ไขข้อสงสัย! อยากให้ลูกกินส้มได้หรือเปล่า เด็กเล็กกินส้มได้ไหม

ส้ม หนึ่งในผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีวิตามินและไฟเบอร์สูง คุณพ่อคุณแม่ก็คงอยากจะให้ลูกน้อยรับประทานส้มบ้าง ให้ร่างกายแข็งแรง แต่จริง ๆ แล้วส้มเหมาะสำหรับเด็กเล็กหรือเปล่า ควรให้ลูกรับประทานส้มหรือไม่ แล้วควรให้ลูกรับประทานส้มได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ วันนี้ theAsianparent มีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ เด็กเล็กกินส้มได้ไหม มาฝากตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

ส้ม ผลไม้ดีมีประโยชน์

เมื่อพูดถึงผลไม้ที่มีประโยชน์สำหรับลูกน้อยของคุณพ่อและคุณแม่ ส้มถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะส้มอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ  ที่ดีต่อร่างกาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายสำหรับเด็กวัยหัดเดินที่กำลังเติบโต เพราะส้มไม่เพียงช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของเด็กเล็ก แต่ยังเป็นแหล่งใยอาหารชั้นเยี่ยม และยังช่วยปกป้องสายตาของเด็กวัยหัดเดินได้อีกด้วย

แล้วเมื่อไหร่คือเวลาที่เหมาะสมที่จะให้ลูกเริ่มรับประทานส้ม แล้วเมื่อถึงเวลา ต้องเริ่มให้ลูกรับประทานได้อย่างไร และทำยังไงให้ลูกน้อยสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานส้ม ในบทความนี้ เราจะมาตอบคำถามที่คุณพ่อคุณแม่สงสัยเหล่านี้ทั้งหมดกัน เราจะพูดถึงประโยชน์ของส้มสำหรับเด็กวัยหัดเดิน เมื่อใดที่ควรให้ลูกกิน วิธีแนะนำส้มให้ลูกน้อย วิธีทำให้อ่อนลงสำหรับเด็กวัยหัดเดิน และสูตรส้มแสนอร่อยสำหรับเด็กวัยหัดเดิน อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแนะนำส้มให้กับลูกวัยเตาะแตะของคุณ และวิธีใช้ประโยชน์จากผลไม้ที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : เคล็ด(ไม่)ลับ เปลือกส้มทำอะไรได้บ้าง ?? มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

เด็กเล็กกินส้มได้ไหม มาดูกัน

จริง ๆ แล้ว ส้มเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เด็ก ๆ รับไปประทานได้ แต่ต้องระวัง หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกน้อยรับประทานส้ม เราขอแนะนำให้รอจนกว่าลูกน้อยอายุครบ 1 ปีบริบูรณ์ก่อนจะดีที่สุด เนื่องจากในช่วง 0-12 เดือน ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ และในส้มยังประกอบไปด้วยกรดซิตริก ที่สามารถก่อให้เกิดความระคายเคือง ปั่นป่วนท้องได้ นอกจากนี้ กรดซิตริกในส้มยังสามารถทำให้ลำไส้ทะลุได้เลยทีเดียว คุณพ่อและคุณแม่ต้องระวังเป็นอย่างมากเลยค่ะ!

นอกจากนี้ส้มยังประกอบไปด้วยน้ำตาลจำนวนมาก เกินความจำเป็นของร่างกายของทารก เรียกได้ว่าส้มยังไม่ได้ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่ร่างกายของเด็กทารกต้องการ ถึงจะมีวิตามินซีสูง และมีไฟเบอร์แต่ก็ยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ของเด็กวัย 0-12 เดือนเท่าไหร่ แต่หากลูกน้อยมีอายุครบ 1 ขวบแล้วสามารถลองให้ลูกน้อยรับประทานส้มได้เลย ได้ประโยชน์ชัวร์!

