คนท้องกินเอแคลร์ได้ไหม ซื้อมาแล้วควรกินให้เร็ว ก่อนเชื้อโรคจะถามหา

ขนมที่หาทานได้ง่าย และอร่อยแบบเอแคลร์ หรือชูครีม คนท้องกินเอแคลร์ได้ไหม ยิ่งถ้าเป็นของโปรดแต่ต้องงดทานคงเสียใจแย่ วันนี้เราจะมาให้คำตอบว่าคนท้องควรกินเอแคลร์อย่างไรให้ปลอดภัยกัน

เอแคลร์มาจากไหน เป็นของประเทศอะไร

เอแคลร์ (Eclair) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส มีการคิดค้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยพ่อครัวชื่อ “Antonin Carême” โดยในอดีตขนมชนิดนี้ยังมีอีกหลายชื่อ เช่น “pain à la Duchesse” หรือ “Petite Duchesse” เป็นต้น แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ คือ เอแคลร์ที่เราเรียกกันติดปากมานั้น รูปร่างหน้าตาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ขนมเอแคลร์โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นรูปทรงยาว มักราดด้วยช็อกโกแลต หรือราดด้วยของตกแต่งชนิดต่าง ๆ และไม่มีไส้อีกด้วย

ส่วนขนมที่เรานำมาทานกันแล้วเรียกติดปากว่าเอแคลร์นั้น จริง ๆ แล้วมีชื่อว่า “ชูครีม (Choux Cream)” ที่มาจากคำว่า “ชูซ์ อา ลาเคร์ม (Choux a la Crème)” เป็นขนมฝรั่งเศสเช่นกัน คำนี้มีความหมายว่ากะหล่ำปลีที่มีครีม เพราะรูปทรงของขนมชนิดนี้มีความคล้ายกะหล่ำปลีนั่นเอง

คนท้องกินเอแคลร์ได้ไหม

ขนมที่มีความนุ่ม หวาน หอม ยิ่งทานตอนกำลังเย็น ๆ ยิ่งฟิน เรากำลังพูดถึง “ชูครีม” หรือที่เรียกติดปากกันว่า “เอแคลร์” หนึ่งในขนมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และหาทานได้ง่าย แต่คนท้องสามารถกินได้หรือไม่ หากมีความกังวลไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะคนท้องสามารถกินเอแคลร์ได้ ไม่ใช่ขนมที่ต้องเลี่ยง อย่างไรก็ตามแม้จะทานได้ สิ่งสำคัญ คือ ความสะอาดของขนม โดยเฉพาะไส้ที่ควรอยู่ในอุณหภูมิเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคที่อาจติดมากับขนมกระจายตัว หากคุณแม่ต้องการกินเอแคลร์นอกจากเลือกร้านที่สะอาดแล้ว ยังต้องรีบกิน และไม่ควรวางทิ้งไว้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินกล้วยทอดได้ไหม พลังงานสูงอ้วนง่าย แต่ยังพอมีประโยชน์

เอแคลร์มีสารอาหารอะไรบ้าง 1 ชิ้นกี่กิโลแคลอรี

การทำเอแคลร์พลังงานจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับของแต่ละสูตร แต่ละร้านด้วย หากวัดจากเอแคลร์ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อเฉลี่ยพลังงานอยู่ที่ชิ้นละประมาณ 30 กิโลแคลอรีเท่านั้น แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ส่วนมากจะบรรจุขายประมาณ 5 – 6 ชิ้น ทำให้จำนวนพลังงานที่ร่างกายของคุณแม่จะได้รับจากการทานแต่ละครั้ง เท่ากับประมาณ 200 กิโลแคลอรี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยไม่มากจนเกินไปสำหรับของทานเล่น

ขึ้นชื่อว่าเป็นของหวาน เป็นขนมแน่นอนว่าคุณค่าทางโภชนาการก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร โดยสารอาหารหลักที่ร่างกายจะได้ก็เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่ เช่น ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน นอกจากนี้อาจมีสารอาหารอื่น ๆ เพียงเล็กน้อย เช่น โซเดียม, ใยอาหาร, แคลเซียม และวิตามิน A เป็นต้น แต่สารอาหารเหล่านี้ไม่ได้มีมาก หากต้องการสารอาหารเหล่านี้สามารถเลือกทานผักผลไม้จะให้ผลดีกว่ามาก

