เดินผ่านแล้วมีกลิ่นหอม หันไปเจอคั่วแบบสด ๆ ยิ่งทำให้อยากลิ้มลอง “เกาลัด” ที่ดูแล้วน่าจะมีประโยชน์ แถมอร่อยด้วย คนท้องกินเกาลัดได้ไหม สำหรับแม่ท้องสามารถทานได้ เพราะเกาลัดถือเป็นอาหารแนะนำที่คุณแม่ควรทาน ด้วยประโยชน์ที่หลากหลาย มาพร้อมกับคุณค่าทางโภชนาการหลายชนิด
คนท้องกินเกาลัดได้ไหม มีโทษหรือประโยชน์ ?
สำหรับเกาลัดที่มีกลิ่นหอมเกินห้ามใจ คนท้องไม่ต้องห้ามใจตัวเอง เพราะคนท้องสามารถกินเกาลัดได้ตามปกติ นอกจากจะไม่ต้องเลี่ยงแล้ว เกาลัดยังถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการกับคนท้องสูง แต่การทานนั้นอาจมีข้อจำกัด หรือข้อควรระวังบางอย่างที่ต้องรู้ไว้ก่อน เช่น ระวังการกินเกาลัดที่ไม่ได้ต้มสุก หรือระวังการกินเกาลัดที่ไหม้เกินไป แม่ท้องหลายคนอาจเป็นกังวลว่าเกาลัดที่มีรอยไหม้จะอันตราย แต่ในความเป็นจริงแล้วรอยไหม้จะอยู่แค่เปลือกนอกเท่านั้น แต่ถ้าหากไหม้มากเกินไป แม่ท้องอาจจำเป็นจะต้องเลี่ยง เป็นต้น
นอกจากนี้การทานอาหารของคนท้อง ถึงแม้ว่าจะกินของที่มีประโยชน์อย่างเกาลัด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกินแต่เกาลัด หรือกินมาก ๆ ไว้ก่อน การกินอาหารเพียงไม่กี่เมนู อาจทำให้แม่ท้องสุ่มเสี่ยงต่อภาวะการขาดสารอาหารได้ ถึงแม้จะชอบกินเกาลัด แม่ท้องก็ควรกินอาหารให้หลากหลายใน 1 วัน เพื่อให้ร่างกายมีสารอาหารที่จำเป็นต่อตนเอง และต่อทารกในครรภ์ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินหมูยอได้ไหม หาซื้อง่าย แต่มีอันตรายถ้าเลือกไม่ดี
ระวังการทานเกาลัดม้า
เกาลัดม้า (Horse Chestnut) มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเกาลัดหวานทั่ว ๆ ไปที่เรานำมาทานกัน แต่เกาลัดม้าจะมีรสขม เปลือก ดอก และใบของพืชเป็นพิษ ไม่ปลอดภัยสำหรับการบริโภคในทุกกรณี เพราะรุนแรงสูงสุดถึงขั้นเสียชีวิตได้ จากการได้รับพิษ “เอสคูลิน (Aesculin)” กรณีที่แม่ท้องเป็นคนที่ชอบซื้อมาคั่วเอง อาจต้องระวังหน่อย ควรสอบถามทางร้านค้าให้ดีก่อน อย่างไรก็ตามเกาลัดม้าไม่ใช่สิ่งที่นำมาทำอาหารอยู่แล้ว จึงไม่สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด
ประโยชน์ของเกาลัดที่แม่ท้องต้องรู้
จุดเด่นของเกาลัด คือ สารอาหารที่หลากหลาย ทำให้ร่างกายที่รับสารอาหารเหล่านั้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายต่อหลายอย่าง และยังส่งผลดีต่อทารกในครรภ์ได้อีกด้วย ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : การทานเกาลัด ทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่มีคุณภาพสูง และยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อคนท้อง ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีโอกาสเจ็บป่วยได้ยากขึ้น
- ลดอาการบวมน้ำ : โพแทสเซียมในเกาลัดสามารถช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย หากร่างกายขาดโพแทสเซียม จะทำให้มีโซเดียมในร่างกายมากไป ส่งผลเซลล์บวมน้ำ จนเกิดอาการบวมน้ำนั่นเอง การเลือกกินเกาลัด จึงสามารถช่วยลดอาการบวมน้ำระหว่างตั้งครรภ์ได้
- ส่งเสริมการพัฒนาทารกในครรภ์ : ในเกาลัดยังมีโพแทสเซียม, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, และรวมถึงวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินซี, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 เป็นสารอาหารเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันการแท้งบุตร และยังป้องกันความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย
- ทำให้ระบบทางเดินอาหารแข็งแรง : แร่ธาตุต่าง ๆ ในเกาลัด มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร สำหรับคนที่กำลังท้อง แล้วมีอาการแพ้ท้อง หรือมีความอยากอาหารน้อยลง เกาลัดจะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความอยากอาหารให้ทานได้มากขึ้น ขับถ่ายได้มากขึ้น
