เต้านมของคุณแม่เป็นอวัยวะอันน่าทึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงดูลูกน้อยค่ะ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเต้านมแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ไปจนถึงการให้นมลูกหลังคลอด เช่น เต้านมขยายขนาดขึ้น หัวนมและรอยบากเปลี่ยนไป หรือมีอาการคัดเต้า จนบางคนรู้สึกเจ็บและรำคาญ แต่ก็มีคุณแม่มือใหม่หลายคนนะคะที่ไม่กลัวเรื่องเต้าคัด แต่กลับกังวลเกี่ยวกับการที่หลังคลอดแล้ว เต้าไม่คัด ทำไงดี เพราะเชื่อว่าการคัดตึงของเต้านมเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีน้ำนมเพียงพอ เรามาหาคำตอบให้เรื่องนี้กันค่ะ

การเปลี่ยนแปลงของเต้านมแม่ระหว่างตั้งครรภ์
ในช่วงที่มีการตั้งครรภ์นั้น เต้านมของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านค่ะ ได้แก่
- มีการขยายตัว โดยเต้านมจะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตน้ำนม
- หัวนมและลานนม วงปานนม มีการเปลี่ยนแปลง คือ จะมีสีเข้มขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น
- มีการสร้างท่อน้ำนม โดยท่อน้ำนมจะเพิ่มจำนวนและขยายตัวเพื่อรองรับการผลิตน้ำนมในปริมาณมาก
อาการคัดเต้า เต้าไม่คัด ของแม่ให้นม
ก่อนจะไปดูว่าอาการคัดเต้า กับเต้าไม่คัด แบบไหนปกติหรือไม่ปกติ ขอชวนคุณแม่มือใหม่มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายตัวเองในช่วงตั้งครรภ์ก่อนค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับ เต้านม
โดยช่วงเริ่มตั้งครรภ์จนถึงคลอดและหลังคลอด ร่างกายคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ โดยฮอร์โมนสำคัญที่มีผลต่อการผลิตน้ำนมแม่คือ ฮอร์โมนโปรแลคติน (Prolactin) ที่จะกระตุ้นการสร้างน้ำนม และฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นการหลั่งน้ำนม
การสร้างน้ำนมนั้นจะเริ่มสร้างเต็มที่โดยใช้ระยะเวลา 2-7 วัน ดังนั้น ในระยะ 1 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่อาจมีน้ำนมมากน้อยแตกต่างกันเป็นปกติ จากนั้นในช่วง 4 สัปดาห์แรกหลังคลอดปริมาณของน้ำนมที่สร้างจะปรับตามความต้องการของลูก และกระตุ้นปริมาณได้จากการดูดของลูกน้อย หากคุณแม่ให้ลูกเข้าเต้าดูดนมอย่างถูกวิธี ดูดจนเกลี้ยงเต้า ก็จะมีสัญญาณสั่งการไปยังสมองให้มีการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนม หลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินเพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำนม
แต่หากลูกดูดนมได้น้อย เข้าเต้าไม่ถูกวิธี หรือคุณแม่ปั๊มนมออกได้ไม่เกลี้ยงเต้า ก็จะทำให้มีน้ำนมค้างในเต้านม จะทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง ยิ่งรวมกับภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการปวดหรือแผลที่หัวนม ก็จะมีผลไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน เมื่อปล่อยทิ้งไว้น้ำนมที่คั่งค้างในเต้าก็จะมากเกินไป จนเต้านมมีขนาดใหญ่ บวม ตึง กดเจ็บทั่ว ๆ เต้านม เรียกว่า อาการเต้านมคัด (Breast engorgement) นั่นเอง
เต้าไม่คัด เกิดจากอะไร?
