TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว ต่างกับดูดจุกยังไง แบบไหนดีกว่ากัน

บทความ 5 นาที
ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว ต่างกับดูดจุกยังไง แบบไหนดีกว่ากัน

บ้านไหนกังวลใจเรื่อง ลูกดูดนิ้ว และยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ดูดจุกหลอก ดีมั้ย 2 พฤติกรรมนี้ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่ากัน ตามอ่านด้านล่างเลยค่ะ

เคยสังเกตกันใช่ไหมคะว่า มีเด็กทารกและเด็กเล็กบางคนชอบดูดนิ้ว หรือบางคนก็ติดจุกหลอก ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับเด็กหลายคนค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อาจกังวลว่าทั้งการดูดนิ้วและการดูดจุกหลอกนี้จะส่งผลเสียต่อพัฒนาการลูกน้อยบ้างหรือไม่? ทารกที่ ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว ต่างกับดูดจุกยังไง แบบไหนดีกว่ากัน บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจทุกปัญหา “การดูด” ของลูก รวมถึงมีวิธีการจัดการที่เหมาะสมมาให้ด้วยค่ะ

ทำไม เด็กชอบดูด

สารบัญ

  • ทำไม? เด็กชอบดูด
  • ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว หรือดูดจุก ต่างกันยังไง
  • ลูกดูดนิ้ว
  • ดูดจุกหลอก
  • ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ? มีข้อดีข้อเสียอย่างไรต่อลูกน้อย
  • ข้อดี-ข้อเสียของการ ดูดจุกหลอก
  • ดูดจุกหลอก ให้ได้ประโยชน์ทำยังไง?
  • 7 วิธีแก้ ลูกดูดนิ้ว แบบไม่ต้อง ดูดจุกหลอก

ทำไม? เด็กชอบดูด

“การดูด” นั้นเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งของลูกตั้งแต่ในครรภ์ค่ะ เมื่อคลอดออกมาจึงสามารถดูดนมจากเต้าคุณแม่ได้ รวมถึงยกนิ้วน้อยๆ ขึ้นมาดูดได้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นไปโดยไม่ตั้งใจ แต่เป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติที่ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย ซึ่งการดูดอาจช่วยให้ทารกสงบลงเมื่อรู้สึกหิว ง่วง หรือไม่สบายใจ จนกระทั่งมีอายุประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งเป็นวันที่ลูกเริ่มเอื้อมมือคว้าและหยิบสิ่งของต่างๆ เข้าปากได้นั่นแหละค่ะ เป็นช่วงที่ลูกเริ่ม “ตั้งใจดูด”

ดูดจุกหลอก ดียังไง

ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว หรือดูดจุก ต่างกันยังไง

เชื่อว่ามีคุณพ่อคุณแม่หลายบ้านเลยค่ะ ที่กังวลใจเกี่ยวกับการที่ ลูกดูดนิ้ว จนเกิดเป็นความคิดและความสับสนว่า จะใช้ จุกหลอก ให้ลูกดูดแทนดีหรือเปล่า ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม เอาเป็นว่ามาดูและทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรม ลูกดูดนิ้ว กับ ดูดจุกหลอก กันก่อนค่ะว่าเหมือนหรือต่างกันยังไง ทดแทนกันได้ไหม ให้ลูกดูดแบบไหนดี

