หากเด็ก ๆ วิ่งหกล้มและมีเลือดไหลออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สิ่งนี้น่าจะทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลายคนเป็นกังวลใจมาก ๆ เลย สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเราควรมีวิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงดี เด็กเลือดออก จะต้องทำยังไงกันบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปพร้อมกันเลยนะคะ
วิธีการดูแลแผลให้ลูกเมื่อมีเลือดออก เด็กเลือดออก ทำอย่างไรดี?
เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกของเรามีแผลเกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย แน่นอนว่าสิ่งนี้น่าจะทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนค่อนข้างคิดหนักอยู่เหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไงบ้าง เพื่อที่เราจะได้หยุดเลือดของลูกได้สักที เอาเป็นว่าเรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีฝึกลูกลุกนั่งเอง ทำได้ไม่ยาก แม่ต้องฝึกทารกตอนอายุกี่เดือน
1. แผลถลอก
แผลถลอกที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในตอนนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการที่ผิวหนังของลูกเสียดสีกับพื้นที่ขรุขระ ซึ่งแผลในลักษณะแบบนี้จะเป็นแผลที่ค่อนข้างตื้น และทำให้มีเลือดไหลออกมาแบบซึม ๆ อยู่เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นหากใครที่เจอแผลในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของเรา เราควรรีบทำแผลให้ลูกโดยด่วนเลยนะคะ
วิธีการดูแลแผลถลอก
- สิ่งแรกที่เราต้องทำเลยให้เรานำสำลีหรือผ้าสะอาดมาทำการเช็ดแผลให้เรียบร้อย ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการทำความสะอาดแผลในเบื้องต้น เพื่อเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณแผลนั่นเองค่ะ
- จากนั้นให้นำสำลีหรือผ้าสะอาดอีกอันไปชุบน้ำสะอาด พร้อมกับล้างทำความสะอาดแผลให้กับลูกน้อยอีกครั้ง ในขั้นตอนของการเช็ดแผลนั้น เราไม่ควรที่จะเช็ดแรงจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ จะรู้สึกแสบหรือปวดบริเวณแผลได้เลย
- หากเมื่อไหร่ที่เราเห็นว่าแผลที่เกิดขึ้นนั้นยังมีสิ่งสกปรกติดค้างอยู่รอบ ๆ ให้เรานำสำลีไปชุบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เพื่อมาทำความสะอาดแผลอีกรอบ พร้อมกับทาเบตาดีนรอบ ๆ แผล เพื่อที่แผลของลูกน้อยจะได้เริ่มแห้งและดีขึ้นในเร็ววันนะคะ ที่สำคัญไปกว่านั้นวิธีการล้างแผลแบบนี้ยังช่วยลดการติดเชื้อให้กับลูกน้อยได้ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ
2. แผลปากแตก
แผลปากแตกที่เกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่แล้ว จะเกิดจากการลื่นล้ม หรือวิ่งหกล้มจนทำให้บริเวณคาง หรือริมฝีปากของเด็ก ๆ ไปกระแทกกับอะไรบางอย่างจนทำให้เกิดแผลขึ้นมาโดยทันที ซึ่งปากของเด็ก ๆ ไปกระแทกกับพื้นถึงขั้นรุนแรง สิ่งที่ตามมาอีกอย่างก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ มีอาการฟันโยกขึ้นมาได้เลย
วิธีการดูแลแผลปากแตก
- อย่างแรกที่เราจะต้องทำเลยคือ เราจะต้องทำการหยุดเลือดให้ลูกก่อน โดยให้นำกระดาษทิชชูหรือผ้าที่สะอาดมาทำการซับเลือดให้ลูกน้อยก่อน จากนั้นเราก็อาจจะทำให้ลูกบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดได้เลยนะคะ
- ในระหว่างที่เด็ก ๆ มีแผลเกิดขึ้นที่บริเวณปากนั้น เราควรต้องให้ลูกกินอาหารอ่อน ๆ ไปก่อนจะดีกว่านะคะ ซึ่งอาหารที่เราทำให้ลูกกินนั้นไม่ควรเป็นเมนูที่จัดจ้านจนเกินไป เพื่อที่ลูกจะได้ไม่รู้สึกเจ็บแผลขึ้นมาด้วยนะคะ
- หากเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกของเรามีอาการฟันหักขึ้นมา เราควรรีบพาเด็ก ๆ ไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาช่องปากต่อไปนะคะ ที่สำคัญไปกว่านั้นไม่ควรปล่อยให้ลูกฟันหักนานจนเกินไปนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เด็ก ๆ มีโครงสร้างของฟันไม่สวยขึ้นมาได้เหมือนกัน
3. แผลที่เกิดขึ้นบริเวณศีรษะ
การที่ลูกของเรามีแผลเกิดขึ้นที่บริเวณศีรษะ สิ่งนี้ก็อาจจะเกิดจากการที่หัวของลูกไปกระแทกกับสิ่งของอะไรที่ค่อนข้างแข็ง จนบางครั้งก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ มีอาการหัวโน หรือหัวแตกเกิดขึ้นตามมาได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าเราควรดูแลแผลของลูกน้อยยังไงดี เอาเป็นว่าเรามาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อันตรายในบ้าน ที่มักเกิดขึ้นกับลูกของคุณ ทำอย่างไรให้ปลอดภัย
วิธีการดูแลแผลที่เกิดขึ้นบริเวณศีรษะ
- สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องทำเลยคือ ให้เรานำผ้าที่สะอาดมาห่อน้ำแข็ง เพื่อทำการประคบหรือลดอาการบวมที่เกิดขึ้นบริเวณแผล ซึ่งต้องบอกเลยนะคะว่าวิธีนี้จะช่วยลดอาการเจ็บของแผลได้ดีด้วย
- สำหรับคุณพ่อคุณแม่บางคนก็อาจจะลองใช้ดินสอพองมาทาส่วนที่เป็นแผล หรือส่วนที่หัวโนได้เลย โดยเราอาจจะต้องนำดินสอพองมาทำการละลายน้ำจากนั้นให้เรานำมาทาส่วนที่เป็นแผลได้เลย บอกเลยนะคะว่าวิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมของแผลได้
- เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกมีอาการปวดหัวขึ้นมา เราไม่ควรปล่อยไว้นาน แต่ควรพาลูกมาพบแพทย์โดยทันทีเพื่อที่คุณหมอจะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกวิธีนะคะ
4. แผลที่ถูกของมีคมบาด
หากลูกของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ของมีคมบาดมือ เราจะต้องรู้จักวิธีการหยุดเลือดและวิธีการดูแลแผลให้ถูกวิธีตามไปด้วยนะคะ เพื่อที่ลูกแผลของลูกน้อยจะได้ไม่เกิดการติดเชื้อไปด้วยนั่นเองค่ะ
วิธีการดูแลแผลที่ถูกของมีคมบาด
- สิ่งแรกที่เราควรต้องทำเลย ให้เรานำผ้าที่สะอาดมากดบริเวณที่เป็นแผลของลูกน้อยไว้ก่อน หากแผลที่ถูกของมีคมบาดมือเป็นแผลค่อนข้างลึก เราก็อาจจะต้องนำผ้าที่สะอาดมาพันรอบ ๆ แผลหลาย ๆ ชั้น เพื่อหยุดเลือดไว้ก่อนนะคะ
- หลังจากนั้นขั้นตอนต่อมาให้เราทำความสะอาดแผลให้เรียบร้อย เมื่อเราล้างแผลให้ลูกเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ให้เรานำผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาดมาทำการปิดส่วนที่เป็นแผลไว้ได้เลย
- เมื่อไหร่ก็ตามที่เราล้างแผลให้ลูกตามปกติ แต่พบว่าแผลของลูกน้อยเริ่มมีกลิ่น หรือมีอาการบวมแดงเกิดขึ้น เราควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์โดยด่วนนะคะ เพราะสิ่งนี้อาจจะทำให้แผลของลูกน้อยเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ง่าย ๆ
วิธีการป้องกันไม่ให้ลูกลื่นล้มควรทำยังไงบ้าง?
