ม็อกเทล เครื่องดื่มที่มักจะได้ยินกันเป็นประจำ และเกิดข้อสงสัยว่าคุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์นั้นสามารถดื่มได้ไหม เรามาทำความรู้จักม็อกเทลกันดีกว่าคืออะไร ปลอดภัยสำหรับคนท้องและทารกหรือไม่?
ม็อกเทล คืออะไร?
Mocktail หรือ ม็อกเทล เป็นค็อกเทลที่ไม่มี แอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบค็อกเทลในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ มาร์ตินี่ โมจิโต้ หรือการผสมรวมของเครื่องดื่มต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เป็นต้น โดยม็อกเทลนั้นจะเป็นการนำของเหลวที่มีรสชาติ และคุณค่าโภชนาการทางอาหารใส่รวมกันแทนที่จะใช้สุราเป็นส่วนผสม ซึ่งส่วนประกอบหลัก ๆ ที่พบ ได้แก่ น้ำผลไม้ โซดา น้ำเชื่อม น้ำดื่ม ชา ผลไม้ เครื่องเทศ และเครื่องปรุงอื่น ๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินโซดาได้ไหม ? ความเป็นกรดของโซดาส่งผลต่อทารกหรือไม่?
ประโยชน์ของม็อกเทลมีอะไรบ้าง?
ม็อกเทลเป็นการรวมตัวกันของส่วนผสมที่ยอดเยี่ยม และมีการรังสรรค์ขึ้นมาในรูปแบบต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งจะถูกใช้มากในมื้ออาหาร หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ ของครอบครัว โดยม็อกเทลมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
-
ทำง่าย
ม็อกเทลมักจะมีวิธีการทำที่ง่าย และรวดเร็ว และบางชนิดอาจต้องการส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งคุณสามารถปรุงม็อกเทลที่เป็นรสชาติที่คุณชอบได้ง่าย ๆ หรือทำเสิร์ฟให้กับคนอื่นได้ง่าย ๆ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นบาร์เทนเดอร์ที่มีประสบการณ์
-
ดีต่อสุขภาพ
ม็อกเทลมีประโยชน์มากกว่าค็อกเทล การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปในคราวเดียว หรือดื่มใสปริมาณมากเป็นระยะเวลานานนั้นอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสมอง หัวใจ ตับ ตับอ่อน และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์นั้นยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย เช่น มะเร็งตับ และมะเร็งเต้านม แต่ในทางกลับกันม็อกเทลอาจเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และจิตใจคุณมากกว่า
-
แคลอรีน้อย
เครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์มีแคลอรีสูง และเรื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกมึนเมา จึงสามารถนำไปสู่การดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไป ซึ่งนอกจากส่งผลเสียต่อร่างกายในเรื่องของโรคภัยแล้ว ยังเสี่ยงต่อการได้รับพลังงานแคลอรีต่อวันเกินความจำเป็นอีกด้วย ดังนั้นการทำม็อกเทลที่มีส่วนผสมที่เรียบง่าย และปราศจากแอลกอฮอล์นั้นย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
-
ไม่ส่งผลต่อการนอนหลับ
แอลกอฮอล์เปรียบเสมือนยากดประสาทชนิดหนึ่ง ดังนั้นการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากจึงทำให้คุณรู้สึกง่วงนอน และทำให้ตับของคุณทำงานหนักมากขึ้น เพราะตับจะต้องเผาผลาญแอลกอฮอล์ในร่างกายของคุณทั้งคือ ซึ่งอาจรบกวนการนอนหลับของคุณ ดังนั้นการดื่มม็อกเทลแทนทำให้คุณสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และตื่นมาสดชื่น เพราะร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการนอนไม่หลับของคนท้อง เกิดจากอะไร แก้ไขปัญหาได้ด้วยเทคนิคเหล่านี้
-
อุดมไปด้วยสารอาหาร
ม็อกเทลมักจะประกอบไปด้วยส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ อาทิ ผลไม้ ผักสด สมุนไพร หรือน้ำมะพร้าว เป็นต้น ดังนั้นในการดื่มม็อกเทลจึงทำให้คุณนั้นได้รับสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารอื่น ๆ
-
ให้ความสดชื่น
