ขึ้นชื่อว่าผัก ผลไม้ โดยเฉพาะพืชผักเมืองร้อน อย่างประเทศไทย มีมากมายหลายชนิดให้คุณแม่ ๆ ได้เลือกรับประทาน รวมถึงเครื่องดื่มที่สกัดจากพืช ผัก ผลไม้ อย่างน้ำกระเจี๊ยบ ที่ให้รสเปรี้ยว ถูกใจแม่ ๆ ที่มีอาการคลื่นไส้ ให้รู้สึกกลับมาสดชื่น แต่ก็ไม่แปลกถ้าคุณแม่ ๆ และคนที่ดูแลอย่างใกล้ชิด จะเป็นกังวลว่า คนท้องกินน้ำกระเจี๊ยบได้ไหม ? แล้วจะส่งผลดี ผลเสียกับลูกในท้องหรือไม่ เราหาคำตอบมาคลายข้อสงสัยกันแล้วค่ะ
กระเจี๊ยบ คืออะไร?
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับกระเจี๊ยบก่อนว่า ในประเทศไทยเรา เมื่อพูดถึง “กระเจี๊ยบ” จะมีให้เลือกทั้ง กระเจี๊ยบเขียว และกระเจี๊ยบแดง
- กระเจี๊ยบเขียว (Okra / Lady’s Finger) จะเป็นพืชล้มลุก มีผลเป็นสีเขียวอ่อน มีเมล็ดอ่อนเป็นสีขาว ผิวที่ผลจะเป็นลักษณะเหลี่ยม มักจะนิยมนำไปประกอบอาหาร ผลอ่อนของกระเจี๊ยบเขียวนี้ เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก จึงทำให้เป็นเมนูอาหารที่คุณแม่ ๆ ที่ตั้งครรภ์อยู่ สามารถทานได้ทุกช่วงเวลา รวมถึงหลังจากที่คลอดลูกก็ยังสามารถทานได้อย่างต่อเนื่อง
- กระเจี๊ยบแดง (Rozelle / Red Sorrel) เป็นพืชล้มลุก เช่นเดียวกับ กระเจี๊ยบเขียว มีลักษณะผลค่อนข้างกลม มีผิวเรียบ มีกลีบเลี้ยงหนาสีแดงหุ้ม ตัวกลีบจะมีรสเปรี้ยว สามารถนำมาประกอบอาหารคาว หวาน รวมถึงการนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้อีกด้วย
ประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดง น้ำกระเจี๊ยบ
สรรพคุณของกระเจี๊ยบมีมากมายจนคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์ นับว่า เป็นอีกหนึ่งสมุนไพร ที่ควรมีติดบ้านเอาไว้อย่าได้ขาด ประโยชน์ของกระเจี๊ยบ มีดังนี้
- แก้กระหาย : เมื่อนำกระเจี๊ยบมาทำเป็นน้ำดื่ม จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น และป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำในร่างกายได้
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ : เนื่องจากสารแอนโทไซยานินในกระเจี๊ยบแดง เป็นสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว และไม่ไปเกาะตามหลอดเลือด จนเป็นสาเหตุของการเกิดของโรคหัวใจ และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดมีความสมดุลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- ป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง : เนื่องจากกระเจี๊ยบแดง เป็นสมุนไพรที่มีธาตุเหล็กสูง และธาตุเหล็ก ก็มีความสำคัญต่อร่างกาย และช่วงให้ไม่เกิดภาวะโลหิตจาง
- ลดไขมันในเลือด และร่างกาย : ใครที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ มีไขมันเยอะ ๆ การทานกระเจี๊ยบแดงเป็นประจำ จะช่วยป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูง และยังได้บำรุงเลือดได้อีกด้วย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ที่เสี่ยงเป็นเบาหวาน กระเจี๊ยบ คือตัวช่วยชั้นดีให้กับคุณเลยค่ะ
- ลดความเสี่ยงการเป็นนิ่ว : กระเจี๊ยบแดงจะมีสารที่ช่วยขับกรดบางชนิด เช่น กรดยูริก แคลเซียม และ โพแทสเซียม ที่สามารถช่วยลดภาวะความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในท่อปัสสาวะ รวมถึงโรคไต
- บรรเทาอาการไข้ : เป็นอีกหนึ่งสมุนไพร ที่มักจะได้รับการแนะนำให้ทานเมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือเป็นไข้ เพราะคุณสมบัติที่ทำให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนดีขึ้นแล้ว สารบางตัวที่มีอยู่ในกระเจี๊ยบแดง ก็ยังสามารถช่วยละลายเสมหะในลำคอได้อีกด้วย โดยที่คุณไม่ต้องพึ่งยาใด ๆ เสริม
- รักษาแผลสด : เพียงแค่นำใบสดของต้นกระเจี๊ยบแดงมาล้างทำความสะอาด จากนั้นบดให้ละเอียดจนเป็นน้ำ แล้วนำมาพอกที่แผล ก็จะช่วยให้เลือดแข็งตัว และหายได้เร็วยิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องกินกัญชาได้ไหม แม่ให้นมลูกกินกัญชาได้ไหม จะส่งผลต่อลูกน้อยหรือไม่ ?
น้ำกระเจี๊ยบ กับคนท้อง คนท้องกินน้ำกระเจี๊ยบได้ไหม ?
