ้าน? เราอาบน้ำเพื่ออะไร? ให้ลูกได้คิดเชื่อมโยงว่าคำถามเหล่านี้น่าจะมีสาเหตุจากอะไร มีผลลัพธ์แบบไหนได้บ้าง ซึ่งนอกจากการตั้งคำถามของตัวเองแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องสนับสนุนส่งเสริมให้ลูกตั้งคำถามกลับมาได้ด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างให้ลูกกล้าตั้งคำถาม และต้องตอบคำถามของลูกอย่างตรงไปตรงมา พร้อมมีเหตุผลรองรับ

2. เล่นสนุกแล้วต้องได้ประโยชน์ด้วย

ความสนุกของลูกแน่นอนว่าเกิดจากความบันเทิงต่างๆ ในชีวิตค่ะ ทั้งการอ่านนิทาน เล่นเกม เล่นของเล่น ฯลฯ ดังนั้น หากจะให้ลูกสามารถเล่นสนุกโดยได้ประโยชน์ในการสร้าง Logical Thinking ด้วย ควรชวนลูกเล่นเกมที่ฝึกการคิดวิเคราะห์ เกมปริศนา เกมกระดาน การเล่นต่อเลโก้ เพื่อฝึกให้ลูกคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา รวมถึงชวนกันอ่านหนังสือนิทาน หรือบทความที่หลากหลาย จะช่วยเปิดโลกทัศน์และกระตุ้นให้ลูกคิดวิเคราะห์ให้ลูกได้ ที่สำคัญอย่าลืมกระตุ้นให้เกิดการอภิปราย discuss ระหว่างกันในเรื่องราวต่างๆ ที่อ่าน จะช่วยให้ลูกได้ฝึกคิดและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครอบครัวค่ะ

เล่นสนุกแต่ได้ประโยชน์เรื่องทักษะการคิด

3. อธิบายเหตุผล ให้ลูกรู้ถูกผิด

เมื่อไรก็ตามที่ลูกน้อยทำสิ่งที่ผิด คุณพ่อคุณแม่ควรใช้วิธีอธิบายพร้อมให้เหตุผลว่า ทำไมการกระทำนั้นจึงผิด ไม่ใช่แค่การลงโทษ แต่ต้องบอกจุดที่ผิด สิ่งที่ถูก พร้อมให้โอกาสลูกได้แก้ไขและเรียนรู้จากความผิดพลาดเสมอ เมื่อมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่เหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน ลูกจะได้นำประสบการณ์ที่ความผิดพลาดที่เคยเจอมาต่อยอดทางความคิด แล้ววิเคราะห์ก่อนที่จะเลือกลงมือทำอย่างถูกต้องเหมาะสมค่ะ

4. ปลูกฝัง Empathy ให้ลูกรู้จักเห็นใจผู้อื่น

การสอนให้ลูกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นจะช่วยให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อสังคมค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเข้าใจความเหมือนและแตกต่าง ข้อดีข้อด้อยของคนแต่ละคน ยกย่องพฤติกรรมที่ดี ตำหนิสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เมื่อลูกทำดี ก็ชมเชยและให้กำลังใจ เมื่อพ่อแม่ทำผิดพลาดก็รู้จักขอโทษ ให้ลูกเห็นว่าเป็นสิ่งธรรมดาที่ทุกคนจะทำถูก ทำผิด ดีใจ เสียใจ สิ่งที่สำคัญคือเราไม่เยาะเย้ย ถากถาง แต่ต้องเข้าใจ ให้ความเห็นอกเห็นใจ ให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกทำดีต่อไปอย่างมีความสุขและรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น

5. สอนลูกให้รู้จักหน้าที่ และมีวินัย

หน้าที่และระเบียบวินัยสร้างได้ตั้งแต่ยังเล็ก เริ่มจากหน้าที่ต่อตัวเอง โดยสอนให้ลูกรู้จักแปรงฟัน กินอาหารตรงเวลา เก็บของเล่นเข้าที่ทุกครั้ง ไปจนถึงสามารถอาบน้ำแต่งตัวเองได้ และแบ่งเบาภาระงานบ้านของคุณพ่อคุณแม่ได้ ซึ่งการให้ลูกได้ดูแลรับผิดชอบร่างกายและของใช้ของตัวเอง รวมถึงมีส่วนร่วมในการทำงานบ้าน จะช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องความรับผิดชอบ หน้าที่ และระเบียบวินัยที่พึงมีในบ้านและในสังคมได้

6. สอนให้ลูกรู้จักรับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

อย่างที่บอกค่ะว่าโลกยุคนี้มีข้อมูลพุ่งเข้าหาเราทุกวัน ทุกช่องทาง การสอนให้ลูกรู้จักกลั่นกรองข้อมูล รวมถึงหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ คิดวิเคราะห์ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ สามารถรับสื่ออย่างฉลาด รู้ถูกผิด เป้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกอยู่รอดได้ในสังคม เรามีเทคนิคการสอนให้ลูกรับสื่ออย่างฉลาด เท่าทัน มาฝากกันด้วยค่ะ

