เผือก และมันของคู่กันที่ถ้าใครชอบอีกอย่างหนึ่ง ก็คงชอบอีกชนิดหนึ่งด้วย เพราะรสชาติที่ทานง่าย และสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายเมนู จึงทำให้สามารถหาซื้อทานได้ไม่ยาก แต่สงสัยไหมว่า คนท้องกินเผือก กินมันเทศ ได้ไหม วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้
คนท้องกินเผือก กินมันเทศ ได้ไหม ?
ทั้งเผือก และมันเทศ ถือเป็นพืชชนิดหัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของทุกคน แน่นอนว่าจะต้องมีประโยชน์ต่อคุณแม่ท้องด้วยแน่นอน การทานเผือก และมันเทศที่ปรุงสุก จะช่วยลดสารที่อาจติดมากับพืช ทำให้ทานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ถึงแม้ว่าพืชทั้งสองชนิดนี้จะมีสารอาหารที่หลากหลาย และมีส่วนช่วยในการป้องกันร่างกายจากโรคต่าง ๆ ได้พอสมควร แต่แม่ท้องไม่ควรทานมากเกินไป เพราะยังมีสารอาหารชนิดอื่นที่พืชทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่มี ดังนั้นควรนำมาทานในเวลาว่าง ประกอบกับการทานอาหารมื้ออื่น ๆ ให้ครบ 5 หมู่
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินขนมครกได้ไหม หอม ๆ มัน ๆ อันตรายกว่าที่คิดนะ
สารอาหารที่พบในเผือก
เผือกถือว่ามีประโยชน์มาก และยังเป็นเมนูที่ให้พลังงานไม่มากจนเกินไป ทำให้คุณแม่ท้องสามารถทานได้โดยไม่ต้องกลัวว่าน้ำหนักจะขึ้น โดยการทานเผือกโดยปกติประมาณ 132 กรัม จะให้พลังงานประมาณ 187 กิโลแคลอรี นอกจากนี้เผือกยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อีกหลายอย่าง ที่สามารถช่วยให้คุณแม่แข็งแรง และเป็นประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ ตัวอย่างเช่น
- โปรตีน ประมาณ 1 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต ประมาณ 39 กรัม
- น้ำตาล ประมาณ 1 กรัม
- ไขมันประมาณ 0.1 กรัม
- วิตามินนานาชนิด เช่น วิตามิน E, วิตามิน C และวิตามิน B6
นอกจากสารอาหารที่เหล่ากล่าวไปแล้ว ในเผือกยังมีแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น โฟเลต, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส และแมงกานีส เป็นต้น
ประโยชน์ของเผือกต่อคนท้อง
การกินเผือกของแม่ท้องสามารถช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะการป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ที่ถือว่าเผือกสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ดี ทำให้คุณแม่ลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงระหว่างตั้งครรภ์ได้ ตัวอย่างเช่น
- มีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : ในเผือกมีคาร์โบไฮเดรตที่ไม่สามารถถูกร่างกายของเราย่อยได้ ทำให้ไม่ถูกนำไปแปลเป็นน้ำตาล ทำให้แม้เผือกจะมีรสหวาน แต่ก็ไม่ทำให้เสี่ยงเบาหวาน หรือโรคอ้วนแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความจะกินมากแค่ไหนก็ได้ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
- ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงมากขึ้น : สารอาหารอย่างไฟเบอร์ และคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยไม่ได้ แต่จะกลายเป็นอาหารของแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และการดูดซึมของเหลวในลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ : เป็นผลพวงมาจากคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ย่อยกลายเป็นน้ำตาล เมื่อปริมาณน้ำตาลเลือดไม่สูง ไม่ใช่แค่จะทำให้ความดันไม่สูงเท่านั้น แต่การไม่มีน้ำตาล หรือไขมันในเส้นเลือด ทำให้เลือดมีคุณภาพ ไม่เกิดการอุดตัน และลดโอกาสที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจตามไปด้วยนั่นเอง
- ช่วยต้านมะเร็ง : ในเผือกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า “โพลีฟีนอล (Polyphenols)” อย่าง “เควอซิทีน (Quercetin)” ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านมะเร็งได้ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของโรคมะเร็งยังสามารถเกิดขึ้นได้อีกหลายปัจจัย และต้องดูแลร่างกายอย่างดี การกินเผือกอย่างเดียวอาจป้องกันไม่ได้
แม่ท้องจะกินเผือกต้องระวังอะไรบ้าง ?