-
ลดไขมันในร่างกาย สำหรับผู้ที่มีไขมันเกิน
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ และมีความเสี่ยงเกี่ยวกับมวลไขมันในร่างกายที่สูงมากเกินไป การดื่มน้ำกระเจี๊ยบจะช่วยให้ลดความเสี่ยงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เพราะในตัวกระเจี๊ยบ จะมีสารที่ช่วยป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูง
-
เสริมสร้างแคลเซียม บำรุงกระดูก และฟัน
น้ำกระเจี๊ยบ เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่คนท้องหลาย ๆ คนต่างพากันชื่นชอบ เพราะนอกจากมีรสชาติเปรี้ยว ที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ลดอาการคลื่นไส้แล้ว น้ำกระเจี๊ยบ ยังช่วยในเรื่องของการบำรุงกระดูก และฟัน เพราะน้ำกระเจี๊ยบจะให้แคลเซียมในปริมาณที่มาก ซึ่งเหล่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน หากไม่ได้รับแคลเซียมที่มากเพียงพอ
-
ช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น เหมาะกับคุณแม่ที่ท้องผูก
น้ำกระเจี๊ยบก็ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ เนื่องจากมีสารแมกนีเซียมสูง ซึ่งสารนี้ จะเป็นตัวช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณลำไส้ ทำให้กากอาหารสามารถไหลผ่านออกไปได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงกระเจี๊ยบยังมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ ทำให้อุจจาระมีความนิ่ม จึงขับถ่ายออกได้โดยง่าย คุณแม่ที่ท้องอยู่ และมีปัญหาเรื่องท้องผูก ควรมีน้ำกระเจี๊ยบไว้ข้างกายเลยค่ะ
-
ช่วยลดอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ
น้ำกระเจี๊ยบมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ และยังช่วยยับยั้ง และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะได้ดีอีกด้วย จึงสามารถช่วยลดอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้ รวมถึงภาวะความดันโลหิตได้ดีอีกด้วย
ข้อควรระวังในการกินน้ำกระเจี๊ยบ
ของทุกชิ้นบนโลกใบนี้ เมื่อมีคุณ ก็ต้องมีโทษเช่นกัน ถ้าเรากินในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะเป็นยาชั้นเลิศ แต่ถ้ากินมากเกินไป ก็จะกลายเป็นยาพิษดี ๆ นี่เอง เรามาดูกันว่า ถ้าคุณกิน หรือดื่มน้ำกระเจี๊ยบมากเกินไป จะมีความเสี่ยงในเรื่องอะไรบ้าง
เนื่องจากน้ำกระเจี๊ยบ มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ จะเป็นยาชั้นเลิศ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร รวมถึง ผู้ที่มีอาการท้องผูกอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าคุณมีอาการท้องเสียเป็นทุนเดิม ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำกระเจี๊ยบ เนื่องจาก อาจทำให้อาการท้องเสียที่เป็นอยู่ มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และจะนำไปสู่ ภาวะร่างกายขาดน้ำได้
ใครที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ หรือผู้ที่ใช้ยาลดความดันโลหิต แม้ว่าน้ำกระเจี๊ยบ จะช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น แต่ตัวน้ำกระเจี๊ยบ มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี จึงอาจจะส่งผลให้ผู้ที่ดื่มอย่างต่อเนื่องให้ความดันโลหิตลดลงได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ของกินเซเว่น สำหรับคนท้อง คนท้องกินอะไรในเซเว่นได้บ้างนะ ?
น้ำกระเจี๊ยบทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
ขั้นตอนแรกให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้
- ดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ1/2ช้อนชา
- น้ำดื่มสะอาด 2 ลิตร
วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบดังนี้
- นำดอกกระเจี๊ยบที่เตรียมไว้ ล้างด้วยน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้ง
- นำหม้อตั้งบนเตา เติมน้ำดื่มสะอาดลงไป
- เปิดไฟปานกลาง รอจนน้ำเดือด
- ใส่ดอกกระเจี๊ยบที่ล้างแล้ว ต้มรอให้สีเข้ม
- ใส่น้ำตาลทรายตามความชอบ(ถ้ากินเพื่อสุขภาพใส่น้อยหรือไม่ใส่ก็ได้) และเกลือเล็กน้อย
- คนให้ละลาย แล้วจึงปิดไฟ
- รอจนน้ำกระเจี๊ยบหายร้อนน้ำ กรอกใส่ขวดเข้าตู้เย็น พร้อมรับประทานแล้วครับ
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แม้ว่าอาหารคาวหวาน หรือสมุนไพรใด ๆ ที่เขาบอกว่าดี มีประโยชน์ การรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ นอกจากจะเป็นยาที่ดี และทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาหนักอกหนักใจต่าง ๆ ได้ แต่หากทานมากจนเกินไป จากยาดี ก็อาจกลายร่างเป็นยาพิษได้ในบัดดล ดังนั้น หากคุณแม่ดื่มน้ำกระเจี๊ยบเพื่อคลายร้อน ดับกระหาย หรือใช้ดื่มแทนน้ำอัดลมแล้ว อย่าลืมที่จะดื่มน้ำสะอาดด้วยนะคะ เพราะน้ำเปล่านี่แหละ ที่มีประโยชน์กับร่างกายของเรามากที่สุดค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินกระท้อนได้ไหม เปรี้ยวปากอยากกินแบบนี้ อดใจยังไงไหว
ไขข้อข้องใจให้แม่ท้อง คนท้องกินยาแก้ปวดท้องได้ไหม ?
คนท้องกินเบียร์ได้ไหม ? จริงหรือมั่วที่เบียร์จะช่วยล้างไขหุ้มตัวลูก
ที่มา : hellokhunmor, cookeatfood
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!