X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ไขข้อสงสัย! เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม กินสูตรไหนถึงจะดีต่อร่างกาย

บทความ 5 นาที
ไขข้อสงสัย! เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม กินสูตรไหนถึงจะดีต่อร่างกาย

เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กัน ในบทความนี้ค่ะ สำหรับโยเกิร์ตนั้นถือเป็นอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็กเล็ก และมีประโยชน์ต่าง ๆ ต่อสุขภาพมากมาย เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเด็ก ๆ และโยเกิร์ตไม่เพียงแต่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยแคลเซียม และวิตามินดี ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูก เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น โยเกิร์ตถือเป็นตัวเลือกที่ง่าย และสะดวกสำหรับอาหารเช้า หรืออาหารว่าง

ดังนั้น บทความในวันนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของโยเกิร์ตสำหรับเด็กเล็กกันค่ะ ว่าเมื่อไหร่ที่ควรแนะนำให้เด็กนั้นรู้จักโยเกิร์ต และสูตรโยเกิร์ตไหนที่จะเหมาะสำหรับเด็ก ๆ รวมถึงวิธีตรวจสอบให้แน่ใจว่าโยเกิร์ต เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเจ้าตัวน้อยของคุณ ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลย

 

ประโยชน์ทางโภชนาการของโยเกิร์ตสำหรับเด็ก

 

เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม

 

ก่อนที่จะแนะนำโยเกิร์ตให้กับลูกน้อยของคุณ สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องเข้าใจคุณประโยชน์ทางโภชนาการของโยเกิร์ตก่อนว่า สารอาหารของตัวโยเกิร์ตนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ เป็นแหล่งแคลเซียม และวิตามินดีที่ดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูก นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังมีโปรตีนสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อ รวมทั้งให้พลังงานด้วย นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังมีโพรไบโอติกซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ในการช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหารอีกด้วย

 

เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม เมื่อไหร่ที่ควรแนะนำให้เด็กกิน?

ในส่วนของการแนะนำโยเกิร์ตให้ลูกน้อยของคุณ วิธีการก็ไม่ต่างจากการแนะนำผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ ส่วนใหญ่ American Academy of Pediatrics แนะนำว่า ให้แนะนำลูกน้อยของคุณกินโยเกิร์ต หลังจากอายุครบ 12 เดือนไปแล้ว เพราะโยเกิร์ตเป็นแหล่งแคลเซียม โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่ดี ดังนั้น การใส่โยเกิร์ตลงในอาหารของลูกน้อย จึงถือว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัย นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งแข็ง ทำให้เด็กกินได้ง่าย และควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ที่ไม่หวาน เพราะน้ำตาลที่เติมเข้าไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้ค่ะ

 

ความแตกต่างระหว่างโยเกิร์ตธรรมดา และโยเกิร์ตปรุงแต่ง

 

เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม

 

เมื่อแนะนำโยเกิร์ตให้กับลูกน้อย สิ่งสำคัญคือคุณแม่จะต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างโยเกิร์ตรสธรรมดา และรสต่าง ๆ ก่อนว่าสำหรับโยเกิร์ตธรรมดานั้นจะทำจากนมและเชื้อสดเท่านั้น และโดยปกติจะมีน้ำตาลน้อยกว่าโยเกิร์ตปรุงแต่ง และในส่วนของโยเกิร์ตธรรมดานั้นจะสามารถผสมกับผลไม้ ผัก และส่วนผสมเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติได้ และโยเกิร์ตปรุงแต่งก็มักจะเติมน้ำตาล สารกันบูด สี และกลิ่นเทียม ดังนั้น สิ่งสำคัญก็คือจะต้องอ่านฉลากของโยเกิร์ตปรุงแต่ง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับความหลากหลายที่ดีต่อสุขภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ

 