- ช่วยพัฒนาสมอง และระบบประสาท : ไขมันในเกาลัด มีส่วนช่วยพัฒนาสมอง และระบบประสาทของทารกในครรภ์ เพราะไขมันเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของระบบประสาท และสมอง หากไม่มีไขมันที่เพียงพอ การแบ่งเซลล์สมองของทารกอาจไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
- ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย : แร่ธาตุหลายชนิดในเกาลัด สามารถช่วยให้เกิดความผ่อนคลายได้ ทำให้การกินเกาลัดเล่น ๆ สามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ดี
สารอาหารหลักในเกาลัด
การกินเกาลัดในปริมาณ 100 กรัม จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียง 131 กิโลแคลอรี ทำให้สบายใจในเรื่องของน้ำหนักได้เลย นอกจากนี้เกาลัดยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น
- ธาตุเหล็ก : การมีธาตุเหล็กในร่างกายของคุณแม่อย่างเพียงพอ ทำให้ทารกได้รับแร่ธาตุไปด้วย สามารถช่วยลดโอกาสที่ทารกจะมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ในช่วงเพิ่งคลอดได้ดี
- แมกนีเซียม : หากแม่ท้องเกิดการขาดสารแมกนีเซียม อาจส่งผลทำให้เกิด “ภาวะเมแทบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome)” ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายเผาผลาญอาหารผิดปกติ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันสูง เป็นต้น
- กรดโฟเลต : เกาลัดมีโฟเลตในปริมาณสูง ส่งผลดีต่อสุขภาพคนท้อง กรดโฟเลตจำเป็นต่อการเจริญเติบโต และการเพิ่มเซลล์ของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดของคนท้อง กรดโฟเลตยังส่งผลต่อน้ำหนักของทารกอีกด้วย
- ทองแดง : ทองแดงถือเป็นแร่ธาตุสำคัญ สำหรับการพัฒนาทางปัญญา และพัฒนาการของโครงกระดูกของทารกในครรภ์
- สังกะสี : เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาการของทารกในครรภ์ หากขาดสังกะสีจะทำให้ทารกเกิดความบกพร่องทางการเรียนรู้, การรับรู้ และเกิดปัญหาผิวหนังได้ รวมถึงยังส่งผลเสียต่อระบบทางเดินอาหารของทารกอีกด้วย
การเลือกเกาลัดสำหรับคนท้อง
- เลือกโดยวัดจากสายพันธุ์ที่ชอบทาน โดยทั่วไปที่เรามักเจอกันตามตลาด จะเป็นสายพันธุ์จากประเทศจีน เพราะให้รสที่หวาน และมีความหอมในเวลาเดียวกัน
- หากต้องการทานทันทีสามารถเลือกแบบที่แกะเปลือกมาแล้วได้ แต่หากต้องการเก็บไว้ก่อนค่อยทาน ควรเลือกแบบที่ยังไม่แกะ เพราะจะเก็บไว้ได้นานกว่า
- ดูวิธีการผลิตให้ดี เพราะเกาลัดสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งแบบอบที่จะมีความฉ่ำน้ำมากกว่า ส่วนแบบคั่วจะมีกลิ่นหอมที่มากกว่า เป็นต้น
- ระวังเรื่องปริมาณ ไม่ควรซื้อมาทานเยอะ หากไม่มั่นใจว่าจะสามารถทานได้หมด เนื่องจากถึงแม้แบบมีเปลือกจะเก็บไว้ทานได้ แต่ระยะเวลาในการเก็บรักษาก็ไม่มากอยู่ดี โดยปกติจะไม่เกิน 1 อาทิตย์
- ดูวันหมดอายุก่อน หากซื้อมาแบบสำเร็จรูปตามหน้าร้าน หรือห้างสรรพสินค้า เพราะเก็บไว้ได้ไม่นาน หากซื้อเกาลัดที่ใกล้หมดอายุอาจทานไม่ทัน
- ระวังความไหม้เกรียม ถึงแม้การไหม้ดำจะเป็นแค่เปลือกนอก สามารถทานได้ปกติ แต่ยังต้องระวังกรณีที่ไหม้มากจนถึงเนื้อเกาลัด แม่ท้องควรเลี่ยงทาน
การกินเกาลัดด้วยรสชาติหวาน หอม และมัน เป็นทางเลือกการทานอาหารของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ที่ได้ทั้งประโยชน์ และส่งผลดีต่อทารกน้อยในครรภ์ด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินพืช GMO ได้ไหม พืชตัดแต่งพันธุกรรมทำไมไม่ปลอดภัย ?
คนท้องกินขนมจีนได้ไหม กังวลใจ ต้องเลี่ยงหรือเปล่า ?
คนท้องกินแต่ผักผลไม้ดีจริงหรือ ? ประโยชน์มีแน่นอน แต่โทษก็ไม่น้อย
ที่มา : pregnancyfoodchecker, plerne