หลายคนเข้าใจว่า เต้าคัดตึง เท่ากับ มีน้ำนมเยอะ แต่พอ เต้าไม่คัด หรือเต้านิ่มลง ก็มักจะกังวลว่าน้ำนมหายไปไหน จริงๆ แล้วอาการนี้สะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการผลิตและหลั่งน้ำนม อาจกำลังสะดุดอยู่ ซึ่งอาการเต้าไม่คัด อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้
1. ขาดการกระตุ้นอย่างเพียงพอ
ร่างกายเราฉลาดมากค่ะ ถ้าลูกดูดไม่บ่อยพอ หรือกระตุ้นน้อยเกินไป ร่างกายจะไม่หลั่งฮอร์โมนสำคัญ 2 ตัว คือ โปรแลคติน (Prolactin) ฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างน้ำนม และออกซิโทซิน (Oxytocin): ฮอร์โมนกระตุ้นการหลั่งน้ำนม (ทำให้น้ำนมพุ่ง) เมื่อฮอร์โมนไม่ทำงาน น้ำนมใหม่ก็ไม่ถูกสร้าง เต้าจึงไม่คัดตึง
2. มีน้ำนมค้างสต็อก ระบายออกไม่หมด
อันนี้เป็นสาเหตุยอดฮิตเลยค่ะ คือน้ำนมมี แต่เอาออกไม่ได้ หรือเอาออกไม่หมด เกิดจากลูกเข้าเต้าผิดวิธี อมไม่ลึกพอ หรือลูกมีแรงดูดน้อย ทำให้ดูดนมได้ไม่เกลี้ยงเต้า
เมื่อมีน้ำนมเก่าค้างอยู่ในเต้า ร่างกายจะเข้าใจผิดว่า ผลิตมาเกินความต้องการ จึงสั่งลดการผลิตลง และหยุดหลั่งฮอร์โมนโปรแลคติน ทำให้รอบต่อไปน้ำนมหดและเต้าไม่คัด
3. ความเครียดและความเจ็บปวด
ความรู้สึกของคุณแม่ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำนมค่ะ ความเครียด ความกังวล การพักผ่อนน้อย หรือความเจ็บปวด เช่น เจ็บแผลผ่าตัด เจ็บหัวนมแตก เป็นต้น
ความเครียดจะไปยับยั้งฮอร์โมนออกซิโทซิน ทำให้น้ำนมที่ผลิตมารอแล้ว ไม่ยอมไหลออกมา เต้าจึงดูเหมือนไม่คัดและน้ำนมไม่มา
4. สาเหตุอื่นๆ
บางครั้งสาเหตุก็มาจากเรื่องใกล้ตัวที่คุณแม่มองข้าม เช่น ดื่มน้ำน้อยเกินไป น้ำคือวัตถุดิบหลักของน้ำนม ถ้าขาดน้ำ ร่างกายก็ผลิตไม่ได้ หรืออาจขาดการนวดกระตุ้น ท่อน้ำนมอาจจะยังเปิดไม่เต็มที่ การนวดจะช่วยเคลียร์ทางให้น้ำนมไหลสะดวกขึ้น
จะเห็นว่าสาเหตุหลักวนเวียนอยู่ที่ ฮอร์โมน และ การระบายออก ดังนั้นหัวใจสำคัญคือการทำให้ลูกดูดได้ถูกวิธีและเกลี้ยงเต้าค่ะ

เต้าไม่คัด เป็นปัญหาหรือเปล่า ?
คุณแม่บางคนจะใช้อาการ คัดเต้า เป็นสัญญาณบอกว่าต้องให้ลูกดูดนม หรือถึงเวลาต้องปั๊มนมออกให้หมดได้แล้ว ดังนั้น เมื่อมีช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่เกิดอาการ เต้าไม่คัด จึงรู้สึกกังวลใจว่าการที่เต้านมไม่คัดหมายความว่าคุณแม่ไม่มีน้ำนมเพียงพอหรือเปล่า เต้าไม่คัด ทำไงดี
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหากคุณแม่ไม่มีอาการคัดเต้าไม่ได้หมายความว่าไม่มีน้ำนมค่ะ โดยการที่คุณแม่รู้สึกว่านมคัดบ่อย ๆ ช่วงเดือนแรกหลังคลอดเป็นเพราะร่างกายยังไม่รู้ว่าต้องผลิตนมเท่าไร จึงผลิตมาขาด ๆ เกิน ๆ จนกระทั่งให้ลูกดูดนมจากเต้าแม่แล้ว ร่างกายคุณแม่และลูกน้อยจะปรับตัวเข้าหากันมีผลทำให้ เต้าไม่คัด ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทิ้งช่วงให้นมห่างขึ้น นมอาจจะคัดขึ้นมาอีก คุณแม่จะรู้สึกว่ามีน้ำนมมากหากปั๊มหรือให้ลูกดูดตอนนมคัด แต่ในระยะยาวหากปล่อยให้คัดบ่อย ๆ ร่างกายจะผลิตนมน้อยลงได้นะคะ โดยในน้ำนมแม่มีสาร FIL (Feedback Inhibitor of Lactation) ที่ช่วยยับยั้งการสร้างน้ำนม เมื่อน้ำนมผลิตมากและไม่ได้ระบายออก สารนี้จะมีมากขึ้นจนสั่งให้ร่างกายลดการสร้างน้ำนมลง แต่หากมีการระบายน้ำนมโดยให้ลูกดูดหรือปั๊มออกมาสารดังกล่าวก็จะถูกระบายออกมาด้วย ร่างกายจึงสร้างน้ำนมไปเรื่อย ๆ ตามการดูดของลูกน้อยค่ะ
เต้าไม่คัด ทำไงดี?
