X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน 6 ผลกระทบเมื่อ Work From Home บนเตียง

บทความ 5 นาที
เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน 6 ผลกระทบเมื่อ Work From Home บนเตียง

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน ยิ่งช่วงเวลาที่ผ่านมา ใครๆก็Work From Home จนเป็น new Normal ที่ปกติไปเสียแล้ว อยู่บ้านนานๆมันก็อาจจะมีอาการเบื่อและต้องย้ายมุมทำงานอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดก็มาจบลงบนเตียงนอนใช่ไหมค่ะ ตามทฤษฎีแล้วการทำงานจากเตียงฟังดูเป็นความคิดที่โรแมนติกชวนฝันเหมือนคุณโดนแจ๊คพอตงาน

คุณอาจนึกภาพตัวเองดื่มกาแฟ สุนัขหรือแมวคอยเชียร์คุณอย่างเงียบ ๆ และใส่กางเกงโยคะทุกวันกระโดดขึ้นบนเตียงและทำงานทั้งวันอย่างมีประสิทธิภาพ ตัดมาที่ภาพความเป็นจริง การทำงานจากบนที่นอนของคุณอาจไม่ได้ตอบโจทย์ได้ดีอย่างที่ฝันไว้

 

ผลกระทบที่อาจเกิดจากการทำงานจากบนเตียงนอนของคุณ

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน สามารถบานปลายไปสู่การขาดการควบคุมตนเองได้อย่างรวดเร็ว และยากจะกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อีกครั้ง วันนี้เราพามาดูกันค่ะ

 

 เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน

1.เกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับ

จากข้อมูลของนักจิตอายุรเวทและนักบำบัดด้านเวชศาสตร์การนอนหลับแอนนี่มิลเลอร์มีเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงมากว่าทำไมเราจึงไม่ควรลุกจากเตียง “ เมื่อเราใช้เตียงเพื่อทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่นทำงานอ่านหนังสือดูทีวี ฯลฯ เราจะสร้างความเชื่อมโยงกับความตื่นตัว เราต้องการให้เตียงเป็นเครื่องกระตุ้นการนอนหลับและการทำงานบนเตียงจะทำให้ความสัมพันธ์นี้ลดลง” พูดง่ายๆก็คือเราต้องการเชื่อมโยงเตียงของเรากับสองสิ่งเท่านั้น นั่นก็คือ การนอนหลับและSex! หากคุณประสบปัญหาการนอนหลับอยู่แล้วมิลเลอร์ขอแนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญ รักษาปัญหาการนอนหลับโดยไม่ใช้ยาโดยใช้การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญาสำหรับการนอนไม่หลับจะเป็นผลดี ดังนั้นการทำงานหน้าจอคอม การมองหน้าจอที่สว่างจะไปลดเมลาโทนินในร่างกายของคุณได้ และทำให้คุณหลับยาก ขอแนะนำให้ตัวเองมีเวลาว่างเทคโนโลยีอย่างน้อย 30 นาทีถึงสองชั่วโมงก่อนเข้านอนนะคะ เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีนั่นเอง

 

2.ทำงานได้อย่างไม่  Productive

เหตุผลทั้งหมดนี้เกี่ยวพันกัน การทำงานจากเตียงทำให้คุณภาพการนอนหลับลดลงซึ่งจะทำให้ผลผลิตในการทำงานระดับพลังงานและคุณภาพชีวิตลดลง การใช้เตียงเป็นพื้นที่ทำงานหมายความว่าคุณกำลังนำงานของคุณเข้านอนไปพร้อมกันนั่นเอง หากคุณทำงานมาตลอดทั้งวันจากเตียงคุณมีแนวโน้มที่จะคิดเรื่องงานต่อไปและมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการ“ ปิดเครื่อง” นั่นหมายความว่าในสมองของคุณก็จะยังไม่หยุดทำงานถึงแม้ว่าคุณเลื่อนผ้าคลุมเพื่อเข้านอนแล้วก็ตามค่ะ

 เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน ทำงานบนที่นอน ทำงานได้อย่างไม่ Productive

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน ทำงานบนที่นอน ทำงานได้อย่างไม่ Productive

ในทางกลับกันมันเป็นเรื่องง่ายที่จะไม่รู้สึกว่ามีประสิทธิผลเต็มที่ คุณอาจพบว่าตัวเองยอมให้ดวงตาหนัก ๆ และงีบหลับเมื่อคุณต้องการทำงานไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม นอกจากนี้การนอนไม่หลับยังเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับอันดับหนึ่งซึ่งขัดขวางประสิทธิภาพการทำงาน นี่อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มีหรือไม่มีการทำงานจากเตียง แต่การผสมผสานระหว่างการทำงานกับพื้นที่นอนอาจทำให้แย่ลงและประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลงเช่นกัน

 

3.สรีระหรือท่าทางของคุณไม่ถูกต้องเมื่ออยู่บนที่นอน

เวลาที่เราทำงานบนที่นอน มันยากมากที่จะรักษาท่าทางที่ดีได้ จริงไหมค่ะ อยากจะนอนหงายท้องหรือตะแคงมากเกินไปเพื่อให้เกิดท่าที่สบายตอนทำงาน  แต่เมื่อผ่านไป5หรือ10นาทีก็ต้องเปลี่ยนท่าทาง  หรือแม้ว่าคุณจะนั่งอยู่บนเตียงคุณก็ยังคงนั่งอยู่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบเป็นเวลานานโดยให้จอภาพอยู่ในระดับความสูงที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้หลังของคุณโค้งงอได้ในที่สุด สิ่งนี้สามารถสร้างความเจ็บปวดได้ในทันทีหรือเมื่อเวลาผ่านไปซึ่งอาจทำให้คุณภาพการนอนหลับลดลง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่โรคกล้ามเนื้อและกระดูกที่ไม่ควรเกิดขึ้นได้อีกด้วยค่ะ

 

4.ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว หรือความสัมพันธ์ภายในครอบครัว 

ถึงแม้ว่าเราจะใช้ Social Mediaในการทำงานช่วงยุคนี้และดูเหมือนว่าจะมีการทำงานกับคนผ่านช่องทางออนไลน์แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปหรือโทรศัพท์มือถือรูปแบบนี้มีผลต่อความสัมพันธ์อย่างแท้จริง เพราะความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวกับคนรอบกายรวมไปถึงคนในครอบครัวกลับน้อยลงอย่างน่าใจหาย จากการศึกษาชิ้นหนึ่งการรบกวนโทรศัพท์มือถือชั่วขณะกับคนรักของคุณอาจทำให้ความพึงพอใจในความสัมพันธ์ลดลงและแม้กระทั่งภาวะซึมเศร้าในคนสำคัญของคุณ ตรรกะเดียวกันนี้ใช้ได้กับทุกหน้าจอ ไม่มีใครชอบที่จะถูกละเลยสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

 เมื่อคุณใช้เวลาอยู่บนเตียงการปล่อยให้หน้าจอพ้นมือสามารถช่วยส่งสัญญาณให้คู่ของคุณทราบว่าคุณพร้อมที่จะให้ความสนใจกับพวกเขาแล้ว และทำให้ครอบครัวอบอุ่นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถึงแม้ว่าจะทำงานหน้าจอคอมแต่ก็ควรหาเวลาทำกิจกรรมอื่นๆกับครอบครัว และยิ่งถ้าทำงานบนเตียงนอนในห้องนอนก็มีโอกาสมากที่จะปิดตัวเองอยุ่ในห้อง ดังนั้น ควรออกมาหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อเป็นการผ่อนคลายค่ะ

 