  • ลูกดูดนิ้ว

โดยธรรมชาติแล้วลูกน้อยอาจดูดนิ้วเป็นระยะๆ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 2 ขวบ ตามพัฒนาการ โดยทารกวัย 0-1 ปีนั้นอยู่ในระยะ oral stage ลูกจะมีความสุขกับการดูดและการได้กินอิ่ม การที่เด็กวัยนี้เอานิ้วมือเข้าปากเกิดได้จากหลายประการค่ะ ทั้งเป็นช่วงที่ความสนใจของลูกจะอยู่ที่ปากเป็นหลัก ทั้งดูด เลีย ชิม หรือบางครั้งอมทั้งมือก็มี รวมไปถึงการสำรวจนิ้วมือตัวเอง หรืออาการคันเหงือกจากฟันที่กำลังจะขึ้น รวมทั้งใช้แทนการสื่อสารว่า “หนูหิวแล้ว” ก็เป็นไปได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วส่วนใหญ่เด็กมักจะเลิกดูดไปเองได้ในช่วงอายุ 2-4 ปี โดยเฉพาะตอนที่ฟันหน้าบนเริ่มขึ้นและงอกออกมาเต็มซี่ ทำให้ดูดลำบาก เพราะดูดแล้วฟันขบนิ้ว ดังนั้น การดูดนิ้วไม่อันตรายค่ะตราบใดที่นิ้วลูกไม่เปื่อย ไม่เป็นแผล ดูดเป็นครั้งคราว และไม่ดูดไปเรื่อยจนอายุเกิน 3-4 ขวบ หากเกินต้องรีบจัดการให้เลิกได้ค่ะ เพราะอาจมีปัญหาเรื่อง ฟันยื่น ฟันเหยิน และการสบของฟันผิดปกติได้

  • ดูดจุกหลอก

จุกหลอก คือ อุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันหรือทดแทนการที่ ลูกดูดนิ้ว ให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย โดยปัจจุบันมีจุกหลอกให้คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย ทั้งตามขนาดที่ขึ้นอยู่กับอายุของลูกน้อย และตามวัสดุที่ใช้ผลิต เช่น ยาง และซิลิโคน และแม้จะเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ แต่จุกหลอกก็อาจมีข้อเสียหากใช้ไม่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่จึงควรทำความเข้าใจก่อนใช้งาน เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องว่าจะเลือกใช้จุกหลอกดีหรือไม่ ควรใช้อย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกน้อย หรือควรรอเวลาให้ลูกเลิกดูดนิ้วไปเองตามพัฒนาการ

ทั้งนี้ โดยมากแล้วเด็กๆ มักชอบดูดนิ้วมือมากกว่าจุกหลอก เนื่องจากนิ้วมือเป็นอวัยวะที่อยู่กับตัว ยกขึ้นดูดเมื่อไรก็ได้ หลุดออกจากปากไปก็แค่เอาเข้าปากใหม่ ไม่ร้องไห้ ตรงกันข้าม หากจุกหลอกหลุด ลูกจะร้องไห้โยเยเลยทีเดียว ดังนั้น การดูดนิ้วมือจึงเลิกยากกว่าการดูดจุกหลอก และทำให้ลูกติดดูดนิ้วมากกว่า ซึ่งมีผลต่อโครงสร้างฟันเหมือนกัน นอกจากนี้ การดูดนิ้วมือยังทำให้ลูกได้รับเชื้อโรคมากขึ้นด้วย เพราะมือน้อยๆ นั้นอาจไปหยิบจับ สัมผัสสิ่งต่างๆ แล้วนำเข้าปาก ขณะที่การใช้จุกหลอกคุณแม่สามารถทำความสะอาดก่อนให้ลูกดูดได้

ลูกดูดนิ้ว ต่างกับ ดูดจุกหลอก ยังไง

ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ? มีข้อดีข้อเสียอย่างไรต่อลูกน้อย

ขึ้นชื่อว่า “การดูด” อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลว่าถ้าให้ลูก ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม เพราะการดูดนมจากขวดตามปกติ หรือแม้กระทั่งการดูดนมจากเต้าคุณแม่ (แบบไม่ถูกวิธี ให้นมแบบผิดท่า) ก็สามารถทำให้ลูกดูดลมเข้าไปจนส่งผลให้ท้องอืดได้ ดูดจุกหลอก ก็เช่นกัน โดยเฉพาะจุกหลอกที่ไม่มีรูระบายอากาศค่ะ

เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยและไม่ท้องอืด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

  1. เลือกแบบมีรูระบาย: เลือกจุกหลอกที่มีรูระบายอากาศ (Ventilation holes) เพื่อให้อากาศไหลเวียน ไม่เกิดแรงดันสูญญากาศ

  2. อย่าให้ดูดตอนหิวจัด: เพราะลูกจะดูดแรงและกลืนลมเข้าไปมาก ควรใช้เฉพาะตอนกล่อมหลับหรือตอนงอแงหลังกินอิ่มแล้ว

  3. ขนาดต้องพอดี: เลือกไซซ์ให้เหมาะกับอายุทารก เช่น 0-3 เดือน, 3-6 เดือน

 

ข้อดี-ข้อเสียของการ ดูดจุกหลอก

ข้อดี ข้อเสีย
  • ป้องกันการติดนิสัยดูดนิ้ว เพราะการดูดนิ้วเลิกได้ยากกว่า ซึ่งจุกหลอกนั้นหากลูกไม่ได้ใช้ก็จะเลิกติดจุกหลอกไปเองได้
  • ส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก หากใช้จุกหลอกติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่าอายุ 2 ปีขึ้นไป ฟันลูกอาจขึ้นในลักษณะผิดปกติ หรือฟันเรียงตัวผิดปกติ ฟันยื่น ฟันเหยิน หรือสบกันแบบไม่ปกติ
  • ลดการเสียชีวิตจากภาวะหยุดหายใจกะทันหันขณะหลับ (SIDS) ช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติในการควบคุมการหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจทำงานได้อย่างถูกต้อง แม้จุกจะหลุดจากปากไปแล้ว
  • เสี่ยงติดจุกหลอก หากใช้จุกหลอกเพื่อช่วยให้ลูกนอนหลับง่ายบ่อยๆ ลูกอาจติดเป็นนิสัยจนต้องดูดจุกหลอกตลอดเวลาขณะนอนหลับ และร้องไห้งอแงกลางดึกเมื่อจุกหลอกหลุดออกจากปาก
  • ช่วยให้ลูกอารมณ์ดีขึ้น ช่วยฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์ รู้สึกผ่อนคลาย และปลอดภัยขึ้น
  • เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่หูชั้นกลาง เนื่องจากจุกหลอกอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคหากไม่มีการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม
  • ลูกนอนหลับได้ดี สำหรับทารกที่มีปัญหาในการนอน จุกหลอกจะช่วยให้ผ่อนคลายจนหลับได้ง่ายและนานขึ้น
  • ส่งผลเสียต่อการให้นมแม่ หากเริ่มใช้จุกหลอกเร็วเกินไป ลูกอาจสับสนระหว่างการดูดนมแม่กับการดูดจุกหลอก เนื่องจากมีวิธีการดูดที่แตกต่างกัน อาจส่งผลกระทบต่อการดูดน้ำนมได้

 

  • เบี่ยงเบนความสนใจได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องฉีดยาหรือเจาะเลือด เพราะลูกจะผ่อนคลายและรู้สึกปลอดภัย

ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม

ดูดจุกหลอก ให้ได้ประโยชน์ทำยังไง?

สมาคมกุมารแพทย์อเมริกา (AAP) นั้นแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ใช้จุกหลอกในกรณีที่ลูกน้อยคลอดก่อนกำหนดค่ะ เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงภาวะหยุดหายใจกะทันหันขณะหลับ ที่เป็นหนึ่งในปัญหาที่พบกับเด็กคลอดก่อนกำหนด และมีวิธีการใช้ที่เหมาะสม ดังนี้

  • สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ยกเว้นในกรณีที่ลูกดูดนมจากเต้าคุณนมแม่ แนะนำว่าให้รอไปถึง 3-4 สัปดาห์หลังคลอดเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับการดูดนมจากอกแม่ แต่หากจำเป็นต้องดูดนมจากขวดตั้งแต่แรกก็สามารถเริ่มใช้จุกหลอกได้ทันทีค่ะ
  • เลือกจุกนมหลอกแบบซิลิโคน ที่มีลักษณะเป็นชิ้นเดียว ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยเป็นพิเศษ BPA Free ปลอดสารบิสฟีนอล-เอ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็ก
  • ฐานของจุกหลอกต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 3.8 เซนติเมตร
  • ต้องฆ่าเชื้อและรักษาความสะอาดจุกหลอกทุกครั้งด้วยสบู่และน้ำร้อน หากไปได้ควรอบฆ่าเชื้อด้วย UV
  • ใช้จุกหลอกที่มีรูระบายอากาศ เพื่อให้อากาศผ่านได้ ลดความเสี่ยงท้องอืด และลดการสะสมของเชื้อโรค
  • หลีกเลี่ยงการคล้องสายจุกหลอกให้ลูก เพราะอาจทำให้สายรัดหรือพันคอและเป็นอันตรายได้
  • ไม่ควรเคลือบจุกหลอกด้วยน้ำหวานหรือน้ำผึ้ง เพราะจะทำให้ลูกฟันผุ อีกทั้งน้ำผึ้งยังเป็นอันตรายต่อเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี โดยอาจทำให้เกิดโรคโบทูลิซึม ซึ่งเป็นความผิดปกติของระบบประสาท และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

ลูกดูดนิ้ว

7 วิธีแก้ ลูกดูดนิ้ว แบบไม่ต้อง ดูดจุกหลอก

อย่างที่บอกค่ะว่า การจะให้เลิกดูดนิ้วนั้นยากกว่าการเลิก ดูดจุกหลอก แต่ก็สามารถเลิกได้เองตามพัฒนาการ ซึ่ง ลูกดูดนิ้ว หรือดูดจุกหลอก ก็ล้วนมีผลต่อปัญหาสุขภาพปากและฟันของลูกเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หากลูกน้อยมีอายุเกิน 2 ขวบ ไปจนกระทั่ง 3-4 ขวบแล้วยังไม่ยอมเลิกดูดนิ้ว หรืออยากให้ลูกเลิกดูดนิ้วก่อน 2 ขวบ แบบไม่ต้องพึ่งจุกหลอก เราก็มีวิธีมาแนะนำดังนี้ค่ะ

  1. เริ่มจากการสังเกตว่า ลูกดูดนิ้ว ตอนไหน และเพราะอะไร เช่น ดูดนิ้วตอนง่วง ตอนหิว หรือช่วงที่เล่นเพลินๆ เพื่อจับจุดการให้ลูกเลิกดูดนิ้วได้ถูกต้องค่ะ
  2. อย่าดุ บ่น หรือจี้จุดเรื่องการดูดนิ้วค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ยิ่งพูด ลูกจะยิ่งดูด ยิ่งเครียด อาจบอกลูกง่ายๆ ว่า “เอานิ้วออกนะคะ”​ โดยไม่ต้องดุ แค่บอกว่าเราอยากให้ลูกเอานิ้วออก ลูกจะทำตามค่ะ
  3. เมื่อเห็นลูกดูดนิ้ว ให้เบี่ยงเบนความสนใจไปทำอย่างอื่นแทน เช่น ดูดนิ้วตอนหิวก็พาไปกินอาหาร ดูดนิ้วตอนง่วงก็พาไปกล่อมนอน หรือหยิบนิทานมาอ่านให้ลูกฟังเมื่อเห็นลูกเริ่มดูดนิ้วก็ได้ค่ะ
  4. เนื่องจากลูกอยู่ในวัยที่มีความสุขกับการดูด แม้จะดึงออกลูกก็ดูดใหม่ได้อยู่ดี ดังนั้น เมื่อไรที่ลูกทำท่าจะดูดนิ้ว 1 นิ้ว ลองจับนิ้วอื่นๆ ของลูกเพิ่มเข้าปากไปด้วยทุกครั้ง ในที่สุดลูกอาจรำคาญและเลิกเอานิ้วเข้าปากได้เองค่ะ
  5. หากลูกดูดนิ้วในช่วงที่เหงาหรือกังวล คุณพ่อคุณแม่ควรแสดงความรักโดยการโอบกอดลูกไว้ ให้ความมั่นใจ และเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการดูดนิ้ว ผ่านการทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือหรือปาก
  6. กรณีลูกดูดนิ้วก่อนนอน เพราะพยายามกล่อมตัวเองให้หลับ คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นผู้กล่อมให้ลูกหลับโดยการเล่านิทาน ร้องเพลง กอดกันนอนและจับมือลูกไว้ ช่วยได้ค่ะ
  7. การใส่ถุงมือผ้า หรือการดัดแปลงชุดนอนให้แขนเสื้อยาวมากเกินปกติ เป็นวิธีที่สามารถนำมาช่วยให้ลูกไม่เอานิ้วเข้าปาก โดยเฉพาะตอนนอนได้ค่ะ