เทคนิคสอนให้ลูกคิดเป็น รับสื่ออย่างฉลาด รู้ถูกผิด
เปิดโอกาสและรับฟัง เริ่มจากเปิดโอกาสให้ลูกได้รับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจบ้างอย่างเหมาะสม แล้วเปิดใจรับฟังสิ่งที่ลูกสนใจ ให้ลูกได้บอกเล่าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ นับเป็นการเริ่มต้นให้ลูกรู้จักคิด และอธิบาย
เปิดประเด็น ในช่วงที่ลูกรับข้อมูลจากสื่อต่างๆ ควรเป็นเวลาของครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ต้องอยู่ด้วย แล้วเปิดประเด็นชวนคุยเกี่ยวกับข้อมูลที่ลูกได้รับ เพื่อกระตุ้นให้ลูกคิด นั่งดูการ์ตูน ดูซีรีส์กับลูก แล้วตั้งประเด็นพูดคุยกับลูกจากสิ่งที่เห็น ลูกรู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวมนการ์ตูน หรือคิดว่าโฆษณานี้เป็นจริงได้ไหม ฯลฯ
เปิดทางเลือก ค่อยๆ ชี้ให้ลูกวิเคราะห์ แยกแยะข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมาว่าควรเชื่อหรือไม่เพราะอะไร ข้อดีข้อเสียคืออะไร ผลที่ตามมาสามารถเกิดอะไรต่อไปได้บ้าง มีทางเลือกอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ไหม ช่วยกันคิดหาทางเลือกหลายๆ ทาง เพื่อให้ลูกเห็นตัวอย่างของการคิดหลายแง่มุม และคิดอย่างรอบคอบ จะช่วยสร้างเกราะป้องกันการรักข้อมูลต่างๆ ให้ลูกได้ค่ะ

7. ต้องมีความสม่ำเสมอ

Logical Thinking ไม่ได้เกิดขึ้นได้ภายในวันเดียวค่ะ เพราะนี่คือลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้าง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นฝึกฝน ปรับพฤติกรรมลูกน้อยไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งมอบคำชื่นชมและให้กำลังใจเวลาลูกทำดี เมื่อทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรก็สอนด้วยเหตุผล ไม่ต่อว่าด้วยอารมณ์ เพราะทุกอย่างในชีวิตคือการเรียนรู้ สิ่งที่ควรโฟกัสจึงควรเป็น “ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้าง จากการกระทำนั้นๆ” เพื่อให้ลูกนำมาปรับและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

สอนให้ลูกคิดเป็น

การสอนให้ลูกคิดวิเคราะห์ รู้ผิดรู้ถูก และรู้จักหน้าที่ เป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ มีความคิดเป็นของตัวเอง และสามารถปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความอดทน ปรับเปลี่ยนและเลือกวิธีการสอนที่เหมาะสมกับบุคลิกของลูกเสมอ และเป็นการสอนและฝึกฝนในบรรยากาศที่ไม่ตึงเครียด ไม่บังคับ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากการได้แลกเปลี่ยนความคิด ความเข้าใจในครอบครัวที่เปิดกว้างค่ะ

 

 

ที่มา : สารพันปัญหาการเลี้ยงลูก , www.thaihealth.or.th , ตามใจนักจิตวิทยา , www.si.mahidol.ac.th

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 วิธี สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ปลูกฝังความเข้มแข็งให้ลูกน้อย

ทำไมเด็กไทยพบจิตแพทย์เพิ่มขึ้น หรือ “พ่อแม่ Toxic” มีส่วนทำลูกจิตป่วย?

ให้เกียรติลูกบนโลกออนไลน์ ขออนุญาตก่อนโพสต์ สร้างพื้นที่ปลอดภัย และส่งเสริมพัฒนาการ

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • การเลี้ยงลูก
  • /
  • 7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้
แชร์ :
  • เมื่อห้างกลายเป็นสมรภูมิ! ลูกงอแงกลางห้าง แม่ต้องเอาไงต่อ?

    เมื่อห้างกลายเป็นสมรภูมิ! ลูกงอแงกลางห้าง แม่ต้องเอาไงต่อ?

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

  • เลี้ยงลูกแบบเทวดา เท่ากับ ทำร้ายลูกแบบซาตาน

    เลี้ยงลูกแบบเทวดา เท่ากับ ทำร้ายลูกแบบซาตาน

  • เมื่อห้างกลายเป็นสมรภูมิ! ลูกงอแงกลางห้าง แม่ต้องเอาไงต่อ?

    เมื่อห้างกลายเป็นสมรภูมิ! ลูกงอแงกลางห้าง แม่ต้องเอาไงต่อ?

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

  • เลี้ยงลูกแบบเทวดา เท่ากับ ทำร้ายลูกแบบซาตาน

    เลี้ยงลูกแบบเทวดา เท่ากับ ทำร้ายลูกแบบซาตาน

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว