เมื่อเมนูเนื้อติดกระดูกอย่าง “ต้มเล้ง” เป็นเมนูที่หลายคนต้องติดใจ คนท้องกินต้มเล้งแซ่บได้ไหม ท้องแล้วชอบโดนห้ามกิน แล้วเมนูนี้ต้องห้ามกินด้วยหรือเปล่า ต้มเล้งเป็นเมนูที่คนท้องกินได้ แต่ก็ยังมีเรื่องที่คุณแม่ต้องรู้เอาไว้ก่อนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะปริมาณของพลังงานที่มากต่อการทานเพียง 1 มื้อ
เมนูต้มเล้งสุดแซ่บ ทำไมจึงเรียกต้มเล้ง
ต้มเล้งมีจุดเด่นจากการใช้กระดูกสันหลังหมูที่มีเนื้อติดกระดูก เดิมทีการใช้เนื้อส่วนนี้เป็นเพียงการหมัก หรือต้มน้ำซุปสำหรับนำไปใช้ประกอบอาหารในเมนูอื่น ๆ เท่านั้น เพราะส่วนนี้มีเนื้ออยู่น้อยกว่าส่วนอื่น ๆ ก่อนที่จะกลายมาเป็นเมนูจานหลักอย่างที่เราพบเจอกันอยู่ในปัจจุบัน คำว่า “เล้ง” มาจากคำว่า “เอียเล้ง” มีความหมายว่า “กระดูกสันหลังของหมู” ก่อนที่เล้งจะมาได้รับความนิยม ในช่วงที่ถูกใช้แค่ทำน้ำซุป เล้งจะมีราคาถูกมากแค่ประมาณโลละ 25 บาท แต่หลังจากมีร้านอาหารนำเล้งมาเป็นเมนูหลัก ก็ทำให้ส่วนนี้ของหมูมีราคาพุ่งสูงขึ้นตามแบบในปัจจุบัน
คนท้องกินต้มเล้งแซ่บได้ไหม
ต้มเล้งแซ่บเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ชอบอาหารรสเปรี้ยวนิดเผ็ดหน่อย เชื่อว่าคงมีคนท้องไม่น้อยที่ชอบกินเมนูสุดแซ่บนี้ แต่เพราะกำลังตั้งครรภ์แล้วเห็นมาเยอะมากว่าเมนูหลายเมนูที่เคยกินได้ ตอนนี้ก็ต้องงด แต่สำหรับต้มเล้งนั้นคุณแม่สามารถกินได้ตามปกติ ด้วยวัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้มาก หลัก ๆ คือเนื้อสัตว์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเล้งยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง แม่ท้องควรระวังในเรื่องนี้ เพราะหากทานมากเกินไป สามารถส่งผลต่อน้ำหนักได้ หากแม่ท้องต้องการทานก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ทานมากเกินไป และเช่นเดิมเหมือนทุกครั้งการกินผักผลไม้ และเมนูอื่น ๆ เน้นให้ครบ 5 หมู่ยังคงสำคัญกับคุณแม่อยู่ ไม่ควรเลือกทานแต่เนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินหอยทอดได้ไหม อันตรายรอบด้าน ต้องเลือกให้ดี
สารอาหารในต้มเล้งแซ่บ
การกินต้มเล้งแซ่บในปริมาณปกติทั่วไปจะให้พลังงานประมาณ 434 กิโลแคลอรี ซึ่งโดยปกติคุณแม่คงจะทานเมนูสุดแซ่บนี้คู่กับข้าวสวย 1 จานที่ให้พลังงาน 350 กิโลแคลอรี หากนับเป็น 1 มื้อหลักจะให้พลังงานถึงประมาณ 784 กิโลแคลอรี ถือว่าเป็นพลังงานที่ค่อนข้างมากสำหรับการทานมื้อหลัก 1 มื้อ เพื่อเลี่ยงพลังงานจำนวนนี้ แม่ท้องควรแบ่งทานต้มเล้งร่วมกับคนอื่น ๆ ด้วย และเพิ่มเมนูอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วยจะดีกว่า
ในส่วนของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่ ในเมนูนี้ก็ยังพอมีอยู่บ้าง เช่น โซเดียม, โพแทสเซียม, คาร์โบไฮเดรต, ใยอาหาร, โปรตีน, แคลเซียม รวมไปถึงวิตามินหลายชนิด ได้แก่ วิตามิน D, วิตามิน B12, และวิตามิน B6 เป็นต้น รวมไปถึงสารอาหารอื่น ๆ เช่น ไทอามีน (Thiamine), ไนอาซิน (Niacin) และไรโบฟลาวิน (Riboflavin) เป็นต้น แม้จะดูมีสารอาหารที่หลากหลายแต่ด้วยวัตถุดิบหลักที่คุณแม่จะได้ทานจากเมนูนี้ คือ เนื้อ และน้ำซุปเท่านั้น สารอาหารเหล่านี้จึงไม่ได้มีปริมาณมากเทียบเท่ากับเมนูอื่น นอกจากพลังงานที่คุณแม่จะได้รับในปริมาณสูงนั่นเอง
คอลลาเจนที่มาก ดีต่อผิวพรรณคุณแม่
การกินต้มเล้งแซ่บนอกจากจะมีสารอาหารที่หลากหลายแล้ว อีกจุดเด่น คือ เล้งเป็นส่วนที่มีคอลลาเจนสูงส่วนหนึ่งของเนื้อสัตว์ การรับคอลลาเจนจากการทานอาหารสามารถทำได้หลากหลายเมนู ต้มเล้งเป็นหนึ่งในนั้น คอลลาเจน (Collagen) เป็นสารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดการเกิดรอยเหี่ยวย่น และริ้วรอยต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการทานเล้งเพียงเมนูเดียว หรือไม่กี่ครั้งไม่ได้ทำให้ร่างกายรับคอลลาเจนมากพอต่อความต้องการ ควรรับจากเมนูอื่น ๆ ด้วย
ส่วนคุณแม่คนไหนที่คิดว่าการทานเล้งบ่อย ๆ ก็คือการบำรุงผิว การคิดแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นการหาข้ออ้างในการกินเล้งบ่อย ๆ มากกว่า เพราะปริมาณพลังงานของเล้งนั้นมีอยู่มาก หากต้องการผิวพรรณที่สวยจริง ๆ ยังมีอีกหลายวิธีที่ได้ผลเร็วกว่า และดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย เช่น การทานอาหารเสริมที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน, การปรึกษากับแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลผิว ไปจนถึงวิธีที่ใคร ๆ ก็ทำได้อย่างการดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ และทานผักผลไม้บ่อย ๆ เป็นต้น
เลือกกินต้มเล้งแซ่บแบบไหนให้ปลอดภัยกับคนท้อง
เมนูแซ่บนี้คนท้องสามารถทานได้ตามปกติ หากยังอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอสม และให้ความสำคัญกับความสะอาด จะทำให้มื้อนี้ และไม่ว่ามื้อไหนแม่ท้องจะปลอดภัยเสมอ ได้แก่
- เลือกร้านอาหารที่ถูกสุขอนามัย มีความสะอาด และใช้วัตถุดิบที่สดใหม่
- ไม่ควรทานคนเดียวทั้งถ้วย สามารถแบ่งทานได้หลายคน หรือแบ่งมื้อทานจะดีกว่ามาก
- ระวังเรื่องการปรุงรสที่เข้มข้นมากเกินไป การกินอาหารรสจัดไม่ดีต่อสุขภาพคนท้อง อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเจอร้านที่ใช้ผงปรุงรสด้วย
- หากคุณแม่ปรุงเองทำเองทานที่บ้าน สามารถลดปริมาณของเล้งแทน และปรับเพิ่มผักบางชนิดลงไปในน้ำซุปได้เช่นกัน
วิดีโอจาก : TidReview ชีวิตติดรีวิว
สูตรต้มเล้งแซ่บที่คุณแม่ต้องลอง
วัตถุดิบ : กระดูกเล้ง, น้ำสะอาด, น้ำปลา, น้ำมะนาว, เกลือ, กระเทียม, รากผักชี, พริกไทย, พริกขี้หนูสวนสีเขียว และผักชีฝรั่ง
ขั้นตอนการทำ
- ขั้นตอนแรกให้ทำการต้มกระดูกเล้งก่อน เริ่มจากการล้างกระดูกเล้งให้สะอาดก่อน จนกว่าจะไม่มีเลือดออกมา แล้วนำไปผึ่งให้แห้งก่อนนำมาต้ม
- ใส่กระดูกเล้งลงในหม้อต้มเสร็จ ให้ตามด้วยการบุบรากผักชี และกระเทียม จากนั้นนำไปใส่ลงในหม้อตามลงไป ตามด้วยพริกไทย เกลือ และน้ำเปล่ตามลำดับ ใส่ลงไปแค่ให้พอท่วมเล้ง
- การทำเล้ง ควรตั้งไฟอ่อน ๆ และใช้เวลาในการเคี่ยว 2 ชั่วโมง ระหว่างเคี่ยว ให้คอยตักฟองที่ขึ้นหม้อออกตลอด
- เสร็จแล้วตักกระดูกเล้งออกใส่ถ้วย และตักน้ำซุปราดใส่ถ้วยตามลงไป ปกติจะปรุงรสด้วยน้ำปลา และมะนาว หรือปรุงตามใจชอบ ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ
ท้องแล้วเลือกทานอาหารให้ดีมีประโยชน์ทานเนื้อแล้ว อย่าลืมที่จะทานผักผลไม้ด้วย หากต้องการให้ทารกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ดีต่อพัฒนาการ แม่ท้องต้องอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินหมูสะเต๊ะได้ไหม รู้ไหมว่าน้ำจิ้มอันตรายแค่ไหน
คนท้องกินโจ๊กซองได้ไหม โจ๊กสำเร็จรูป มีปริมาณโซเดียมสูงนะ
คนท้องกินแกงเขียวหวานได้ไหม กินบ่อยรู้ไหมว่าพริกแกงอันตราย ?
ที่มา : Sgethai, Calforlife