เมื่อถึงกำหนดคลอดแล้วแต่ปากมดลูกยังไม่เปิด หรือยังไม่มีอาการเจ็บท้องคลอดที่ชัดเจน คุณหมออาจแนะนำให้ “กระตุ้นปากมดลูก” เพื่อช่วยเร่งกระบวนการคลอดให้เป็นไปตามธรรมชาติ และคุณแม่ก็มักจะสงสัยว่า กระตุ้นคลอดเจ็บไหม กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด บทความนี้จะพาคุณแม่ไปหาคำตอบพร้อมกันค่ะ
กระตุ้นปากมดลูก คืออะไร?
การกระตุ้นปากมดลูก (Cervical Ripening) คือ กระบวนการที่ทำให้ปากมดลูกของคุณแม่นุ่มขึ้น บางลง และเริ่มเปิดออก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดลูกน้อย
ทำไมต้องกระตุ้นปากมดลูก?
- เมื่อปากมดลูกยังไม่พร้อมคลอด: แม้จะใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว แต่ปากมดลูกยังคงแข็งและปิดอยู่
- เมื่อเลยกำหนดคลอด: เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งแม่และเด็ก หากการตั้งครรภ์ดำเนินต่อไปนานเกินไป
- มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์: เช่น คุณแม่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง หรือมีข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ต้องคลอดก่อนกำหนด
กระตุ้นปากมดลูกแตกต่างจากการเร่งคลอดอย่างไร?
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการกระตุ้นปากมดลูกกับการเร่งคลอดคือสิ่งเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ
- การกระตุ้นปากมดลูก เป็นเหมือนขั้นตอนแรกของการเตรียมความพร้อม โดยเน้นที่การทำให้ปากมดลูกนุ่มและเปิดออก
- การเร่งคลอด (Induction of Labor) คือกระบวนการที่ทำให้เกิดการเจ็บท้องคลอดจริง ๆ ซึ่งอาจมีการใช้ยาหรือวิธีอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกหลังจากที่ปากมดลูกเริ่มพร้อมแล้ว หรือในบางกรณี การกระตุ้นปากมดลูกอาจนำไปสู่การเจ็บท้องคลอดได้เองโดยไม่ต้องเร่งคลอดเพิ่มเติม

หมอกระตุ้นปากมดลูกอย่างไร?
-
ใช้ยากลุ่ม Prostaglandins
เช่น ยา Dinoprostone หรือ Misoprostol ยาเหล่านี้จะช่วยให้ปากมดลูกนุ่มลงและเริ่มเปิดออก โดยยาจะมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบ เจล ที่คุณหมอจะสอดเข้าไปในช่องคลอด, แบบ ยาเม็ด ที่ใช้สอดช่องคลอดหรือรับประทาน, และบางครั้งอาจมีแบบ สายสอด ที่ใส่เข้าไปใกล้ปากมดลูก กลไกของยาคือการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารที่ช่วยเปลี่ยนแปลงปากมดลูกให้พร้อมคลอด
คุณหมอจะสอดบอลลูนขนาดเล็กเข้าไปในปากมดลูกแล้วเติมน้ำเข้าไปเพื่อขยายบอลลูน บอลลูนจะค่อยๆ ถ่วงให้ปากมดลูกเปิดออก รวมถึงกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารที่ช่วยให้ปากมดลูกนุ่มขึ้นด้วย
เป็นการที่แพทย์ใช้นิ้วสอดเข้าไปในปากมดลูกแล้วค่อยๆ ลอกถุงน้ำคร่ำออกจากผนังมดลูกเบาๆ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารที่ทำให้ปากมดลูกเปิดและอาจกระตุ้นให้เกิดการเจ็บท้องคลอดได้
กระตุ้นคลอดเจ็บไหม?
คุณแม่หลายคนคงกังวลเรื่องความเจ็บปวดเมื่อต้องกระตุ้นปากมดลูก บอกเลยว่าความรู้สึกเจ็บนั้น แตกต่างกันไปในแต่ละคน และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ
โดยทั่วไป คุณแม่อาจรู้สึก ปวดหน่วงๆ คล้ายปวดประจำเดือน หรือรู้สึก ไม่สบายตัว บริเวณท้องน้อยและช่องคลอด ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกเจ็บแปลบๆ เล็กน้อยเมื่อแพทย์ทำการสอดอุปกรณ์หรือลอกถุงน้ำคร่ำ
ความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?
- วิธีที่ใช้กระตุ้น: การใช้ยา บอลลูน หรือการลอกถุงน้ำคร่ำ อาจให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
- สภาพร่างกายของคุณแม่: ความพร้อมของปากมดลูกแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้การตอบสนองต่อการกระตุ้นแตกต่างกันไป
- ความอดทนต่อความเจ็บปวด: แต่ละคนมีความอดทนต่อความเจ็บปวดไม่เท่ากันค่ะ
หากคุณแม่รู้สึกเจ็บมากหรือไม่สบายตัว สามารถแจ้งหมอหรือพยาบาลได้เลย คุณหมอจะพิจารณาให้ ยาแก้ปวด หรือใช้วิธีอื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวมากที่สุดตลอดกระบวนการค่ะ

กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด?
หลังจากได้รับการกระตุ้นปากมดลูกแล้ว โดยทั่วไป คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะเริ่มเจ็บท้องคลอดภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังการกระตุ้น แต่บางคนอาจต้องรอเป็นวัน หรือในบางกรณีอาจต้องมีการกระตุ้นซ้ำ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการคลอดจริงๆ ระยะเวลาที่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้
- ความพร้อมของปากมดลูกก่อนกระตุ้น: ถ้าปากมดลูกของคุณแม่มีการนุ่มลงหรือเปิดบ้างแล้วก่อนที่จะกระตุ้น ก็มีแนวโน้มที่จะคลอดเร็วกว่าคนที่ปากมดลูกยังแข็งและปิดสนิทค่ะ
- วิธีการที่ใช้กระตุ้น: การใช้ยาหรือการใช้บอลลูนก็อาจให้ผลและระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป
- การตอบสนองของร่างกายคุณแม่: ร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อการกระตุ้นไม่เหมือนกัน บางคนไว บางคนอาจต้องใช้เวลา
- ประวัติการคลอด: คุณแม่ที่เคยคลอดลูกมาแล้ว มักจะมีแนวโน้มที่จะคลอดเร็วกว่าคุณแม่ที่คลอดคนแรกค่ะ
มีเลือดออกหลังกระตุ้นปากมดลูก… ปกติไหม?
คุณแม่อาจตกใจเล็กน้อยหากพบว่ามีเลือดออกหลังจากการกระตุ้นปากมดลูก แต่โดยทั่วไปแล้ว การมีเลือดออกเล็กน้อยถือเป็นเรื่องปกติค่ะ
สาเหตุที่เลือดออกเป็นปกติ
- เส้นเลือดฝอยบอบบาง: ปากมดลูกในช่วงตั้งครรภ์จะมีเส้นเลือดฝอยเล็กๆ มาเลี้ยงจำนวนมาก ทำให้บอบบางและแตกง่าย การตรวจภายใน หรือการกระตุ้นปากมดลูกด้วยวิธีต่างๆ อาจทำให้เส้นเลือดฝอยเหล่านี้แตกออกเล็กน้อย จนเห็นเป็นเลือดซึมออกมา
- มูกเลือด: เลือดที่ออกมาอาจปนกับมูกคล้ายเมือก เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าปากมดลูกกำลังเปลี่ยนแปลง เตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่แสดงว่าการกระตุ้นกำลังได้ผลค่ะ
สัญญาณเตือนที่ควรพบแพทย์ทันที
แม้เลือดออกเล็กน้อยจะปกติ แต่ก็มีสัญญาณบางอย่างที่คุณแม่ควรสังเกตและรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติได้
- เลือดออกมากผิดปกติ: เช่น เลือดไหลไม่หยุด เลือดออกมากจนชุ่มผ้าอนามัยหลายแผ่นในเวลาอันรวดเร็ว
- เลือดสดปริมาณมาก: มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาในปริมาณมาก คล้ายประจำเดือนมามาก
- มีลิ่มเลือดปนออกมา: พบลิ่มเลือดก้อนใหญ่ หรือมีลิ่มเลือดออกจำนวนมาก
- ปวดท้องรุนแรงร่วมด้วย: หากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่ปวดหน่วงๆ ปกติ หรือปวดต่อเนื่องไม่หายไป พร้อมกับมีเลือดออก
หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อให้คุณหมอตรวจประเมินและให้การดูแลที่เหมาะสมค่ะ
วิธีธรรมชาติช่วยให้ปากมดลูกเปิดไวๆ
คุณแม่หลายคนคงอยากให้ปากมดลูกเปิดไวๆ เพื่อจะได้เจอหน้าลูกน้อยเร็วขึ้นใช่ไหมคะ? วิธีเหล่านี้เป็นเพียงการช่วยส่งเสริมกระบวนการตามธรรมชาติเท่านั้น ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะได้ผล 100% และควรปรึกษาแพทย์ก่อนลองทำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของคุณและลูกน้อยค่ะ
- การเดินหรือการเคลื่อนไหวเบาๆ: การเดินช่วยให้ทารกเคลื่อนตัวลงมาและกดทับปากมดลูก ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นให้ปากมดลูกเปิดได้
- การปรับเปลี่ยนท่าทาง: ลองเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ เช่น ท่าสควอทเบาๆ (ท่าหมอบ) หรือท่าคลานสี่ขา ท่าเหล่านี้ช่วยจัดตำแหน่งทารกให้เหมาะสมและลดแรงกดที่หลัง
- การใช้ลูกบอลโยคะ: การนั่งบนลูกบอลโยคะและโยกตัวเบาๆ ช่วยให้เชิงกรานเคลื่อนไหวและอาจส่งเสริมให้ทารกลงสู่ช่องเชิงกรานได้ดีขึ้น

- การมีเพศสัมพันธ์: ในน้ำอสุจิมีสาร Prostaglandins ตามธรรมชาติ ซึ่งอาจช่วยให้ปากมดลูกนุ่มลงได้
- การกระตุ้นหัวนม: การกระตุ้นหัวนมจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวและช่วยให้ปากมดลูกเปิดได้
- การจัดการความเครียด: ความเครียดสามารถส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายได้ การผ่อนคลายและลดความกังวลอาจช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
- การใช้สมุนไพรหรือวิธีที่ไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์: หลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพร ยา หรือวิธีการใดๆ ที่ไม่ได้รับการแนะนำจากแพทย์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยได้ค่ะ
จำไว้เสมอว่า ร่างกายของคุณแม่แต่ละคนแตกต่างกัน การเตรียมตัวอย่างปลอดภัยภายใต้คำแนะนำของแพทย์คือสิ่งที่ดีที่สุดนะคะ
ที่มา : PubMed Central , Medical News Today
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รวมแพ็กเกจคลอด ปี 2568 ค่าคลอดเหมาจ่าย รพ.เอกชน ในกรุงเทพฯ
แม่เครียดตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะเลี้ยงยากไหม?
คนท้องยืดผมได้ไหม แม่ท้องหัวฟู อยากเข้าร้านทําผม ยืดผมตรงให้สวยๆ ทำได้ไหม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!