ใครหลายคนก็คงคุ้นชินกับเนื้อหมู และชอบนำวัตถุดิบเหล่านี้มาประกอบทำเป็นเมนูอาหารกันอยู่บ่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้เนื้อหมูจะเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย สำหรับบางคนแล้วสิ่งนี้ก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายได้ขนาดนั้น หากคุณแม่ท้องคนไหนที่อยากรู้ว่า คนท้องกินหมูได้ไหม อันตรายที่อาจมีพร้อมกับเนื้อหมูมีอะไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลยนะคะ
คนท้องกินหมูได้ไหม? กินแล้วเป็นยังไงบ้าง
การที่เราเลือกกินเนื้อหมูในช่วงตั้งท้อง ต้องบอกคุณแม่นะคะเนื้อหมูเป็นวัตถุดิบที่ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราในหลาย ๆ เรื่องเลย แต่สำหรับการกินเนื้อหมูที่ดีและถูกต้องคุณแม่ก็อาจจะต้องเลือกลักษณะการกินให้เหมาะสม ไม่ควรกินเนื้อหมูที่ดิบ และที่สำคัญเราก็อาจจะต้องพยายามเลือกเมนูที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายตามไปด้วยแค่นั้นเลยค่ะ
เนื้อหมูมีประโยชน์อย่างไร? มาดูประโยชน์ของเนื้อหมูกัน
เนื้อหมูที่เราพูดถึงกันอยู่ในตอนนี้ เชื่อว่าวัตถุดิบประเภทนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คุณแม่นำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารกันอยู่บ่อย ๆ เพราะฉะนั้นใครที่ชอบกินเนื้อหมูกันอยู่แล้ว ก็คงอยากทราบกันบ้างแล้วใช่ไหมคะว่าเนื้อหมูที่เรากินอยู่เป็นประจำนี้ส่งผลดีต่อร่างกายของเราในเรื่องไหนบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูถึงประโยชน์ของเนื้อหมูกันได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินก๋วยเตี๋ยวได้ไหม รู้ไหมเส้นก๋วยเตี๋ยวอาจมีสารกันบูดถ้าไม่ระวัง !
1. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
การที่เราเลือกกินเนื้อหมูในช่วงตั้งท้องแบบนี้ ต้องบอกเลยนะคะว่าสิ่งนี้จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของเราได้ดีมาก ๆ เพราะภายในเนื้อหมูจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยทำให้ระบบเนื้อเยื่อในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย บอกเลยว่าการกินเนื้อหมูนั้นเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว
2. ช่วยในการมองเห็น
เท่านั้นยังไม่พอภายในเนื้อหมูยังประกอบไปด้วยวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายอย่างวิตามิน ซึ่งวิตามินชนิดนี้จะเข้าไปช่วยส่งเสริมเรื่องการมองเห็นได้ดีมาก ๆ เลย แถมยังช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันในร่างกายของเราให้ดีขึ้นตามไปด้วย หากใครที่รู้สึกว่าเรากำลังมีปัญหาในเรื่องของตา กระดูก และฟัน เราก็อาจจะลองหันมากินอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเนื้อหมูกันบ้างนะคะ
3. ช่วยบำรุงระบบประสาท
สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ต้องบอกเลยนะคะว่าการกินเนื้อหมูก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างส่งผลดีต่อร่างกายของเราได้ดีเช่นเดียวกัน เพราะการทานเนื้อหมูสิ่งนี้จะเข้าไปช่วยบำรุงระบบประสาทของเราให้ทำงานได้ดีมากขึ้น และสิ่งนี้เองที่จะเข้ามาช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การกินเนื้อหมูยังช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารของเราทำงานได้อย่างเป็นปกติมากขึ้นด้วยนะคะ
4. ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ
สำหรับคุณแม่คนไหนที่รู้สึกปวดเมื่อยตามข้อ หรือปวดเมื่อยตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย การที่เรากินเนื้อหมูเข้าไปสิ่งนี้ก็จะเข้าไปช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบให้กับเราได้ดีเหมือนกัน เพราะภายในเนื้อหมูจะอุดมไปด้วยฟอสฟอรัสที่จะเข้ามาช่วยทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของเราทำงานได้ดีขึ้น และที่สำคัญไปกว่านั้นสิ่งนี้ก็ยังช่วยทำให้ร่างกายของเรามีการตื่นตัวและมีการเคลื่อนไหวได้ดีอีกด้วย
5. ช่วยแก้อาการเหน็บชา
นอกเหนือจากสารอาหารที่สำคัญแล้วนั้น ภายในเนื้อหมูยังมีวิตามินที่สำคัญอย่างวิตามินบี 1 ที่จะช่วยบรรเทาอาการเหน็บชาให้กับเราได้ดีมาก ๆ และนอกจากอาการเหน็บชาแล้วนั้น การกินเนื้อหมูยังเข้ามาช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้นตามไปด้วย บอกเลยว่าใครที่กำลังมีปัญหาอาการเหน็บชาแบบนี้อยู่แล้วล่ะก็ เนื้อหมูน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้
6. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
จากการที่เราเลือกกินเนื้อหมูกันมากขึ้นนั้น รู้หรือไม่คะว่าสิ่งนี้ก็ยังสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายของเราได้มาก ๆ เลย เพราะฉะนั้นใครที่รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างป่วยบ่อย หรืออยากเป็นคุณแม่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากขึ้น เราก็อาจจะเลือกกินเนื้อหมูแทนเนื้อชนิดอื่น ๆ ได้เหมือนกันค่ะ
วิธีการเลือกซื้อเนื้อหมูที่ถูกต้อง ควรเลือกยังไงดี?
ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อเนื้อหมูมาประกอบทำเป็นเมนูอาหาร บอกเลยนะคะว่าวิธีการเลือกซื้อเนื้อหมูก็เป็นอะไรที่เราควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นใครที่อยากรู้ว่าเราควรมีวิธีการเลือกซื้อเนื้อหมูกันอย่างไรบ้าง มาเลือกซื้อไปพร้อมกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย คนท้องกินถั่วลิสงได้ไหม เป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า
1. เลือกซื้อเนื้อหมูที่เป็นสีชมพู มีไขมันสีขาว
อย่างแรกที่เราอาจจะต้องทำการสังเกตดูเนื้อหมูก่อนที่เราจะทำการเลือกซื้อนั้น เราอาจจะต้องดูลักษณะของเนื้อหมูว่ามีสีแบบไหน ซึ่งเนื้อหมูที่ดีและมีคุณภาพนั้นจะเป็นเนื้อหมูที่มีสีชมพู อีกทั้งยังมีไขมันสีขาวติดมาด้วย เอาเป็นว่าหากใครที่อยากได้เนื้อหมูที่มีความสดใหม่ อย่าลืมเลือกเนื้อหมูแบบนี้กันนะคะ
2. เนื้อหมูต้องไม่มีสีเขียวคล้ำ
สิ่งที่เราอาจจะต้องทำการสังเกตต่อมาเลยคือ เนื้อหมูที่ดีจะต้องไม่มีลักษณะสีเขียวคล้ำขึ้นมา หากเมื่อไหร่ที่เราเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีลักษณะสีเขียวคล้ำแล้วล่ะก็ สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เนื้อหมูที่เราซื้อมานั้นเกิดการเน่าเสียขึ้นมาได้ง่าย
3. เอามือกดแล้วไม่มีรอยบุ๋ม
จากนั้นเราก็อาจจะลองใช้มือกดลงที่บริเวณเนื้อหมูตามไปด้วย ซึ่งหากเมื่อไหร่ที่เราใช้มือกดลงไปที่เนื้อหมูแล้วนั้น จากนั้นเนื้อหมูที่เรากดลงไปมีรอยบุ๋มเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราได้เลยว่า เนื้อหมูที่เรากำลังจะตัดสินใจซื้ออยู่นั้นไม่มีความสดใหม่นั่นเองค่ะ
4. ผิวของหนังหมูมีความมันวาว
เท่านั้นยังไม่พอเราก็อาจจะต้องทำการสังเกตดูส่วนที่เป็นหนังหมูตามไปด้วย ซึ่งหากใครที่อยากกินหนังหมูที่มีความสดใหม่ และอร่อยมากขึ้นเราไม่ควรที่จะเลือกหนังหมูที่มีพังผืดเกิดขึ้น แต่ควรเลือกหนังหมูที่มีลักษณะมันวาวขึ้นมาหน่อย เพราะเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้ทำการสังเกตส่วนนี้เลย ก็อาจจะทำให้หมูที่เราซื้อมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารนั้นมีรสชาติที่ไม่ค่อยอร่อยขึ้นมาได้
5. สังเกตดูพยาธิในเนื้อหมู
อีกหนึ่งสิ่งที่เราอาจจะต้องทำการสังเกตตามไปด้วย โดยเราอาจจะต้องดูว่าเนื้อหมูที่เราซื้อไปนั้นมีพยาธิอยู่ภายในเนื้อหมูหรือไม่ ซึ่งหากเนื้อหมูที่เราเห็นนั้นมีลักษณะคล้าย ๆ เม็ดสาคูอยู่แทรกตามบริเวณเนื้อหมู สิ่งนี้ก็กำลังบ่งบอกเราว่าเนื้อหมูที่เราเห็นอยู่ในตอนนี้อาจจะมีพยาธิปนเปื้อนอยู่ด้วยนั่นเองค่ะ
6. ทำการดมกลิ่นเนื้อหมู
สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามต่อมาเลยคือ เรื่องของการดมกลิ่น ซึ่งหากเนื้อหมูที่ดีและมีความสดใหม่ เนื้อหมูที่เราเห็นอยู่นั้นจะต้องไม่มีกลิ่นเหม็นคาว หรืออาจจะมีแค่กลิ่นคาวของเนื้อเพียงนิดเดียวเท่านั้น หากเมื่อไหร่ที่เราพบว่าเนื้อหมูประเภทนี้เริ่มมีกลิ่นเหม็นคาว หรือมีกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรง นั่นก็แสดงว่าหมูที่เราซื้อมานั้นเริ่มเกิดการเน่าเสียขึ้นมาแน่นอน บอกเลยนะคะว่าคุณแม่จะไม่ได้รับไปเพียงแค่ความอร่อยแน่นอน เอาเป็นว่าลองหันมากินเนื้อหมูกันให้เยอะ ๆ นะคะ
