รวงผึ้ง หรือรังผึ้ง เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลาย ๆ คน ชื่นชอบ เพราะนอกจากมีความมัน หอม หวานอร่อยแล้ว ยังเชื่อว่ามีประโยชน์ และคุณค่าทางสารอาหารสูงอีกด้วย ซึ่งความเชื่อเหล่านั้นจะถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ข้อกล่าวอ้างกันแน่ แล้วคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่มักจะตั้งข้อสงสัยว่า คนท้องกินรังผึ้งได้ไหม ถ้ารังผึ้งมีประโยชน์ขนาดนั้น มาหาข้อเท็จจริง ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
รังผึ้ง มาจากไหน?
รังผึ้ง ก็คือที่อยู่ของผึ้งจำนวนมาก โดยภายในรัง จะมีผึ้งตัวที่ใหญ่สุดที่เรียกว่า “ผึ้งนางพญา” ผู้ทำหน้าที่ออกไข่ เพื่อผลิตสมาชิกที่เรียกว่า “ผึ้งงาน” ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างรัง เก็บไข่ เก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ เพื่อเป็นอาหารให้กับตัวอ่อนต่อไป
เมื่อผึ้งงานสามารถรวบรวมน้ำหวานจากดอกไม้ได้มากเพียงพอ ก็จะนำมาสร้างขี้ผึ้ง เพื่อมาทำเป็นรังผึ้ง จากต่อมผลิตไขมันที่อยู่บริเวณลำตัว หรือท้องของลำตัวของผึ้งงาน น้ำหวานนี้จะถูกสังเคราะห์โดยน้ำตาลที่มีโมเลกุลเชิงเดี่ยวจากระบบย่อยอาหารและถูกสร้างมาเป็นไข ลักษณะแผ่นบาง ๆ จากนั้นผึ้งจะทำมาก่อเป็นรวงรูป 6 เหลี่ยม เพื่อให้เก็บน้ำผึ้งให้ได้มากที่สุด และกลายเป็นรวงผึ้ง หรือรังผึ้งนั่นเอง
รังผึ้ง รวงผึ้งกินได้ไหม มีประโยชน์อย่างไร?
คุณเชื่อหรือไม่ว่า ประโยชน์ของการรับประทานรังผึ้งนั้น มีมากมายเหลือเกิน ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับจากการทานรังผึ้ง หรือรวงผึ้ง มีดังนี้
- อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด
รังผึ้งอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีปริมาณของโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญอีกด้วย ในขณะที่ปริมาณน้ำตาลในรังผึ้งแม้ว่าจะมีมากถึง 80% แต่น้ำตาลเหล่านั้นเป็นน้ำตาลประเภทฟลุคโตส ที่สามารถย่อยสลายได้ในทันที หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่เกิดการเก็บสะสมเป็นไขมัน
- ช่วยบำรุงหัวใจ
มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่ากรดไขมันที่มีอยู่ในรังผึ้งนั้นมีคุณสมบัติในการลดระดับปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดสูง และยังช่วยขยายหลอดเลือดแดง ทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงจากภาวะโรคหลอดเลือดอุดตันในหัวใจ และสมองได้
- ป้องกันการติดเชื้อ
ในคุณสมบัติของรังผึ้งนั้น รังผึ้งจะช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อรา และแบคทีเรีย ได้เป็นอย่างดี ทั้งทีไม่ได้รวมถึงรังผึ้งที่มีสารปนเปื้อนอยู่ในตัวของมันนะคะ
- ไขผึ้งช่วยปกป้องตับ
มีการศึกษาวิจัยในประโยชน์ของรังผึ้งพบว่า ส่วนผสมของไขผึ้งนั้น ช่วยทำให้ระบบการทำงานของตับทำงานได้อย่างปกติ และส่งผลดีกับผู้ที่ป่วยโรคไขมันสะสมในตับได้อีกด้วย
- ส่งเสริมกระบวนการเมทาบอลิซึม
ไขผึ้งนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยลดระดับของอินซูลินได้เป็นอย่างดี และช่วยค้นหาสารต้านอินซูลินในผู้ป่วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน และโรคอื่น ๆ ตามมา
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคเบาหวาน เกิดจากอะไร ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นเบาหวานคืออะไร?
