การให้นมแม่เป็นของขวัญล้ำค่าที่มอบให้ลูกน้อย การเลือกท่าให้นมที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์การให้นมที่ราบรื่นและประสบความสำเร็จสำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย เพราะ ท่าให้นมที่ถูกต้อง จะช่วยให้ลูกดูดนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาหัวนมแตก และส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี
ทำไม ท่าให้นมที่ถูกต้อง จึงสำคัญ?
ท่าให้นมที่ถูกต้อง มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการให้นมแม่ หากท่าให้นมไม่ถูกต้อง อาจส่งผลเสียต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย ดังนี้
- คุณแม่อาจเกิดปัญหาหัวนมแตก นมคัด เจ็บเต้านม และรู้สึกอ่อนล้า
- ลูกน้อยอาจได้รับนมไม่เพียงพอ น้ำหนักไม่เพิ่ม และอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารได้
ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่อการเลือกท่าให้นม เช่น สรีระของแม่และลูก อายุของลูก ปัญหาสุขภาพของแม่และลูก รวมถึงความสะดวกสบายของแม่เอง การเปลี่ยนท่าให้นมเป็นระยะๆ จะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยปรับตัวได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
อุ้มลูกเข้าเต้า 4 ท่าพื้นฐาน ที่คุณแม่ควรลอง
-
ท่าอุ้มลูกฟุตบอล (Clutch hold)
ท่านี้เหมาะสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด ลูกแฝด หรือหัวนมแตก วิธีการคืออุ้มลูกไว้ด้านข้างคล้ายอุ้มลูกฟุตบอล แล้วใช้มือประคองหัวและคอของลูกให้แนบชิดกับตัวแม่
- ข้อดี: ช่วยให้คุณแม่ควบคุมหัวและลำตัวของลูกได้ง่าย
- ข้อควรระวัง: อาจทำให้คุณแม่เมื่อยแขนได้ง่าย ควรเปลี่ยนท่าบ่อยๆ
-
ท่านอนตะแคง (Side lying)
ท่านี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอด หรือลูกหลับง่าย วิธีการคือคุณแม่และลูกนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน ใช้มือประคองหัวและคอของลูกให้แนบชิดกับเต้านม
- ข้อดี: ช่วยให้คุณแม่และลูกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับให้นมกลางคืน
- ข้อควรระวัง: ควรใช้หมอนรองหลังเพื่อให้รู้สึกสบายตัว
-
ท่านั่ง (Sitting)
ท่านี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย วิธีการคือคุณแม่นั่งพิงพนัก แล้วอุ้มลูกให้หน้าของลูกหันเข้าหาเต้านม
- ข้อดี: สะดวกในการให้นม และสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ไปด้วย
- ข้อควรระวัง: ควรใช้หมอนรองศีรษะและลำตัวของลูก เพื่อให้ลูกอยู่ในท่าที่ถูกต้อง
-
ท่าลูกนอนขวางบนตักแบบประยุกต์ (Cross cradle)
ท่านี้เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด ทำเหมือนท่านั่งต่างกันเพียงแค่สลับมือ วิธีการคือคุณแม่อุ้มลูกโดยใช้แขนข้างหนึ่งรองรับศีรษะและคอของลูก อีกแขนหนึ่งประคองเต้านม ท่านี้จะทำให้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวศีรษะของลูกน้อยได้ดี
- ข้อดี: ช่วยให้คุณแม่ควบคุมหัวและลำตัวของลูกได้ง่าย
- ข้อควรระวัง: อาจทำให้คุณแม่เมื่อยแขนได้ง่าย ควรเปลี่ยนท่าบ่อยๆ
วิธีตรวจสอบว่าลูกดูดนมถูกวิธีหรือไม่
ทำไมลูกดูดนมแล้วร้องไห้ อาจเป็นเพราะลูกยังดูดนมไม่ถูกวิธี ทำให้ลูกเจ็บปากหรือได้รับนมไม่เพียงพอ สังเกตได้ดังนี้
- สัญญาณบ่งบอกว่าลูกดูดนมถูกวิธี: ลูกดูดนมได้อย่างต่อเนื่อง ได้ยินเสียงกลืนนมชัดเจน ร่างกายผ่อนคลาย น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์
- สัญญาณบ่งบอกว่าลูกดูดนมไม่ถูกวิธี: ลูกดูดนมไม่นานก็หลับ ร้องไห้บ่อย น้ำหนักไม่เพิ่ม หัวนมแตก ควรตรวจสอบว่าท่าให้นมถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องควรปรับเปลี่ยนท่า
- การแก้ไขปัญหา: หากลูกดูดนมไม่ถูกวิธี ควรปรึกษาคลินิกนมแม่ เพื่อหาสาเหตุและวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
เทคนิคการกระตุ้นให้ลูกดูดนม
- การบีบหัวนมเบาๆ: ก่อนให้นม ให้บีบหัวนมเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้น้ำนมไหล
- การแตะริมฝีปากของลูกด้วยหัวนม: การสัมผัสเบาๆ จะกระตุ้นให้ลูกอยากดูดนม
- การใช้เต้านมแตะที่แก้มของลูก: การกระตุ้นด้วยวิธีนี้จะทำให้ลูกหันหาเต้านม
เทคนิค 4 ดูด ช่วยให้ลูกน้อยได้รับนมแม่อย่างเพียงพอ
เทคนิค 4 ดูด เป็นแนวทางในการให้นมลูกที่มุ่งเน้นให้ลูกน้อยได้รับนมแม่อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่สมบูรณ์แบบของลูกน้อย และช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอต่อความต้องการของลูก ได้แก่ ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี และดูดเกลี้ยงเต้า
1. ดูดเร็ว
หมายถึง ให้ลูกดูดนมแม่ทันทีที่ลูกน้อยคลอดออกมา เพื่อกระตุ้นให้น้ำนมมาเร็ว ยิ่งลูกดูดนมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น และการที่ลูกน้อยได้มาอยู่แนบอกแม่ทันทีหลังคลอดถือเป็นการช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย ช่วยให้ทารกและมารดารู้สึกสงบ และช่วยให้จังหวะการหายใจและการเต้นของหัวใจทารกสม่ำเสมอ ทารกได้รับความอบอุ่นจากความร้อนของร่างกายของมารดา ป้องกันการเกิดอาการตัวเย็น สร้างสายสัมพันธ์แม่ลูกอีกด้วย
2. ดูดบ่อย
การให้นมลูกบ่อยๆ ตามความต้องการของลูก ไม่จำกัดเวลา โดยเฉลี่ยแล้วทารกแรกเกิดจะต้องการนมประมาณ 8-12 ครั้งต่อวัน การดูดนมบ่อยๆ จะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของลูก ควรให้นมลูกเมื่อลูกส่งสัญญาณหิว เช่น ร้องไห้ ดูดนิ้วมือ หรือขยับปาก
3. ดูดถูกวิธี
หมายถึง การที่ลูกน้อยดูดนมครบทั้ง 4 ขั้นตอน ได้แก่ เปิดปากกว้าง หุบปากรอบหัวนม อมลึกถึงลานนม ดูดเร็ว และได้ยินเสียงกลืนนมเป็นจังหวะการดูดนมถูกวิธีจะช่วยให้ลูกได้รับนมอย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาหัวนมแตก สังเกตว่าคางของลูกเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง และได้ยินเสียงกลืนนม
4. ดูดเกลี้ยงเต้า
ควรให้ลูกดูดนมจนหมดเต้าหนึ่งข้างก่อนเปลี่ยนไปอีกข้าง จนรู้สึกว่าเต้านิ่ม เนื่องจากน้ำนมมี 2 ส่วน คือ น้ำนมส่วนหน้าและน้ำนมส่วนหลัง น้ำนมส่วนหลังมีไขมันสูง ช่วยให้ลูกอิ่มนานขึ้น การดูดนมเกลี้ยงเต้าจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน
ประโยชน์ของเทคนิค 4 ดูด
- ช่วยให้ลูกได้รับนมแม่เพียงพอ ทำให้ลูกเจริญเติบโตแข็งแรง
- ป้องกันปัญหาหัวนมแตก การดูดนมที่ถูกวิธีจะช่วยลดแรงกดทับที่หัวนม
- กระตุ้นการผลิตน้ำนม การดูดนมบ่อยๆ จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้น
- สร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูก การให้นมเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูก
ถ้าลูกหลับขณะให้นมควรปลุกหรือไม่
การที่ลูกหลับขณะให้นมเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ลูกหลับบ่อยเกินไปอาจทำให้ลูกไม่ได้รับนมเพียงพอ สาเหตุที่ลูกหลับขณะให้นมอาจเกิดจากความอิ่ม ความเหนื่อยล้า หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ การตัดสินใจว่าจะปลุกลูกหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของลูก น้ำหนักของลูก และความถี่ในการให้นม หากลูกยังเล็กและน้ำหนักน้อย ควรพยายามปลุกลูกให้นมต่อ แต่ถ้าลูกโตแล้วและน้ำหนักดี อาจปล่อยให้ลูกหลับต่อได้
การเลือกท่าให้นมที่ถูกต้องจะช่วยให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือพบปัญหาในการให้นม ควรปรึกษาคลินิกนมแม่ใกล้บ้านเพื่อขอคำแนะนำค่ะ
ที่มา : premierehomehealthcare , enfababy
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รวมเทคนิคช่วยแม่มือใหม่ ท่าให้นมลูก การบีบน้ำนม ทำได้ตามนี้นมแม่มาแน่
กู้น้ำนมแม่! 4 วิธีกระตุ้นน้ำนมไหล ปลุกพลังแม่ให้นมลูก
ให้นมแม่หลังผ่าคลอด เรื่องที่แม่มือใหม่ควรทราบ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!