ปกติแล้วบริเวณหัวของเผือกจะมีผลึกที่ชื่อว่า “แคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate)” ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยผู้ที่แพ้จะมีอาการคันช่องปาก รู้สึกแสบร้อน และลิ้นชา เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ สามารถทำได้ด้วยการนำเผือกมาตากแดด นำไปล้างน้ำแช่น้ำ หรือนำไปปรุงอาหารผ่านความร้อนให้สุก เป็นต้น นอกจากนี้คุณแม่บางคนอาจมีอาการแพ้สารบางชนิดในเผือก หากทานแล้วมีความผิดปกติเกิดขึ้น ควรหยุดทานทันที และพบแพทย์เพื่อทำการรักษา และรับคำแนะนำ
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจรู้แล้วว่าเผือกมีประโยชน์ขนาดไหน ซึ่งสามารถนำมาทานเป็นอาหารว่างแทนขนมกรุบกรอบตามร้านสะดวกซื้อได้ดี ต่อไปเรามาดูสารอาหาร และข้อมูลอื่น ๆ ของมันเทศกับแม่ท้องกัน
สารอาหารที่พบในมันเทศ
การทานมันเทศในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานกับร่างกายประมาณ 86 กิโลแคลอรี ส่วนอาหารที่ได้รับก็มีมากมาย และมีความหลากหลายไม่แพ้กับเผือกเลย ได้แก่
- โปรตีน ประมาณ 57 กรัม
- แคลเซียม ประมาณ 30 มิลลิกรัม
- คาร์โบไฮเดรต ประมาณ 20 กรัม
- วิตามิน C ประมาณ 2 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม ประมาณ 337 มิลลิกรัม
- โซเดียม ประมาณ 55 มิลลิกรัม
- โฟเลต ประมาณ 11 ไมโครกรัม
มันเทศยังมีสารอาหารอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโคลีน, เบตาแคโรทีน และแมกนีเซียม เป็นต้น ดังนั้นสามารถมั่นใจได้ว่าการทานมันเทศแต่ละครั้ง จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน
ประโยชน์ของมันเทศกับคนท้อง
หากแม่ท้องกินมันเทศ จะโดดเด่นในเรื่องของการบำรุงร่างกายหลายส่วน ส่วนที่มากที่สุด คือ สายตา เพราะมีสารอาหารที่จะถูกแปลเป็นวิตามินที่จำเป็นได้ ดังนี้
- ช่วยบำรุงสายตา : สารอาหารอย่างเบตาแคโรทีน คือ สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนสารอาหารชนิดนี้ ให้กลายเป็นวิตามิน A ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการบำรุงสายตา และกระตุ้นการทำงานของสายตาให้ดีมากขึ้น เป็นทางเลือกที่ดีต่อการบำรุงสายตาผ่านการทานอาหาร
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : สารเบตาแคโรทีนที่ถูกร่างกายย่อยสลายกลายเป็นวิตามิน A ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย เราจึงแนะนำให้แม่ท้องกินมันเทศระหว่างร่างกาย เพื่อทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้น
- สามารถช่วยต่อต้านมะเร็ง : สารต้านอนุมูลอิสระแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ในมันเทศ สามารถช่วยชะลอ และยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ แต่การป้องกันมะเร็งให้มีประสิทธิภาพ คนท้องควรตรวจครรภ์ ตรวจสุขภาพ และดูแลร่างกายเพิ่มขึ้นด้วย
แม่ท้องจะกินมันเทศต้องระวังอะไรบ้าง ?
ในมันเทศจะมีสารออกซาเลต (Oxalate) ซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อนิ่วในไตได้ หากทานในปริมาณมาก จึงควรทานแต่พอดี ควรนำมาทานเป็นมื้อว่างเท่านั้น และควรต้องต้มสุกด้วย นอกจากนี้สำหรับผู้ที่แพ้พืชชนิดหัวอื่น ๆ เช่น เผือก หรือแห้ว เป็นต้น ก็มีโอกาสที่จะแพ้มันเทศด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องระวังให้ดี
ทั้งเผือก และมันเทศ เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับแม่ท้องที่รักสุขภาพ ยิ่งทาน ยิ่งมีประโยชน์ หากทานร่วมกับมื้ออาหารอื่น ๆ ทำให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน จะยิ่งทำให้พัฒนาการของทารกในครรภ์ดีตามไปด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินเกาลัดได้ไหม หอม หวาน ต้องเลี่ยงหรือไม่เลี่ยง ?
คนท้องกินหมูยอได้ไหม หาซื้อง่าย แต่มีอันตรายถ้าเลือกไม่ดี
คนท้องกินพืช GMO ได้ไหม พืชตัดแต่งพันธุกรรมทำไมไม่ปลอดภัย ?
ที่มา : hellokhunmor, hellokhunmor
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