ครีมเอแคลร์อาจแฝงอันตรายหากไม่ระวัง

การกินขนมชนิดนี้นอกจากความหวานหอมแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือไส้ที่ทำมาจากครีมรสชาติต่าง ๆ ซึ่งจุดนี้เองที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “บาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus Cereus)” สาเหตุหนึ่งของอาการท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ และเป็นหนึ่งในเชื้อโรคที่พบได้บ่อยในอาหาร สังเกตจากอาการท้องเสีย หรืออาเจียนหลังจากกินเอแคลร์ไปประมาณ ประมาณ 30 นาที – 6 ชั่วโมง ปัญหาความเสี่ยงนี้สามารถแก้ได้ด้วยการเลือกร้านที่สะอาดปลอดภัย และการรีบกินให้หมด ไม่ควรวางขนมทิ้งไว้ เนื่องจากเมื่อขนมออกจากอุณหภูมิที่แช่มา จะทำให้เชื้อโรคอาจเติบโตได้

หากคุณแม่คนไหนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เรื่องนี้ทางด้านของสถาบันอาหารทำการสุ่มตัวอย่างเอแคลร์ทั้งหมด 5 ตัวอย่าง จากย่านการค้า พบว่ามี 2 ตัวอย่างที่มีการปนเปื้อนเชื้อบาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus Cereus) อีกทั้งการปนเปื้อนยังมากกว่าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดเอาไว้อีกด้วย โดยมีการกำหนดการปนเปื้อนที่ไม่เป็นอันตรายอยู่ที่ 100 ซีเอฟยู/กรัม แต่ที่ตรวจพบ คือ 200,000 ซีเอฟยู/กรัม และ 540,000 ซีเอฟยู/กรัม

วิดีโอจาก : ครัวป้ามารายห์

คนท้องกินเอแคลร์อย่างไรให้ปลอดภัย

ขนมเกือบทุกชนิดมีหลักในการกินที่คล้าย ๆ กัน สำหรับคนท้องการกินให้พอดีไม่มากเกินไป เลือกร้านที่มีคุณภาพก็สามารถช่วยได้เยอะมากแล้ว หากแม่ท้องต้องการกินเอแคลร์ หรือชูครีม ให้คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ ได้แก่

• อย่างแรกคือ การต้องเลือกร้านที่มีความสะอาด ถูกหลักสุขอนามัย มีความรู้ในการทำขนม และรักษาขนมเป็นอย่างดี
• ไม่ควรซื้อมาในปริมาณมาก ควรซื้อมาในปริมาณที่พอทาน เนื่องจากขนมชนิดนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้นาน
• เมื่อซื้อมาทานไม่ควรวางทิ้งไว้โดยไม่แช่เย็น หากเป็นไปได้ ก็ควรทานให้เร็วที่สุดหลังจากซื้อมา เมื่อไม่ทานก็ควรแช่เย็น และไม่ควรเก็บไว้ค้างคืนอีกด้วย
• ไม่ควรซื้อมาทานบ่อย เนื่องจากขนมชนิดนี้เมื่อกินมาก ๆ จะทำให้คุณแม่อิ่มท้อง แต่มีสารอาหารน้อยมาก อาจทำให้ทารกในครรภ์ขาดสารอาหารได้
• หมั่นดูแลสุขภาพหากเป็นคนชอบทานขนมยิ่งต้องดูแล คุณแม่ควรปรึกษานักโภชนาการในการทานอาหารให้ถูกต้อง และสอบถามผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่เหมาะสมขณะตั้งครรภ์

นอกจากขนมแล้ว มื้อว่างระหว่างวันคุณแม่ควรเลือกทานผลไม้บ้าง ไม่ควรตามใจปากมากเกินไป เพราะสิ่งที่คุณแม่กิน จะถูกส่งต่อไปให้ทารกในครรภ์ด้วยนั่นเอง

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินทอดมันได้ไหม กินปลาเห็ดได้หรือเปล่า ก่อนทานต้องระวังอะไร

คนท้องกินน้ำแร่ได้ไหม ดีกว่าน้ำเปล่าแน่ไหม กินมาก ๆ ดีจริงหรือ

คนท้องกินต้มอึ่งได้ไหม กินเมนูอึ่งได้หรือเปล่า อะไรบ้างที่ต้องระวัง

ที่มา : thairath, calforlife