5. มีผลโดยตรงกับ สุขอนามัย

แพทย์ผิวหนังดร. อลกวิจิตรให้สัมภาษณ์กับคลีฟแลนด์คลินิกเราผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้เพียงพอต่อวันเพื่อเลี้ยงไรฝุ่นหนึ่งล้านตัว เซลล์เหล่านี้มากกว่า 15 ล้านเซลล์จะหลั่งออกมาในเวลากลางคืน หากคุณใช้เวลาเพิ่มเติมที่ในการทำงานบนเตียงคุณจะเพิ่มการสะสมของแบคทีเรียเท่านั้นไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าคุณนั่งอยู่ในนั้นทุกวัน การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าเตียงของมนุษย์มีสุขอนามัยน้อยกว่าเตียงลิงชิมแปนซีเสียอีก! ดังนั้นซักผ้าปูที่นอนบ่อยๆและหมั่นทำความสะอาดห้องหรือจุดที่คุณทำงานบ่อยๆ จะทำให้สุขอนามัยนั้นดีขึ้นนะคะ

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน มีผลโดยตรงกับ สุขอนามัย

เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน มีผลโดยตรงกับ สุขอนามัย

 

6. กระทบอารมณ์และพลังงานตลอดทั้งวัน

ห้องนอนมักจะมืดกว่าห้องอื่น ๆ เนื่องจากมีหน้าต่างน้อยลงหรือมีนิสัยชอบปิดผ้าม่าน แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ตามธรรมชาติและช่วยยกระดับพลังงาน ห้องนอนที่มีแสงสลัวอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าเปลี่ยนนาฬิกาในร่างกายส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและทำให้สายตาเครียด ในขณะที่ห้องมืดสลัวเหมาะสำหรับการงีบหลับ แต่ก็ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำงานในวันทำงานนะคะ

 

คำแนะนำ เคล็ดลับทำงานจากที่บ้านเป็นทางออกที่ดีในช่วงWork From Home

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่ใช้ได้จริงเพื่อช่วยให้ชีวิตทำงานมีประสิทธิภาพและชีวิตมีสมดุลมากยิ่งขึ้นนะคะ เคล็ดลับในการปรับสุขภาพจิตของคุณในขณะทำงานWork From Home หากการทำงานจากที่บ้านเป็นเรื่อง “ปกติ” ใหม่ของคุณ อย่างน้อยตอนนี้คุณอาจกำลังรู้สึกวิตกกังวลความเครียดและภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหลาย ๆ คนอาจจะทำงานมากกว่าปกติหลายชั่วโมงเนื่องจากอาจเป็นเรื่องยากที่จะติดตามงานเวลาขณะอยู่ที่บ้านจริงไหมคะ

 

บทความจากพันธมิตร
เลือกเป้อุ้มเด็ก ยี่ห้อไหนดี ให้ปลอดภัยสะโพกเด็กไม่หลุด
เลือกเป้อุ้มเด็ก ยี่ห้อไหนดี ให้ปลอดภัยสะโพกเด็กไม่หลุด
วิธีเลือก ทิชชู่เปียกเด็ก ที่ปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่คันผิว
วิธีเลือก ทิชชู่เปียกเด็ก ที่ปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่คันผิว
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

1.เก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกจากห้องนอน

ในขณะที่เวลาว่างก่อนนอนเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ที่ดีกว่านั้นคือห้องนอนที่ปราศจากเทคโนโลยี การสร้างพื้นที่ในห้องนอนของคุณเพื่อการนอนหลับและความใกล้ชิดอย่างแท้จริงสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้หลายวิธี สามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นปรับปรุงความสัมพันธ์ และสร้างขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างที่ทำงานและที่บ้านการเปิดรับแสงจากอุปกรณ์ของคุณในตอนกลางคืนอาจทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจของคุณลดลง การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าสามารถนำไปสู่การพัฒนาของมะเร็งแหล่งที่เชื่อถือได้แหล่งที่มาของโรคเบาหวานโรคหัวใจแหล่งที่เชื่อถือได้และโรคอ้วนได้เช่นกันค่ะ

