มะม่วงเป็นผลไม้ที่ยอดเยี่ยมที่สามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้หลากหลาย เป็นผลไม้รสหวานฉ่ำ และอร่อยที่มีวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย เด็กเล็กกินมะม่วงได้ไหม มะม่วงมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กเล็ก และยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และปกป้องพวกเขาจากความเจ็บป่วยและโรคต่าง ๆ อีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพูดถึงประโยชน์ของมะม่วงสำหรับเด็กเล็กกัน
เด็กเล็กกินมะม่วงได้ไหม
อย่างที่เรารู้กันดีว่ามะม่วงเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อคนทั่วไป และมีประโยชน์ต่อคนท้อง หากเลือกทานให้พอดี มีปริมาณที่เหมาะสม แต่สำหรับคุณแม่ที่มีลูกวัยเตาะแตะที่กำลังหมดช่วงให้นมแม่เพียงอย่างเดียว คือ อายุตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี การหันมาหาเมนูอาหารที่ลูกน้อยสามารถกินได้ จึงกลายมาเป็นปัญหาของคุณแม่มือใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้ และเป็นข่าวดี เมื่อมะม่วงเป็นหนึ่งในอาหารที่เหมาะกับเด็กช่วงวัยนี้มาก
ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้ การให้ลูกได้กินมะม่วงที่ผ่านการปรุงให้เหมาะสมกับเด็กเล็ก จะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารที่สำคัญ และจำเป็นต่อพัฒนาการของร่างกายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามมะม่วงไม่ใช่เมนูที่ทดแทนได้ทุกอย่าง คุณแม่ควรหาอาหารประเภทอื่น ๆ ให้ลูกทาน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และครบ 5 หมู่ตั้งแต่ยังเล็ก
วิดีโอจาก : เด็กทารก Everything Channel
สารอาหาร และประโยชน์ของมะม่วงกับเด็กเล็ก
มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และอร่อยซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายสำหรับเด็ก อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม เป็นต้น มะม่วงเป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดี ซึ่งสามารถช่วยให้เด็กวัยยนี้รักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง และยังช่วยให้พวกเขารู้สึกอิ่มนานขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ มะม่วงยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ซึ่งสามารถช่วยปกป้องร่างกายของเด็ก จากผลกระทบที่เป็นอันตรายของอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ มะม่วงยังเป็นแหล่งพลังงานที่ดีให้กับเด็กอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย! อยากให้ลูกกินส้มได้หรือเปล่า เด็กเล็กกินส้มได้ไหม
ลูกสามารถกินมะม่วงได้ตอนไหน ?
หากต้องการให้ลูกน้อยกินมะม่วง จังหวะเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เวลาที่ดีที่สุดในการให้ลูกกินมะม่วง คือ หลังจากที่พวกเขาได้รู้จักกับผัก และผลไม้ชนิดอื่น และเคยลองทานมาแล้ว โดยปกติแล้วจะเป็นเด็กวัยหัดเดินอายุประมาณ 12 เดือน เนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะยอมรับอาหาร และรสชาติใหม่ ๆ มากขึ้นในวัยนี้ ไม่ใช่กินได้แค่นมแม่อีกต่อไป หากให้ลูกกินมะม่วงเร็วเกินไป ลูกก็อาจจะไม่ค่อยกิน หรือจำไปเองว่ามะม่วงไม่ใช่อาหารที่ตนเองชอบ
ลูกยังกินนมแม่อยู่ ควรทำอย่างไร ?