เทคนิค! เก็บเนื้อหมูแบบไหนให้อยู่ได้นานที่สุด
ทุกครั้งที่เราซื้อเนื้อหมูมาประกอบอาหารในบางส่วน แต่บางส่วนก็ยังคงเหลือและเราก็อยากที่จะเก็บเนื้อหมูที่เหลือเอาไว้ทำในวันต่อ ๆ ไป หลายคนก็คงอยากรู้ใช่ไหมคะว่าเราควรมีวิธีการเก็บเนื้อหมูยังไงดี เพื่อที่เราจะได้กินในวันต่อและเก็บไว้กินได้นานมากที่สุด เพราะฉะนั้นเรามาดูวิธีการเก็บเนื้อหมูไปพร้อมกันเลยนะคะ พูดเลยว่าทำตามไม่ยากเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำฝนได้ไหม น้ำฝนตอนนี้ไม่ปลอดภัย ปนเปื้อนสารพิษมากมาย
- สิ่งแรกให้เรานำเนื้อหมูที่ต้องการเก็บไว้มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน ไม่ควรทำการเก็บเลยเพราะสิ่งนี้จะทำให้เนื้อหมูที่เราเก็บนั้นเกิดการเน่าเสียขึ้นมาได้ง่าย ๆ
- จากนั้นให้เรานำเนื้อหมูที่ผ่านการล้างมาแล้วนั้น มาทำการหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งขั้นตอนการหั่นนั้นเราจะหั่นเป็นแนวขวาง และอาจจะต้องทำการหั่นแบ่งเป็นสัดส่วนให้เรียบร้อย และให้เพียงพอต่อการนำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารในแต่ละมื้อ
- หลังจากที่เราทำการหั่นเรียบร้อยแล้วนั้นก็มาถึงขั้นตอนของการเช็ดเนื้อหมู ซึ่งก่อนที่เราจะทำการเก็บเนื้อหมู เราจะต้องทำการเช็ดเนื้อหมูให้แห้งก่อนทุกครั้ง
- เมื่อเราทำการเช็ดเนื้อหมูเรียบร้อยแล้วนั้น ขั้นตอนต่อมาให้เราทำการแยกเนื้อหมูออกเป็นส่วน ๆ พร้อมนำเนื้อหมูเก็บไว้ในกล่องพลาสติกให้เรียบร้อย ที่สำคัญอย่าลืมปิดฝากล่องพลาสติกให้สนิท หรือมิดชิดด้วยนะคะ
- หลังจากที่เราทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ให้กล่องพลาสติกที่ใส่เนื้อหมูเสร็จเรียบร้อยแล้วไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็งให้เรียบร้อย และที่สำคัญไปกว่านั้นเราอาจจะต้องพยายามแช่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมตามไปด้วยนะคะ เพื่อที่สิ่งนี้จะได้ช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียให้กับเราได้
จากที่เราได้พาคุณแม่ท้องมาทำความรู้จักกับเนื้อหมูกันมากขึ้นแล้วนั้น ก็ต้องบอกว่าเนื้อหมูเป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องไม่ควรมองข้ามเลย นอกจากจะนำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ได้เยอะมากขึ้นแล้วนั้น เนื้อหมูยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์และมีคุณค่าทางสารอาหารที่หลากหลายไม่แพ้เมนูอาหารประเภทอื่น ๆ เลยล่ะค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เผย! วิธีกินแมคคาเดเมีย กินอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ คนท้องกินแมคคาเดเมียได้ไหม?
คนท้องกินไข่ดองน้ำปลาได้ไหม เตือนไว้ ระวังทั้งเชื้อโรค และโซเดียมให้ดี
คนท้องกินพะโล้ได้ไหม หวานหอมสมุนไพรเครื่องเทศ ดีต่อคนท้องไหมนะ ?
ที่มา : sgethai, ginmaifood