 ดังนั้นถึงแม้ว่าจะทำงานหน้าจอคอมแต่ก็ควรหาเวลาทำกิจกรรมอื่นๆกับครอบครัว

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะทำงานหน้าจอคอมแต่ก็ควรหาเวลาทำกิจกรรมอื่นๆกับครอบครัว

2.สร้างพื้นที่ทำงานให้ชัดเจน

คุณไม่จำเป็นต้องสร้างสำนักงานที่หรูหราหรือซับซ้อนเพื่อแยกพื้นที่นอน ออกจากที่ทำงาน เพียงแค่ปรับแต่งเล็กน้อยหรือเฟอร์นิเจอร์ง่ายๆก็สามารถทำได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งค่าสภาพแวดล้อมพื้นที่ทำงานที่ใช้สำหรับธุรกิจเท่านั้น สิ่งนี้ช่วยให้คุณจัดระเบียบร่างกาย แต่ยังรวมถึงจิตใจด้วยนะคะ คุณจะเปลี่ยนเข้าสู่“ โหมดการทำงาน” ได้ง่ายขึ้นมากและปรับเปลี่ยนความรู้สึกของกิจวัตรประจำวัน พื้นที่เฉพาะนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวหรือเพื่อนร่วมห้องของคุณ โต๊ะยืนก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกันหากคุณมีปัญหากับการนั่งโต๊ะทั้งวัน ข้อดีที่ชัดเจนมากๆสำหรับการทำงานอยู่ที่บ้าน พยายามทำให้พื้นที่ทำงานของคุณผ่อนคลายและควบคุมระดับความเครียดของคุณให้อยู่หมัดนะคะแนะนำว่า ถ้าคุณชอบเทียนหอมให้วางไว้รอบ ๆ โต๊ะทำงาน หากมุมมองที่สวยงามช่วยให้คุณสงบสติอารมณ์ได้ดี ให้ตั้งโต๊ะทำงานไว้หน้าหน้าต่างหรือให้ในสายตาระหว่างที่ทำงาน มีงานศิลปะที่ชอบที่เห็นได้บ่อย เพื่อผ่อนคลายสายตาจะดีมากค่ะ

 

3.อย่าเริ่มวันทำงานด้วยชุดนอน!

ข้อนี้สำคัญมากและพูดตามตรงนี่คือสิ่งที่ค่อนข้างท้าทาย อย่างน้อยก็อาจจะเปลี่ยนเป็นกางเกงโยคะ อิทธิพลของเสื้อผ้าจึงขึ้นอยู่กับการสวมใส่และความหมายเชิงสัญลักษณ์” ดังนั้นแทนที่จะอยู่ในชุดนอนทั้งวันให้ใส่ชุดที่คุณน่าจะใส่ไปที่ทำงานแทน ความรู้สึกมีอำนาจไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มผลผลิตเท่านั้นการวิจัยพบว่าการ “รับรู้ความสามารถของตนเอง” มีผลดีต่อพฤติกรรมสุขภาพรวมถึงการควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกายแต่แน่นอนว่าถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นชุดที่สบายแล้วนั้น บอกเลยว่าการอาบน้ำตั้งแต่ตื่นนอนเป็นทางออกที่ดีนะคะ

 

4.สร้างและยึดติดกับกิจวัตรประจำวัน

การทำงานจากที่บ้านอาจเป็นเรื่องใหม่ แต่คุณสามารถทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมได้ ตื่นนอนในเวลาปกติเปลี่ยนชุดนอนรับประทานอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพและรับประทานในวันนั้น อาจเป็นเรื่องง่ายที่จะทำงานเพิ่มอีกหลายชั่วโมงเนื่องจากคุณไม่ได้เดินทาง ให้ลองใช้เวลาที่เพิ่งค้นพบทำอะไรบางอย่างเช่นอ่านหนังสือเดินเล่นหรือฟังพอดแคสต์หรือเพลงเพื่อผ่อนคลายบ้าง