ลูกวัย 6 เดือนขึ้นไป หลายคนอาจค่อย ๆ หย่านมแม่ไปได้เอง บางคนอาจยังกินนมแม่อยู่แม้อายุจะมากกว่า 2 ปีแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะต้องให้แต่เพียงนมแม่เท่านั้น คุณแม่สามารถให้ลูกน้อยลองกินอาหารมื้ออื่น ๆ ร่วมด้วยเสมอ เพื่อเตรียมพร้อม และสร้างความคุ้นเคยต่ออาหารชนิดอื่น ๆ นอกจากนมแม่ ที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ในอนาคต ดังนั้นต่อให้ลูกน้อยยังกินนมแม่อยู่บ้าง คุณแม่ก็ควรแบ่งมื้ออาหารของลูกให้ทานอย่างอื่นด้วย และแน่นอนว่าการกินมะม่วงบด ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
วิธีฝึกลูกให้กินมะม่วง
เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกน้อยกินแต่นมแม่เท่านั้น มะม่วงจึงถือเป็นอาหารที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ วิธีที่ง่าย และปลอดภัยที่สุดในการแนะนำมะม่วงให้กับเด็กเล็ก คือการบดให้เป็นสมูทตี้ หรือโยเกิร์ต หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้พวกเขาลองชิมก่อน สิ่งนี้สามารถช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับรสชาติได้ดี เมื่อแนะนำมะม่วงให้เด็กเล็ก สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการให้มะม่วงมากเกินไปในครั้งเดียว และควรสังเกตอาการของลูกน้อยหลังกินไปแล้ว เพราะหากมีอาการแพ้จะได้พบแพทย์ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
วิธีปรุงมะม่วงสำหรับเด็กเล็ก
เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กวัยนี้จะได้รับประสบการณ์ที่มีต่อการกินมะม่วงที่ดีต่อสุขภาพ และปลอดภัยที่สุด สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมการปรุงมะม่วงอย่างเหมาะสม เคล็ดลับในการปรุงมะม่วงสำหรับเด็กมีดังนี้
- ปอกมะม่วง แล้วหั่นเป็นลูกเต๋า เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีหลุม หรือเส้นใยที่เป็นอันตรายในมะม่วง
- นำมะม่วงก้อนไปตั้งไฟในกระทะด้วยน้ำมันเล็กน้อยจนเนื้อมะม่วงนิ่มเล็กน้อย
- บดมะม่วงเป็นก้อนในเครื่องเตรียมอาหาร หรือเครื่องปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด
- เสิร์ฟมะม่วงบดได้เลย หรือนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต ซีเรียล หรือข้าวโอ๊ต
สิ่งที่ต้องระวังหากให้ลูกน้อยกินมะม่วง
แม้ว่าการให้มะม่วงสำหรับเด็กจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ควรพิจารณาด้วย คือ ต้องตระหนักถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพเหล่านี้ก่อนที่จะแนะนำให้ลูกกินมะม่วง ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เราหมายถึง คือ โอกาสที่จะเกิดการสำลัก เนื่องจากมะม่วงมีเนื้อสัมผัสที่ลื่นมาก และอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กที่จะเคี้ยวและกลืน
นอกจากนี้มะม่วงยังเป็นอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้สูง และอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาในเด็กบางคนได้ ดังนั้น การสังเกตสัญญาณของอาการแพ้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และสุดท้าย คือ มะม่วงมีวิตามินเอสูง ซึ่งอาจเป็นพิษได้หากได้รับในปริมาณมาก ดังนั้นจึงไม่ควรให้ลูกกินมะม่วงมากเกินไป ควรเน้นอาหารเมนูอื่น ๆ ที่ลูกสามารถทานได้ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย! เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม กินสูตรไหนถึงจะดีต่อร่างกาย
เด็กเล็กกินมะม่วงได้มากแค่ไหน ?
ทางด้านของสมาคมกุมารแพทย์แห่งอเมริกา (American Academy of Pediatrics) แนะนำว่าเด็กเล็ก ควรกินมะม่วงไม่เกินหนึ่งในสี่ของถ้วยต่อครั้ง นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือ ต้องหั่นมะม่วงเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการสำลัก การกินมะม่วงในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ สามารถช่วยให้เด็ก ๆ ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการในวัยนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
มะม่วงเป็นผลไม้ที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่สามารถเพิ่มเข้าไปในเมนูอาหารของเด็กได้ แต่ต้องระวังผลไม้ต้องปอกเปลือก ปรุง บด หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เนื่องจากเด็กอาจเคี้ยวหรือกลืนได้ยาก คุณแม่อย่าลืมติดตามปฏิกิริยาอาการเมื่อลูกเริ่มกินมะม่วงเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่แพ้มะม่วง การแนะนำมะม่วงให้เด็กวัยนี้เป็นวิธีที่ดีในการทำให้ลูกน้อยได้กินอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่มากขึ้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
กินขนมปังได้ไหม เริ่มกินขนมปังได้ตอนอายุกี่ขวบ ?
เด็กเล็กกินเต้าหู้ได้ไหม ? ตอบข้อสงสัยที่แม่อยากรู้ เต้าหู้มีประโยชน์ต่อลูกแค่ไหน
เด็กกินชีส ได้ไหม? กินแล้วมีประโยชน์หรือไม่ พ่อแม่ทุกคนต้องรู้
ที่มา : 1