ทำไมคนชอบกินรวงผึ้ง
ตามวิถีชาวบ้านทั่วไป มักจะพบว่ามีหลายคนมักจะนำรวงผึ้งมารับประทานกันเป็นปกติ แต่ปัจจุบัน เริ่มมีการเปิดฟาร์มเลี้ยงผึ้ง เพื่อนำทั้งน้ำผึ้ง และรวงผึ้งมาจำหน่ายเพื่อการบริโภคกันอย่างแพร่หลาย หลายคนจึงมักตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใด รวงผึ้ง หรือ รังผึ้ง จึงได้รับความนิยมในการรับประทานกันมาก ซึ่งเรารวมเหตุผลมาได้ดังนี้
- รวงผึ้งสดมีรสชาติหวาน หอมจากธรรมชาติ
- ความหนึบหนับของรวงผึ้งจะมีลักษณะคล้ายกับการเคี้ยวหมากฝรั่ง
- น้ำตาลธรรมชาติจากรวงผึ้งทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นทันทีที่ได้รับประทาน
- รวงผึ้งมีประโยชน์มากทางโภชนาการ และช่วยเสริมสร้างภูมิกันในร่างกาย
- มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัยได้ดี
- บรรเทาอาการไอ เจ็บคอ และต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ คนท้องกินรังผึ้ง
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่แล้วอยากรับประทานรังผึ้ง หรือรวงผึ้ง แล้วมักจะถูกญาติผู้ใหญ่ คนเก่าคนแก่ ห้ามไม่ให้รับประทาน เนื่องจากในอดีตเชื่อกันว่า แมลงจำพวกผึ้งมีนิสัยเป็นนักสู้ ไม่ยอมใคร หากสตรีมีครรภ์รับประทานรังผึ้ง หรือรวงผึ้งเข้าไป เชื่อว่าจะทำให้เด็กในครรภ์ เกิดมาจะเลี้ยงยาก เมื่อเติบโตจะชอบทะเลาะตบตี รังแกเพื่อน และคนใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา สำหรับความเชื่อนี้ ไม่ได้รับการการันตีแต่อย่างใดว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่เป็นความเชื่อที่ถูกถ่ายทอดต่อกันมาช้านาน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 60 ความเชื่อโบราณ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จริงหรือไม่ ทำไมเขาถือ
คนท้องกินรังผึ้งได้ไหม คนท้องกินรวงผึ้ง มีผลกับลูกครรภ์อย่างไร?
แม้ว่ารวงผึ้ง หรือรังผึ้ง จะมีประโยชน์มากมายเพียงใดก็ตาม แต่สำหรับสตรีที่ตั้งครรภ์อาหารชนิดนี้ยังถือว่าเป็นอันตรายกับสุขภาพโดยรวม เนื่องจากการปนเปื้อนจากเชื้อโรค Clostridium botulinum เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรามักจะพบจากดิน และอาหารที่ถูกบรรจุในพื้นที่ปิดชนิด เพราะเชื้อชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะแวดล้อมที่มีออกซิเจนน้อย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อ สตรีมีครรภ์ และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 เดือน
หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับเชื้อดังกล่าวเข้าไป สารปนเปื้อนนี้จะกระตุ้นให้เกิดการปล่อยสารพิษยับยั้งการทำงานของจุดเชื่อมระหว่างระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (neuronuscular junction) โดยจะมีอาการเริ่มต้นจากการมองเห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น กลืนน้ำลายลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก หากร่างกายได้รับสารมากก็อาจทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อแขน และขาอ่อนแรงได้
รวมถึงรังผึ้งยังคงมีปริมาณน้ำตาลอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้นหากกินในปริมาณที่มากจนเกินไป คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ก็จะมีความเสี่ยงในภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ดังนั้นหากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ต้องการรับประทานรังผึ้ง สิ่งที่คุณแม่จะต้องคำนึงถึงลำดับต้น ๆ นั่นก็คือการเลือกรับประทานรังผึ้งที่ถูกจัดในสภาพแวดล้อมที่ดี ปลอดภัย ไม่มีสารเคมี หรือสารตกค้าง ก็จะช่วยให้อัตราการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่าง ๆ นั้นลดลง และควรรับประทานในปริมาณที่เล็กน้อย เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพทั้งคุณแม่ และทารกในครรภ์นั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินน้ำผึ้งได้ไหม ? มีหลายเรื่องที่ต้องระวัง คุณแม่รู้แล้วหรือยัง ?
แนะนำ 10 น้ำผึ้งเดือนห้า กลิ่นหอม รสชาติหวานละมุน ในงบหลักร้อย!
เด็กทารกกินน้ำผึ้ง ได้หรือไม่?
ที่มา : Facebook: Sugus_Krab, 2, scimath