มาดูประโยชน์ที่แท้จริงของส้ม

คุณพ่อคุณแม่คงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการรับประทานส้ม และต้องการให้แน่ใจว่าเด็กวัยหัดเดินของเราได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับสุขภาพและพัฒนาการของพวกเขา ส้มถือเป็นผลไม้ที่ดีในการเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นให้กับร่างกาย เพราะพวกมันเป็นผลไม้ที่ มีไฟเบอร์ วิตามินซี โพแทสเซียม และโฟเลตสูง นอกจากนี้ยังมีแคลอรีและไขมันต่ำ ทำให้เป็นของว่างเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับเด็กวัยเตาะแตะ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจคุณประโยชน์ทางโภชนาการของส้มสำหรับเด็กวัยหัดเดินเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้สูงสุด

เด็กเล็กเริ่มกินส้มได้ตอนกี่ขวบ

การทราบอายุที่เหมาะสมที่จะให้เด็กวัยหัดเดินรับประทานส้ม เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและมั่นใจว่าลูกจะได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์จริง ๆ ต่อร่างกาย โดยทั่วไป แนะนำให้รอจนกว่าเด็กวัยหัดเดินจะมีอายุระหว่าง 12 ถึง 18 เดือนก่อนที่จะให้เด็ก ๆ ลองรับประทานส้มดู ส่วนเด็กวัย 0-12 เดือนควรรับประทานเพียงแค่นมแม่ก็สามารถได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกาย แถมยังดีต่อระบบย่อยอาหารอีกด้วย

การที่ให้เด็กตั้งแต่อายุ 12 เดือนขึ้นไปรับประทานส้ม เนื่องจากเด็กในวัยนี้จะสามารถควบคุมการเคี้ยว และการกลืนได้ดีกว่า และสามารถกินอาหารที่มีเนื้อแข็งได้อย่างปลอดภัย ไม่ติดคอ นอกจากนี้การให้ลูกกินส้มยังสามารถช่วยพัฒนาต่อมรับรสของเด็กวัยหัดเดิน และช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเพลิดเพลินไปกับรสหวานฉ่ำของส้มได้อีกด้วย ส้มอาจกลายเป็นผลไม้สุดโปรดของพวกเขาได้เลย ด้วยความที่มีรสหวาน อมเปรี้ยว รับประทานแทนขนมหวานได้ดีต่อร่างกายอีกด้วย

ส้มนิ่ม ย่อยง่าย สบายท้องลูก

หากคุณพ่อและคุณแม่อยากเริ่มที่จะให้ลูกรับประทานส้ม สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ส้มนิ่มลงก่อนที่จะให้ลูกของคุณรับประทานโดยการ นำส้มไปอุ่น หรือต้มประมาณ 10 นาที หรือนึ่งประมาณ 5 นาที วิธีนี้จะทำให้ส้มนิ่มลงและทำให้ลูกเคี้ยวและย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถบดส้มที่ปรุงสุกแล้วด้วยส้อมหรือปั่นให้ละเอียดในเครื่องปั่นเพื่อให้ลูกกินได้ง่ายขึ้นได้อีกด้วย ถือเป็นวิธีที่ดี ที่จะเริ่มต้นให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่มีเนื้อแข็งขึ้น

วิธีเตรียมเมนูส้มสำหรับเด็กเล็ก

สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมส้มให้กับเด็กวัยหัดเดินอย่างถูกวิธีเพื่อส่งเสริมนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ เริ่มต้นด้วยการหั่นส้มเป็นชิ้น เป็นชิ้น พอดีคำ สิ่งนี้ทำให้เด็กวัยหัดเดินจัดการได้ง่ายขึ้นและช่วยให้พวกเขาเรียนรู้วิธีการกินอย่างถูกต้อง เสิร์ฟส้มกับอาหารอื่น ๆ ที่เด็กวัยหัดเดินชอบ เช่น ขนมปังปิ้ง โยเกิร์ต หรือข้าวโอ๊ต แนะนำให้รู้จักส้มชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับรสชาติต่าง ๆ หรือ การทำให้ส้มนิ่มลงยังช่วยให้เด็กวัยหัดเดินรับประทานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : ยายป้อนน้ำส้มคั้นให้หลานทารก ตกดึกแหวะนมต้องแอดมิท อันตรายที่ต้องระวัง!