คุณสามารถทำม็อกเทลด้วยส่วนผสมที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น หรือกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้ในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า โดยใช่ส่วนผสมต่าง ๆ ที่ให้ความสดชื่น เช่น น้ำแร่ น้ำมะพร้าว น้ำมะนาว หรือโซดา เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอาการขาดน้ำจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำขิงได้หรือไม่ น้ำขิงดื่มแล้วดี หรือ ดื่มแล้วเป็นอันตราย
-
ราคาไม่แพง
โดยทั่วไปแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมที่แพงที่สุดในค็อกเทล เมื่อคุณนำแอลกอฮอล์ออกจากเครื่องดื่มนั่นหมายความว่าคุณจะได้รับเครื่องดื่มที่ทั้งมีประโยชน์ในราคาที่ไม่แพง โดยที่คุณยังได้เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มรสชาติต่าง ๆ ได้อยู่ในเวลาเดียวกัน
-
ไม่มีอาการเมาค้าง
อาการเมาค้างสามารถทำให้คุณรู้สึกแย่หลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้วทั้งคืน อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมที่จะต้องทำในช่วงเช้าของวันถัดไป นอกจากนี้ยังอาการเมาค้างยังส่งผลต่อร่างกายอีกด้วย อาทิ ภาวะขาดน้ำ และการอักเสบ เป็นต้น
-
ไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ
แอลกอฮอล์ช่วยลดการยับยั้งชั่งใจ และทำให้ทักษะการตัดสินใจ และการตัดสินใจลดลง และมีผลกระทบต่อสมองที่สามารถนำไปสู่สถานการณ์ที่เป็นอันตราย หรือน่าอาย ตัวอย่างเช่น การเมาและขับรถทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือการทำพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่น หรือตนเอง เป็นต้น
-
ปลอดภัยสำหรับทุกคน
ม็อกเทลช่วยให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศ หรือวันไหนก็สามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มรสอร่อยได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับแอลกอฮอล์ ซึ่งรวมถึงผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง เด็ก ผู้ที่จะต้องขับขี่พาหนะ และผู้ที่อยู่ในภาวะพักฟื้น เป็นต้น
-
ไม่เสพติด
แอลกอฮอล์ขึ้นชื่อในเรื่องของการเสพติด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคพิษสุราเรื้อรัง โดยเมื่อคนดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ทำให้สารเอ็นดอร์ฟิน หรือสารแห่งความสุขนั้นถูกหลั่งออกมาในสมอง ซึ่งส่งผลทำให้สมองสั่งการและทำให้ผู้ดื่มรู้สึกมีความสุข และเกิดความต้องการที่จะดื่มต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นส่งผลทำให้เกิดการเสพติด ซึ่งการเปลี่ยนมาดื่มม็อกเทลนั้นทำให้คุณได้ละเว้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เสี่ยงต่อการติดสุราที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องดื่มไวน์ ได้จริงหรือ? การดื่มไวน์ทำให้ผู้หญิงท้องได้เร็วขึ้นหรือไม่
คนท้องดื่มม็อกเทลได้ไหม?
สำหรับคุณแม่ที่ต้องการรสชาติที่เปรียบเสมือนค็อกเทลในช่วงของการตั้งครรภ์นั้น ม็อกเทลถือเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดที่จะสามารถแทนค็อกเทลได้ นั่นหมายความว่า คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นสามารถดื่มม็อกเทลได้ เพราะว่าส่วนผสมของม็อกเทลนั้นไม่มีแอลกอฮอล์ หรือมีแอลกอฮอล์ที่น้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปริมาณที่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในน้ำผมไม้บางชนิดอาจก่อให้เกิดแอลกอฮอล์ก็เป็นได้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ดูและครรภ์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะดื่ม หรือทางที่ดีที่สุดคือการงดเว้นไปก่อนในช่วงของการตั้งครรภ์ และการให้นมบุตร ควรดื่มนมบำรุงแคลเซียม หรือน้ำเปล่าเพื่อลดภาวะเสี่ยงในการขาดน้ำแทนจะดีกว่า
สูตรม็อกเทลเพื่อสุขภาพคุณแม่
สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาสูตรม็อกเทลสำหรับเก็บไว้ดื่มในช่วงตั้งครรภ์แล้วละก็ มาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าว่าจะต้องเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์อะไรบ้าง
-
ม็อกเทลแตงโม
คลายร้อนในวันหยุดอุดมไปด้วยไลโคปีน และวิตามินเอ และวิตามินซี
วัตถุดิบ
-
- แตงโม ½ ถ้วย
- น้ำองุ่น ¼ ถ้วย
- โซดา ¼ ถ้วย
วิธีการทำ : นำวัตถุดิบทั้งหมดใส่ลงแก้ว พร้อมน้ำแข็งเล็กน้อย ก่อนจะปิดฝาแก้วแล้วเขย่า 5-10 ครั้ง หรือมากเท่าที่ต้องการก่อนที่จะเทใส่แก้วเสิร์ฟ
-
มะม่วงมาร์การิต้า ม็อกเทล
ตัวช่วยในการลดอาการคลื่นไส้ในไตรมาสแรก เครื่องดื่มที่จะทำให้คุณสามารถรู้สึกดีขึ้น และลดอาการแพ้ท้อง
วัตถุดิบ
-
- แรสเบอร์รี หรือสตรอว์เบอร์รี 4-6 ลูก
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงขูด 1 ช้อนชา
- น้ำมะม่วง ¼ ถ้วย
- น้ำเกรปฟรุต ¼ ถ้วย
วิธีการทำ : นำแรสเบอร์รี หรือสตรอว์เบอร์รีมาบด ก่อนจะใส่ลงที่ก้านแก้วเสิร์ฟและใส่น้ำมะนาว ขิงขูด น้ำมะม่วง และน้ำเกรปฟรุตตามลงไป ใส่น้ำแข็ง และเสิร์ฟได้เลย ก่อนรับประทานให้คนส่วนผสมให้เข้ากันก่อนดื่ม
-
เสาวรสม็อกเทล
เพิ่มความสดชื่น เปรี้ยวซ่าให้กับวันร้อน ๆ แถมยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้อีกด้วย
วัตถุดิบ
-
- น้ำเชื่อม 3/4 ออนซ์
- เสาวรส 1 ลูก
- โหระพาสด 1-2 ก้าน
- น้ำเปล่า 3 ออนซ์
- น้ำมะนาวสด 1/4 ออนซ์
วิธีการทำ : หากไม่มีน้ำเชื่อมสามารถใช้น้ำผึ้งแทนได้ หรือนำน้ำตาลทรายไปเคี่ยวกับน้ำเปล่า แล้วนำใส่แก้วเสิร์ฟ ต่อมาผ่าครึ่งเสาวรส และคว้านเนื้อด้านในออก จะคั้นเอาแต่น้ำ หรือใส่ทั้งเม็ดแล้วแต่ความชอบ ใส่ส่วนผสมอื่นลงในแก้วตามลำดับ พร้อมเสิร์ฟ ก่อนดื่มควรคนให้เข้ากันก่อน
-
เบลลินี ม็อกเทล
เครื่องดื่มสำหรับหน้าร้าน ที่ไร้แอลกอฮอล์ เบลลินีได้ถูกเรียกว่าเป็นแชมเปญที่ไร้แอลกอฮอล์
วัตถุดิบ
-
- น้ำแอปเปิล 1/4 ถ้วย
- น้ำพีช 1/4 ถ้วย
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- น้ำผึ้ง
- โซดา
วิธีการทำ : นำน้ำผึ้งและน้ำมะนาวมาผสมให้เข้ากันก่อนใส่ลงไปที่ก้นแก้ว ต่อมาเติมน้ำแอปเปิล น้ำพีช และคนให้เท่ากัน ชิมรสชาติ ถ้าได้ความเปรี้ยวและความหวานที่ต้องการแล้วใส่โซดาตามลงไปได้เลย (น้ำผลไม้ที่ใส่ลงไปควรแช่เย็นมาก่อน เพื่อความสดชื่นในการดื่ม)
-
โลโก โคโค่
เครื่องดื่มที่มีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น หอมกลิ่นมะพร้าวอ่อน ๆ อุดมไปด้วยแคลเซียม
วัตถุดิบ
-
- น้ำแข็ง
- ไอศกรีมวานิลลา 1/2 ถ้วย
- นมไขมันต่ำ 1 ถ้วย
- มะพร้าวขูด
- น้ำเชื่อม
วิธีการทำ : นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่องปั่น ยกเว้นน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง ปั่นให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมรสชาติ หากขาดความหวานให้ค่อย ๆ เติมน้ำเชื่อมลงไป เมื่อรสชาติพอดีแล้ว ใส่น้ำแข็งลงไปปั่นเพิ่ม และพร้อมเสิร์ฟ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ความจริงแล้วเราสามารถเลือกทานได้ตามใจเรา โดยที่ไม่ต้องมีแอลกอฮอล์ได้ ทั้งนี้นอกจากจะรสชาติถูกปากแล้ว วัตถุดิบ และวิธีการทำก็แสนง่าย แล้วยังดีต่อสุขภาพอีก คุณแม่ท่านไหนที่นำสูตรของเราไปลองทำดูแล้วก็สามารถมาบอกเล่าสูตรของตัวให้เราฟังได้ที่แอปพลิเคชันของ theAsianparent ได้นะคะ เผื่อคุณแม่ท่านอื่นจะได้นำไปลองปรับสูตรดูบ้าง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินโอเลี้ยงได้ไหม โอเลี้ยงเป็นเครื่องดื่มอันตรายต่อคนท้องหรือไม่
แนะนำ 12 วัตถุดิบที่นำมาปรุง อาหารสําหรับคนท้อง กินได้บำรุงดีตอนตั้งครรภ์
กินอะไรคลอดง่าย กินอะไรคลอดเร็ว วิธีให้คลอดลูกง่ายด้วยอาหารการกิน คนท้องกินอะไรดี
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนท้องกินม็อกเทลได้ไหม ได้ที่นี่!
ม็อกเทล คนท้องกินได้ไหมคะ จะเป็นอันตรายรึเปล่าคะ
ที่มา : Healthline, Parents, Allandabout, Applegaterecovery