หากจะว่าไปแล้ว สิ่งนี้น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนค่อนข้างเป็นกังวลใจและเป็นห่วงลูกมาก ๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่า เราควรต้องทำยังไงเพื่อที่ลูกของเราจะได้ไม่เจ็บตัว หรือไม่ได้รับอุบัติเหตุในขณะที่เขาวิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ บอกเลยนะคะว่าวิธีการป้องกันไม่ให้ลูกได้รับอุบัติเหตุนั้นสามารถทำตามได้ไม่ยากเลย ส่วนจะต้องทำยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกไม่ยอมนั่ง พ่อแม่ควรทำอย่างไร ฝึกลูกนั่งแบบไหนให้ถูกวิธี?
1. ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด
ในทุก ๆ ครั้งของการทำกิจกรรมหรือทำอะไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ไกลจากสายตา แต่อาจจะต้องคอยอยู่ใกล้ ๆ ลูกอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่ได้สนใจลูก และปล่อยให้เขาเล่นของเล่นหรืออะไรต่าง ๆ ตามใจชอบ สิ่งที่เป็นอันตรายตามมาก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้เลย เพราะฉะนั้นควรต้องระวังเรื่องนี้ตามไปด้วยนะคะ
2. ไม่ให้ลูกอยู่ในที่สูง ๆ
สิ่งที่เราอาจจะต้องระวังต่อมา คือไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ในที่สูง ๆ เพราะอาจจะทำให้เขาพลัดตกลงมาจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้เลย สิ่งนี้เป็นอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรประมาทเลยนะคะ มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างเป็นอันตรายสำหรับเด็กมาก ๆ เลย
3. ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว
ด้วยความที่เขายังเป็นเด็กอยู่ เราก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวตามลำพัง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหน ๆ ก็ตาม หากเราปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวตามลำพัง สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เขาได้รับอันตราย หรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ดีตามมาได้เลย เอาเป็นว่าพยายามอยู่ใกล้ลูก ๆ ให้มากที่สุดนะคะ
4. ไม่อยู่ในที่ค่อนข้างเสี่ยง
สิ่งที่เราควรต้องระวังต่อมาเลย ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ในสถานที่ที่เสี่ยงจนเกินไป อาทิเช่น พื้นขรุขระ พื้นที่เปียกน้ำ หรือพื้นที่สูง ๆ เพราะพื้นที่เหล่านี้ค่อนข้างที่จะเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายค่อนข้างง่ายอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าคุณแม่ควรต้องดูแลลูกของเราให้ดีนะคะ
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย เพราะฉะนั้นเราควรต้องดูแลเอาใจใส่ลูกของเราให้ดี ไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวตามลำพัง เพื่อที่เขาจะได้รับความปลอดภัยมากที่สุด และเขาจะได้ไม่รู้สึกเจ็บตัวหรือไม่สบายตามไปด้วยนั่นเอง หรือหากลูกของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์กันอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะเราได้นำวิธีการดูแลรักษาแผลที่เกิดขึ้น มาฝากคุณแม่แล้วค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกหัดเดินแล้วล้มบ่อย ลูกล้ม ปัญหาเล็ก ๆ ที่ส่งสัญญาณเตือนภัย ให้กับพ่อแม่
สอนลูกใช้บันไดเลื่อน ทำอย่างไร? วิธีป้องกันอุบัติเหตุใกล้ตัวลูกรัก
10 สนับเข่าเด็ก หัดเดิน หัดคลาน เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อย งบไม่เกิน 200 บาท
ที่มา : synphaet, babimild
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!