วิธีแก้ ลูกดูดนิ้ว

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่ควรทำความสะอาดมือลูกให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ท้องเสียและอาเจียนจากการรับของไม่สะอาดเข้าปาก และหากมือเปื่อยหรือมีแผลให้รีบพาไปพบแพทย์ ดูแลทำความสะอาดแผลให้ดี และเลิกให้ได้จะได้ไม่เป็นแผลเรื้อรังนะคะ… ลูกดูดนิ้ว เลิกยาก แต่เลิกได้ค่ะ!

 

 

ที่มา : เลี้ยงลูกตามใจหมอ , www.samitivejhospitals.com , www.pobpad.com , พี่กัลนมแม่

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทารกมองเห็นตอนไหน จะรู้ได้ยังไงว่าลูกมองเห็น พัฒนาการสายตาแบบไหนผิดปกติ

ไขบนหัวทารก เกิดจากอะไร วิธีทำความสะอาดไขที่หัวทารกง่ายๆ

ลูก 1 เดือน กินนมแม่ แต่ไม่ถ่ายหลายวัน ท้องผูกรึเปล่า ผิดปกติไหม

บทความจากพันธมิตร
Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Godmami กันแดดก้อนเมฆ คว้าชัย!  ครีมกันแดดเด็กดาวรุ่ง 'Most Promising' แห่งปี จาก theAsianparent Awards 2025
Godmami กันแดดก้อนเมฆ คว้าชัย! ครีมกันแดดเด็กดาวรุ่ง 'Most Promising' แห่งปี จาก theAsianparent Awards 2025
สุดยอดตัวช่วยลูกรัก! Master Rabbit Iron With Folic + Vit D  คว้ารางวัล 'Parents' Choice Best Kids Supplemental' จาก theAsianparent Awards 2025
สุดยอดตัวช่วยลูกรัก! Master Rabbit Iron With Folic + Vit D คว้ารางวัล 'Parents' Choice Best Kids Supplemental' จาก theAsianparent Awards 2025

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • หลังคลอด
  • /
  • ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว ต่างกับดูดจุกยังไง แบบไหนดีกว่ากัน
แชร์ :
  • Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
    บทความจากพันธมิตร

    Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • วิจัยเผย! น้ำนมแม่ กลางวัน-กลางคืน ต่างกันยังไง? เทคนิคใหม่คุณแม่นักปั๊มต้องรู้

    วิจัยเผย! น้ำนมแม่ กลางวัน-กลางคืน ต่างกันยังไง? เทคนิคใหม่คุณแม่นักปั๊มต้องรู้

  • Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
    บทความจากพันธมิตร

    Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • วิจัยเผย! น้ำนมแม่ กลางวัน-กลางคืน ต่างกันยังไง? เทคนิคใหม่คุณแม่นักปั๊มต้องรู้

    วิจัยเผย! น้ำนมแม่ กลางวัน-กลางคืน ต่างกันยังไง? เทคนิคใหม่คุณแม่นักปั๊มต้องรู้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว