โกโก้ นับว่าเป็นวัตถุดิบยอดนิยม ที่หลาย ๆ คนชอบนำมาทำเมนูเบเกอร์รี่ ขนม หรือเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเมนูรสช็อกโกแลต จริง ๆ แล้ว ประโยชน์ของโกโก้ มีเยอะแยะมากมาย เป็นคุณประโยชน์ที่หลาย ๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ตั้งแต่ช่วยโรคหัวใจ และความดัน หรือลดไขมัน คลอเลสเตอรอล อื่น ๆ อีกหลายอย่าง ต้องไปติดตามกันค่า
ประโยชน์ของโกโก้
ประโยชน์ของโกโก้ มีอะไรบ้าง ?
โกโก้ ประกอบไปด้วยแคลอรรี่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร และแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ร่วมไปถึงสารอาหารอีกหลายชนิด จึงมีงานวิจัยบางส่วน ค้นคว้าประโยชน์ของโกโก้เอาไว้ ดังนี้
1. รักษาโรคหัวใจ
ไม่ว่าจะเป็น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เป็นต้น มีงานวิจัยบอกว่า โกโก้อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เหล่านี้ได้ เพราะในโกโก้ มีสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดัน และยังช่วยในเรื่องของการทำงานของหลอดเลือดอีกด้วย
2. ลดความดันโลหิต
เป็นภาวะ ที่มีความดันภายในหลอดเลือดแดงมากกว่าปกติ จนอาจส่งผลให้เกิดปัญหาโรคหัวใจได้ ถ้าไม่ได้รับการดูแล แต่สารฟลาโวนอยด์ จะช่วยเพิ่มกระบวนการสร้างไนตริกออกไซต์ ที่จะทำหน้าที่ขยายหลอดเลือด และความดันโลหิต ได้อีกด้วย
3. ลดคอเลสเตอรอล
คอเลสเตอรอล คือไขมันชนิดหนึ่งที่อยู่ในกระแสเลือด ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ แต่มีการทดลองพบว่า การกินโกโก้ จะช่วยลดระดับไขมันในเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระได้ โดยเฉพาะผู้ป่วย
4. รักษาโรคเบาหวาน
เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรัง ที่มีสาเหตุมาจากตับอ่อนสร้างฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือไม่ได้ประสิทธิภาพ ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น มีการวิจัยบอกว่า สารฟลาโนวอยด์ในโกโก้ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน ชนิดที่ 2 ได้ และยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งบอกว่า ผู้ป่วยที่ผ่านการควบคุมอาหาร และระดับน้ำตาลในเลือด อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เบาหวานชนิดที่ 2 ได้เช่นกัน
ประโยชน์ของโกโก้ มีอะไรบ้าง
5. ต้านโรคหืด
โรคหืด หรือโรคที่เกิดจากหลอดลมหดตัว และตีบ เนื่องจากการอักเสบ โดยผู้ป่วยอาจมีอาการหายใจลำบาก และหากโรครุนแรง ก็อาจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มีข้อมูลบอกว่า การกินโกโก้ธรรมชาติที่ไม่หวาน อาจช่วยลดความรุนแรงของอาการ จากโรคหอบหืดได้ เพราผงโกโก้ อุดมไปด้วยสารต้านโรคหืด อย่างสารทีโอโบรมีน และสารทีโอฟีลลีน นั่นเอง
6. มีสุขภาพจิตที่ดี
นอกจากโกโก้ จะช่วยเรื่องสุขภาพร่างกายแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตใจด้วย ซึ่งจะเป็นผลทำให้เราสามารถรับมือกับความเครียด และปัญหาชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลการทดลองบอกว่า ผู้สูงอายุที่ชื่นชอบโกโก้ อาจมีสุขภาพที่ดี มองโลกในแง่ดี และยังมีสุขภาพจิตที่ดี
7. การลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนัก อาจทำได้ด้วยการควบคุมอาหาร หรือการออกกำลังกาย มีผลการทดลองชิ้นหนึ่งบอกว่า ผงโกโก้อาจช่วยลดอัตราการเพิ่มน้ำหนัก ของสัตว์ได้ รวมถึงเพิ่มปริมาณไขมัน ที่ถูกขับออกในอุจจาระ แต่งานวิจัยชิ้นนี้ทดลองขึ้นกับสัตว์ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะได้ผลกับมนุษย์มากน้อยแค่ไหน
8. เสริมสร้างผิวหนัง
ผิวหนังของเรา ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป ตามอายุที่มากขึ้น มีการศึกษาพบว่า การดื่มโกโก้ ที่มีสารฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง และความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด อีกทั้งยังส่งเสริมให้ผิวหนังดูสวย สมบูรณ์ และคงความชุ่มชื้นได้ยาวนานมากขึ้น
ประโยชน์ของโกโก้ กินแค่ไหนถึงจะดี
กินโกโก้แค่ไหนถึงจะดี ?
โกโก้ มีประโยชน์มากมาย สำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะต่อไปนี้ ควรระวังในการบริโภค
โรคหัวใจ – เนื่องจากคาเฟอีนในโกโก้อาจะทำให้ในสั่น และยังเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และทำให้ผู้ที่หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการแย่ลงได้ โดยปริมาณโกโก้ที่แนะนำต่อวันคือ 46-100 กรัมต่อวัน หรือผลิตภัณฑ์จากโกโก้ ที่มีสารโพลีฟีนอลในปริมาณ 16.6-1080 มิลลิกรัมต่อวัน
ความดันโลหิต – คาเฟอีนในโกโก้ อาจทำให้ความดันโลหิต เพิ่มสูงขึ้นได้ ปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน คือ ควรรับประทานโกโก้ ที่ให้สารโพลีฟีนอล ในปริมาณ 25 – 1,080 มิลลิกรัมต่อวัน
โรคเบาหวาน – น้ำตาลในผลิตภัณฑ์ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ เช่น ช็อกโกแลต อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้ และจะไปรบกวน กระบวนการควบคุมปริมษรน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานได้
ภาวะเลือดออกผิดปกติ – ผลิตภัณฑ์จากโกโก้ อาจมีส่วนในการชะลอการแข็งตัวของเลือด ซึ่งมีผลต่อผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
ต้อหิน – คาเฟอีนในโกโก้ อาจไปเพิ่มแรงดันในลูกตา ทำให้มีผลต่อผู้ป่วยต้อหิน
ประโยชน์ของโกโก้ ข้อควรระวัง
กรดไหลย้อน – โกโก้ อาจะไปรบกวน และขัดขวางการทำงานของหลอดอาหาร จนทำให้อาการของกรดไหลย้อนแย่ลงได้
กลุ่มอาการลำไส้ และท้องเสีย – คาเฟอีนในโกโก้ อาจทำให้ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับลำไส้แปรปรวน และผู้ที่ท้องเสีย มีอาการแย่ลง
ปวดหัวไมเกรน – โกโก้ อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน ในผู้ป่วยที่ไวต่ออาการปวดได้
โรคกระดูกพรุน – คาเฟอีนในโกโก้ อาจทำให้ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น
ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด – การบริโภคโกโก้ อาจรบกวนการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ในระหว่าง และหลังการผ่าตัดได้ ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดโกโก้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ภาวะวิตกกังวล – คาเฟอีนในโกโก้ ในปริมาณมาก อาจทะให้ผู้ป่วยประสบภาวะวิตกกังวล มีอาการที่ทรุดหนักลงได้
เชื่อกันว่า โกโก้ มีประโยชน์มากมาย แต่ก็จำเป็นต้องศึกษาให้ดี และรอผลการวิจัย ให้เข้ามายืนยันในผลการทดลองต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลจริง และป้องกัน ไม่ให้เกิดการกินแบบผิด ๆ เพราะหากกินในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียได้ เพราะในตัวโกโก้เอง ก็มีสารคาเฟอีน และสารอื่น ๆ ดังนั้นจึงควรศึกษาให้ดี หรือทางที่ดี ปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง ที่อาจกระทบต่อสุขภาพได้
ที่มาข้อมูล : pobpad
บทความที่น่าสนใจ :
ช็อกโกแลต ขนมหวานกินดี ที่ไม่ได้มีแต่ความอร่อย
5 เหตุผลว่าทำไมคนท้องควรทานช็อกโกแลต
10 ประโยชน์ของช็อกโกแลต ลูกชอบกินช็อกโกแลต มีประโยชน์ไหม?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!