หากคุณแม่ พบว่าน้ำนมน้อยลงหรือเต้าไม่คัดเลย ลองใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นค่ะ
1. เทคนิคยิ่งดูด ยิ่งมา
กลไกสำคัญที่สุดของการเพิ่มน้ำนมคือ ยิ่งลูกดูดบ่อย ร่างกายยิ่งรู้ว่าต้องผลิตเพิ่มค่ะ
- เริ่มต้นให้เร็วที่สุด: ควรให้ลูกเข้าเต้าทันทีหลังคลอด เพื่อให้ลูกได้รับ “น้ำนมเหลือง” (Colostrum) ซึ่งเป็นวัคซีนหยดแรก และสร้างความคุ้นเคยกับหัวนมแม่
- เน้นความถี่: ให้นมลูกบ่อยๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง (หรือประมาณ 8-12 ครั้งต่อวัน) ความถี่สำคัญกว่าระยะเวลาในการดูดแต่ละครั้ง เพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายผลิตน้ำนมต่อเนื่อง
- เช็กท่าอุ้มและการงับหัวนม: สังเกตให้แน่ใจว่าลูกอมถึงลานนม (ไม่ใช่แค่หัวนม) และมีการกลืนน้ำนมจริง หากลูกงับไม่ติด หรือคุณแม่เจ็บหัวนม อาจทำให้ลูกได้รับนมไม่พอและร่างกายแม่ไม่ถูกกระตุ้น
- ให้ครบทั้งสองเต้า: ควรให้ลูกดูดกระตุ้นทั้งสองข้างในการให้นมแต่ละรอบ เพื่อให้เกิดสมดุลและกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้มาสม่ำเสมอทั้งสองเต้า
2. กระตุ้นด้วยการปั๊มและนวด
เมื่อลูกดูดอิ่มแล้ว หรือลูกหลับ การกระตุ้นเพิ่มเติมจะช่วยหลอกร่างกายว่า “ยังต้องการน้ำนมอีกนะ”
- ปั๊มหลอก/ปั๊มกระตุ้น: หลังจากลูกดูดเสร็จ หรือในช่วงที่ลูกไม่ดูด ให้ใช้เครื่องปั๊มหรือบีบมือต่อช่วงแรกอาจไม่มีน้ำนมออกมาเลย ไม่ต้องตกใจ ให้ทำสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายรับรู้ เดี๋ยวกลไกธรรมชาติจะเริ่มทำงานเอง
- นวดเปิดท่อน้ำนม: การประคบร้อนอุ่นๆ ก่อนนวด จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ผ่อนคลาย และกระตุ้นให้น้ำนมไหลได้ง่ายขึ้น
3. ดูแลตัวเอง
ร่ายกายของคุณแม่เปรียบเหมือนโรงงานผลิตน้ำนม โรงงานจะผลิตน้ำนมคุณภาพดีได้ วัตถุดิบและคนงานต้องพร้อมค่ะ
- อาหารต้องถึง: กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ปรุงสุกสะอาด และเน้นอาหารบำรุงน้ำนม (เช่น ขิง หัวปลี อินทผลัม) และที่สำคัญคือ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพราะน้ำคือส่วนประกอบหลักของน้ำนม
- พักผ่อนและไม่เครียด: ความเครียดคือศัตรูตัวร้ายที่ทำให้นมผด พยายามหาเวลางีบหลับเมื่อลูกหลับ และทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
- สิ่งที่ต้องเลี่ยง: งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะนอกจากจะลดปริมาณน้ำนมแล้ว ยังส่งผ่านไปทำร้ายลูกได้โดยตรง
4. การใช้ยา (ทางเลือกสุดท้าย)
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น: หากทำทุกวิธีแล้วน้ำนมยังไม่มา การใช้ยาช่วยกระตุ้นน้ำนม ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร ห้ามซื้อยากินเองเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของแม่และลูก
เต้าไม่คัด เป็นไปได้ แล้ว “คัดเต้า” มีอันตรายไหม
อย่างที่บอกว่าอาการ เต้าไม่คัด ไม่น่ากังวลใจค่ะ แต่หากเมื่อไรก็ตามคุณแม่ปล่อยให้เต้าคัด หรือมีน้ำนมคั่งค้างอยู่ในเต้านมเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะผิดปกติต่าง ๆ ตามมาได้นะคะ อาทิ
- ท่อน้ำนมอุดตัน (Blocked duct) ซึ่งการปล่อยให้เต้าคัดนาน ๆ น้ำนมจะข้นมากขึ้น จนอาจอุดตันท่อน้ำนมบางส่วน นมที่สร้างขึ้นมาใหม่ไม่สามารถระบายออกได้ เกิดเป็นก้อนแข็งที่เต้านมบางตำแหน่ง กดแล้วเจ็บ แต่ไม่มีอาการอักเสบ หากไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำไปสู่ภาวะเต้านมอักเสบได้
- เต้านมอักเสบ (Mastitis) คือ เต้านมมีการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน เป็นก้อนแข็ง กดเจ็บ รวมถึงคุณแม่อาจมีไข้ร่วมด้วย หากไม่ดูแลแก้ไข ก็เสี่ยงต่อการเกิดก้อนฝีหนองภายใน เรียกว่า เต้านมเป็นฝี (Breast absces) ซึ่งใช้เข็มเจาะดูด หรือใช้มีดกรีดระบายหนองออก

วิธีดูแลคุณแม่ เต้าไม่คัด และคัดเต้า
- ให้นมบ่อย ตามความต้องการของลูกน้อย โดยไม่จำกัดเวลาและปริมาณ
- อุ้มลูกให้แนบชิดกับอกแม่มากที่สุดขณะให้นม เพื่อให้ลูกน้อยดูดนมได้อย่างเต็มที่
- สลับเต้าในการให้นมแต่ละครั้ง เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำนมทั้งสองข้าง
- พักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการผลิตน้ำนม
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะการดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้

คุณแม่อย่าลืมสังเกตนะคะว่าลูกได้รับนมเพียงพอหรือไม่ โดยดูจากลูกดูดนมได้อย่างแข็งขันและหลับสบายหลังกินนม มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ แล้วมีปัสสาวะสีเหลืองอ่อนอย่างน้อย 6-8 ครั้งต่อวัน รวมถึงอุจจาระ 2 ครั้งเป็นประจำทุกวันด้วย
การให้นมลูกเป็นช่วงเวลาสำคัญอันมีค่าของคุณแม่และลูกน้อยนะคะ การดูดนมของลูกจะกระตุ้นให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้น และยังช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูกอีกด้วย อย่างไรด็ตาม การที่คุณแม่ให้นม เต้าไม่คัด ไม่ได้หมายความว่าไม่มีน้ำนมเพียงพอในการเลี้ยงลูก ซึ่งหากลูกสามารถดูดนมแม่ได้อิ่ม นอนหลับได้สนิท น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ ขับถ่ายเป็นปกติ คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการเต้านมคัดหรือ เต้าไม่คัด เลยค่ะ… การให้นมลูกเป็นเรื่องของการเรียนรู้และปรับตัวนะคะ อย่างไรก็ตาม หากยังมีความกังวลคุณแม่สามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อหาแนวทางการให้นมลูกอย่างถูกวิธีและเหมาะสมค่ะ
ที่มา : มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย , pt.mahidol.ac.th , สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ให้นมลูกกินขนมปังได้ไหม ขนมปังที่แม่ให้นมกินได้ อาหารแบบไหนเหมาะกับ “แม่ให้นม”
กินอะไรบำรุงน้ำนม? รวมอาหารเพิ่มน้ำนมสำหรับแม่หลังคลอด
ทำความรู้จัก เครื่องปั๊มนม ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมเกลี้ยงเต้ามากขึ้น
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!