แชร์เคล็ดลับ เอาส้มไปทำเป็นอาหารให้ลูกน้อยอย่างไรดี

ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ จึงเป็นอาหารว่างที่ดีสำหรับเด็กวัยเตาะแตะ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มให้ลูกรับประทานส้มอย่างไรดี? วิธีที่ดีที่สุดคือเริ่มจากแบบปอกเปลือกและหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ ให้เด็กได้ลองหยิบจับเข้าปากด้วยตนเอง เป็นหนึ่งใน Food Fingering ที่สามารถช่วยให้เด็กได้ฝึกกล้ามเนื้อมือ ฝึกหยิบส้มเป็นชิ้นและเอาเข้าปากด้วยตัวเอง นอกจากนี้คุณยังสามารถทำให้ส้มนิ่มลงได้ด้วยการต้มหรือนึ่งเพื่อให้เด็กย่อยได้ง่ายขึ้น มีสูตรอาหารสร้างสรรค์มากมายที่คุณสามารถทำด้วยส้มที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพสำหรับเด็กวัยหัดเดิน ตัวอย่างเช่น สมูทตี้ส้ม มัฟฟินส้ม แพนเค้กส้ม และข้าวโอ๊ตบดส้ม

ข้อควรระวังหากให้ลูกกินส้ม

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ส้มแก่เด็กวัยหัดเดิน แม้ว่าส้มจะเป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็กวัยหัดเดิน แต่ก็อาจทำให้สำลักได้เนื่องจากมีขนาดเล็กและเปลือกลื่น ไม่ควรให้เด็กเล็กกินส้มทั้งลูก แต่ควรให้ส้มที่ปอกเปลือก ควรตัดส่วนสีส้มเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการสำลัก ดังนั้นขณะรับประทานคุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการสำลัก นอกจากนี้ผู้ปกครองควรตระหนักถึงโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะสามารถรับประทานส้มได้ 

ส้มมีผลต่อการย่อยของเด็กเล็กไหมนะ

หลังจากแนะนำส้มให้กับลูกน้อยแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของลูกเพื่อให้แน่ใจว่าลูกสามารถย่อยผลไม้ได้อย่างส้มได้ โดยไม่เกิดอาการใด ๆ อย่างอาหารไม่ย่อย ท้องไส้ปั่นป่วน สังเกตอาการไม่สบายหรือปัญหาทางเดินอาหารหลังจากกินส้มและปรึกษากุมารแพทย์หากมีอาการเหล่านั้นเกิดขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบการบริโภคส้มในแต่ละวันและให้แน่ใจว่าไม่ได้บริโภคมากเกินไป โดยในแต่ละวัยก็ต้องการปริมาณของส้มที่แตกต่างกันออกไป อาจคำนวณได้โดยใช้ปริมาณของน้ำส้มเป็นหลัก ได้ดังนี้

• 0-1 ขวบ ไม่ควรดื่ม
• 1-3 ขวบ ไม่ควรเกิน 120 ml./ วัน
• 4-6 ขวบ ไม่ควรเกิน 180 ml./ วัน
• 7-8 ขวบ ไม่ควรเกิน 240 ml./ วัน

โดยสรุปแล้ว ส้มเป็นอาหารว่างที่ดีและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็กเล็ก ตราบใดที่คุณตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการสำลักและสามารถให้ลูกรับประทานคุณอย่างปลอดภัย เพราะส้มเป็นแหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นแก่ลูกน้อยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีเยี่ยมของลูกน้อย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ผัก ผลไม้สีส้ม แหล่งรวมวิตามิน บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน ผิวสดใสแข็งแรง !!

9 ผักและผลไม้สีขาว ประโยชน์ดี ๆ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ได้อย่างไรบ้าง ?

9 ผัก ผลไม้สีเหลือง บอกลาปัญหาท้องผูก รวมคุณค่าดี ๆ สำหรับคนอยากหน้าเด็ก

ที่มา : Parentsone