ตั้งเวลาการทำงานให้ชัดเจนและที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานจากบนที่นอน

ตั้งเวลาการทำงานให้ชัดเจนและที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานจากบนที่นอน

 

จำไว้ว่าความสมดุลของที่ทำงานและที่บ้านคือความสมดุล เพียงเพราะคุณไม่ต้องเดินทางไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำงานเพิ่มอีกหนึ่งหรือสองชั่วโมงต่อวันนะคะ การรักษาสมดุลของชีวิต และการทำงานที่ดีด้วยการบันทึกเวลาของคุณและกำหนดขีดจำกัดในการทำงาน เมื่อเลิกงานก็ต้องเลิกจริงๆเพื่อรักษาสมดุลชีวิตด้านอื่นๆนะคะ

ไม่ว่าจะครอบครัว หรือสุชภาพ อย่าปล่อยให้งานตกอยู่ในเวลาส่วนตัวของคุณหรือในทางกลับกัน หลีกเลี่ยงการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์หากทำได้ ให้ลองดูว่าคุณใช้เวลาไปกับการทำงานมากแค่ไหนในแต่ละวันค่ะ  ตั้งเวลาการทำงานให้ชัดเจนและที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานจากบนที่นอน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การทำงานWork From Home เป็นอะไรที่สนุกและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ

ที่มา: 1

บทความประกอบ : กินยังไงไม่อ้วน work from home หนักแค่ไหน ก็ไม่กลัว!

ทำงานที่บ้านก็ยังสวยอยู่ 12 เคล็ดลับความงาม สาวๆ Work From Home ต้องรู้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Thippaya Trangtulakan

  • หน้าแรก
  • /
  • ไลฟ์สไตล์
  • /
  • เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน 6 ผลกระทบเมื่อ Work From Home บนเตียง
แชร์ :
  • เรื่องหนักใจของครอบครัวที่มีลูกกับการ ทำงานที่บ้าน ต้องรับมืออย่างไรบ้าง?

    เรื่องหนักใจของครอบครัวที่มีลูกกับการ ทำงานที่บ้าน ต้องรับมืออย่างไรบ้าง?

  • Work from home ทำยังไงลูกก็ต้องเลี้ยง งานก็ต้องทำ จะทำอย่างไรให้ลูกไม่กวน?

    Work from home ทำยังไงลูกก็ต้องเลี้ยง งานก็ต้องทำ จะทำอย่างไรให้ลูกไม่กวน?

  • เด็กหญิง 6 ขวบ อ้วกและสลบ หลังกินข้าวไข่คนมะเขือเทศ คาดเพราะมะเขือเทศไม่สุก !

    เด็กหญิง 6 ขวบ อ้วกและสลบ หลังกินข้าวไข่คนมะเขือเทศ คาดเพราะมะเขือเทศไม่สุก !

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • เรื่องหนักใจของครอบครัวที่มีลูกกับการ ทำงานที่บ้าน ต้องรับมืออย่างไรบ้าง?

    เรื่องหนักใจของครอบครัวที่มีลูกกับการ ทำงานที่บ้าน ต้องรับมืออย่างไรบ้าง?

  • Work from home ทำยังไงลูกก็ต้องเลี้ยง งานก็ต้องทำ จะทำอย่างไรให้ลูกไม่กวน?

    Work from home ทำยังไงลูกก็ต้องเลี้ยง งานก็ต้องทำ จะทำอย่างไรให้ลูกไม่กวน?

  • เด็กหญิง 6 ขวบ อ้วกและสลบ หลังกินข้าวไข่คนมะเขือเทศ คาดเพราะมะเขือเทศไม่สุก !

    เด็กหญิง 6 ขวบ อ้วกและสลบ หลังกินข้าวไข่คนมะเขือเทศ คาดเพราะมะเขือเทศไม่สุก !

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