วิธีการแนะนำโยเกิร์ตให้กับเด็กเล็ก

การแนะนำโยเกิร์ตให้เด็ก ๆ สามารถทำได้อย่างง่าย ถ้ารู้จักวิธีการทำอย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญคือคุณแม่จะต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป และให้กินในปริมาณเล็กน้อย และวิธีที่ดีที่สุดก็คือให้กินโยเกิร์ตรสธรรมดา ไม่หวาน ไม่เติมน้ำตาล หรือสารปรุงแต่งใด ๆ และคุณสามารถเติมผลไม้สด น้ำผึ้ง หรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติอื่น ๆ ที่ทำให้อร่อยขึ้นได้ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า กรีกโยเกิร์ตจะข้นกว่า และมีรสฝาดมากกว่า ดังนั้น จึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า สำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่านี้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : กินโยเกิร์ตมื้อเช้ามีดีกว่าที่คิด เมนูโยเกิร์ตและประโยชน์ของโยเกิร์ตที่ควรรู้ 

 

วิธีทำโยเกิร์ตสำหรับเด็กเล็ก

การทำโยเกิร์ตสำหรับเด็กเล็กเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ง่ายมาก ๆ อย่างแรกก็คือจะต้องเลือกประเภทของโยเกิร์ตที่จะใช้ก่อน และสิ่งสำคัญคือจะต้องเลือกโยเกิร์ตสูตรเฉพาะสำหรับเด็ก เช่นเดียวกับโยเกิร์ตสำหรับผู้ใหญ่นั่นเอง ซึ่งในส่วนของโยเกิร์ตสำหรับเด็กเล็ก ก็ควรมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ซึ่งเรียกว่าโพรไบโอติก เพราะแบคทีเรียชนิดนี้จะช่วยรักษาระบบลำไส้ให้แข็งแรง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการเตรียมโยเกิร์ตสำหรับลูก อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือจะต้องแน่ใจว่าโยเกิร์ตไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป เมื่อโยเกิร์ตพร้อมแล้ว ก็สามารถเสิร์ฟแบบธรรมดา หรือใส่ผลไม้ หรือสารให้ความหวานเพิ่มก็ได้ค่ะ

 

โยเกิร์ตสูตรไหนกินแล้วดีต่อร่างกาย?

โยเกิร์ตเป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่ดีเยี่ยม ทำให้เป็นของว่างที่ดีสำหรับเด็ก ๆ และยังสามารถช่วยในการย่อยอาหาร เนื่องจากมีโพรไบโอติก แถมโยเกิร์ตยังเป็นอาหารอเนกประสงค์ที่สามารถนำมาใช้ทำสูตรอาหารต่าง ๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่พาร์เฟต์หวาน ไปจนถึงอาหารคาว เช่น ฟริตทาทาใส่ผัก หรือโยเกิร์ต เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้เพื่อช่วยสร้างสูตรอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากจะเลือกโยเกิร์ตมาให้เด็ก ๆ กิน แนะนำให้ตรวจดูสูตรโยเกิร์ตก่อน เพื่อที่จะได้รู้จักคุณประโยชน์มากมายของตัวโยเกิร์ต เพราะโยเกิร์ตแต่ละสูตรจะมีสารอาหารไม่เท่ากัน และถ้าหากคุณกำลังมองหาไอเดีย ลองเข้าไปที่เว็บไซต์ออนไลน์อย่าง Allrecipes.com ที่นำเสนอสูตรโยเกิร์ตที่หลากหลายสำหรับเด็กได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : กรีกโยเกิร์ต โยเกิร์ตอีกชนิด ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อทารกน้อย

 

โยเกิร์ตชนิดใดที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก

 

เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม

 

เมื่อแนะนำให้ลูกรู้จักโยเกิร์ต สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องเลือกโยเกิร์ตชนิดที่เหมาะสม ซึ่งโยเกิร์ตรสที่เหมาะสมนั่นก็โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ที่ไม่หวานจะเหมาะที่สุดสำหรับเด็ก เนื่องจากโยเกิร์ตปรุงแต่งมักจะมีน้ำตาลที่เพิ่มมาสูงมาก ดังนั้น การเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติจึงถือเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีน้ำตาลน้อยกว่า และมีโพรไบโอติก ซึ่งมีประโยชน์ต่อลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกัน

และกรีกโยเกิร์ตก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เนื่องจากมีโปรตีนสูงกว่า แล้วก็ยังมีโพรไบโอติก หลีกเลี่ยงโยเกิร์ตที่วางตลาดในชื่อ ‘โยเกิร์ตสำหรับเด็ก’ เนื่องจากอาจมีน้ำตาลสูงกว่า และมีสารเติมแต่ง ถ้าเป็นไปได้ ให้ซื้อโยเกิร์ตออร์แกนิก เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมจะปราศจากฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ และยาฆ่าแมลง

 

ความแตกต่างระหว่างโยเกิร์ตแบบปกติ และแบบกรีก

เมื่อแนะนำโยเกิร์ตให้เด็กเล็ก สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างโยเกิร์ตธรรมดา และกรีกโยเกิร์ต โยเกิร์ตธรรมดาสามารถเป็นอาหารว่างที่อร่อย และดีต่อสุขภาพสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตาม สำหรับโยเกิร์ตแบบปกตินั้นจะมีน้ำตาลมากกว่ากรีกโยเกิร์ต ซึ่งกรีกโยเกิร์ตถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากจะมีโปรตีน และแคลเซียมมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป และมีน้ำตาลน้อยกว่า และกรีกโยเกิร์ตยังเข้มข้นกว่าด้วย  อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อมาให้ลูกกิน ก็คือคุณจะต้องแน่ใจว่ากรีกโยเกิร์ตที่คุณเลือกนั้นจะต้องเป็นแบบธรรมดา ไม่หวาน และไม่ใส่สารให้ความหวานเทียม หรือน้ำตาลเพิ่มค่ะ

บทความจากพันธมิตร
วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield

 

โยเกิร์ตถือเป็นอาหารว่างที่ดีสำหรับเด็กเล็ก โดยให้สารอาหารที่สำคัญ อย่างเช่น แคลเซียม โปรตีน และวิตามินบี 12 และวิธีการกินที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ ก็คือแนะนำให้กินโยเกิร์ตในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโยเกิร์ตนั้นไม่มีสารให้ความหวานเทียม ซึ่งในปัจจุบันนั้นได้มีโยเกิร์ตหลากหลายสูตรที่เด็ก ๆ สามารถกินได้อย่างเพลิดเพลิน แต่โยเกิร์ตชนิดที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา จะต้องเป็นโยเกิร์ตแบบธรรมดา มีไขมันต่ำจะดีที่สุด เพื่อที่โยเกิร์ตจะได้สามารถเป็นของว่างที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่ต่อร่างกายสำหรับเด็ก ๆ ค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

โยเกิร์ตลดน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี จะลดความอ้วนต้องกินอย่างไรให้ได้ผล

5 เมนูโยเกิร์ต อาหารเช้าแสนอร่อย เฮลตี้ พร้อมแจกสูตร โยเกิร์ตโฮมเมด ทำง่าย

สูตรโยเกิร์ตโฮมเมดง่าย ๆ เด็กกินได้ แม่ท้องกินดี

ที่มา : 1

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Suttida Butdeewong

  • หน้าแรก
  • /
  • โภชนาการ
  • /
  • ไขข้อสงสัย! เด็กเล็กกินโยเกิร์ตได้ไหม กินสูตรไหนถึงจะดีต่อร่างกาย
แชร์ :
  • การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ ปลอดภัยหรือไม่?

    การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ ปลอดภัยหรือไม่?

  • วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
    บทความจากพันธมิตร

    วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น

  • วิตามิน D คนท้อง ขาดวิตามินดีอันตรายหรือไม่? ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

    วิตามิน D คนท้อง ขาดวิตามินดีอันตรายหรือไม่? ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

  • การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ ปลอดภัยหรือไม่?

    การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ ปลอดภัยหรือไม่?

  • วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
    บทความจากพันธมิตร

    วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น

  • วิตามิน D คนท้อง ขาดวิตามินดีอันตรายหรือไม่? ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

    วิตามิน D คนท้อง ขาดวิตามินดีอันตรายหรือไม่? ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